'สุวิระ' พา 'ใหญ่' มือฆ่ายกครัว ทำแผนฯ ชาวบ้านรุมสาปแช่ง

'สุวิระ' พา 'ใหญ่' มือฆ่ายกครัว ทำแผนฯ ชาวบ้านรุมสาปแช่ง

"สุวิระ" นำตัว "ใหญ่" ผู้ต้องหาฆ่ายกครัว 3 ศพ แล้วเผาอำพรางคดี ที่สามร้อยยอด ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางประชาชนมารอตะโกนสาปแช่ง

พลตำรวจเอกสุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษา สบ.10พร้อมด้วย พลตำรวจโทสุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7พันตำรวจเอกบุญเลิศ บวรมหาชนก ผกก.สภ.สามร้อยยอด พร้อมด้วยชุดพนักงานสอบสวน สภ.สามร้อยยอด ได้นำตัว นายนิพนธ์ หรือใหญ่ ช้างแก้ว อายุ38ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุฆ่าครอบครัวผู้ดูแลนากุ้งในอำเภอสามร้อยยอด ประกอบด้วย นายสำราญ เพชรประดับ อายุ40ปี เจ้าของบ้าน พร้อมด้วยนางสาวรุ้งทิพย์ สายทอง อายุ38ปี และเด็กหญิงประภัสสร เพชรประดับ อายุขวบครึ่ง บุตรสาวและเผาบ้านเพื่ออำพรางคดี มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บ้านเลขที่100หมู่7ตำบลศาลาลัย อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงที่ทราบข่าว มารอดูเหตุการณ์ตั้งแต่ช่วงเช้า ทำให้ต้องจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และหน่วยกู้ภัยมูลสว่างเมธีธรรมสถานสามร้อยยอด มาอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัย ป้องกันการรุมประชาทัณฑ์

ก่อนทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พลตำรวจเอกสุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษา สบ.10ได้เข้าพูดคุยทำความเข้าใจกับญาติของผู้เสียชีวิตที่รออยุ่ตั้งแต่เช้า จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายใหญ่ ผู้ต้องหาลงจากรถตู้ เพื่อมาทำแผนขั้นตอนการลงมือก่อเหตุ โดยนายใหญ่ได้อธิบายขั้นตอนในวันเกิดเหตุว่า ช่วงเวลาประมาณ22.00น. ได้เดินมาเรียกนายสำราญ สอบถามว่าได้นายสำราญ เป็นคนแจ้งตำรวจมาจับตนหรือไม่ ซึ่งนายสำราญบอกว่าไม่รู้เรื่อง นายใหญ่ได้ทำท่าหันหลังกลับ และหยิบอาวุธปืนขนาด11มม.ที่เตรียมไว้มาจ่อยิงนายสำราญ1นัด จากนั้นนายสำราญ ได้หันหลังวิ่งหนีเข้าบ้านตนจึงตามไปยิงซ้ำจนกระสุนหมดแม็กกาซีน จากนั้นตนจึงเข้าไปในบ้าน พบนางสาวรุ้งทิพย์ กอดประคองลูกน้อยไว้ในอ้อมกอด นายใหญ่จึงยิงนางสาวรุ้งทิพย์จากด้านหลังหลายนัด จนร่างของนางสาวรุ้งทิพย์ ล้มหงาย และกระสุนก็ทะลุผ่านร่างไปโดนลูกสาวจนเสียชีวิต หลังก่อเหตุนายใหญ่ได้เดินไปที่บ้านพักของตนซึ่งอยู่ใกล้กัน

จากนั้นเวลาประมาณ04.00น. ตนได้กลับมาบ้านที่เกิดเหตุ เห็นแกลอนน้ำมันวางอยู่ข้างรถยนต์ของนายสำราญ จึงได้ยกแกลลอนน้ำมันราดน้ำมันไปบนตัวรถ และเข้าไปราดน้ำมันภายในบ้าน บริเวณร่างผู้เสียชีวิตทั้ง3ราย และราดไปที่บริเวณกองเสื้อผ้า และใช้ไฟแช็คจุดไฟไปที่กองผ้าจนเพลิงลุกไหม้ จากนั้นตนก็ออกมายืนดูผลงานบริเวณหน้าบ้าน จนแน่ใจว่าเพลิงเผาบ้านทั้งหลัง ก่อนจะขับขี่จักรยานยนต์หลบหนีไป และนำปืนที่ใช้ก่อเหตุไปซ่อนไว้ในท่อระบายน้ำในบ่อน้ำของนายประยูร เพชรประดับ ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากที่เกิดเหตุ แล้วก็หลบหนีไป จนมาถูกตำรวจจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา

ทั้งนี้ระหว่างการนำตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ชาวบ้านที่มามุงดูต่างตะโกนสาปแช่งนายใหญ่ ที่ใจคอโหดเหี้ยมฆ่าได้แม้กระทั่งเด็กวับขวบเศษที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ขอให้ประหารชีวิต ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องรีบนำตัวนายใหญ่ออกจากที่เกิดเหตุทันทีหลังจากที่ทำแผนเสร็จสิ้น

พลตำรวจเอกสุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษา สบ.10กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญ ได้สั่งการให้ตั้งคณะพนักงานสอบสวนเข้ามาร่วมกันรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบปากคำผู้ต้องหาอย่างละเอียด จนมีหลักฐานเอาผิดผู้กระทำผิดอย่างชัดเจน และยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอย่างรัดกุม โดยขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว2คน คือ นายนิพนธ์ หรือใหญ่ ช้างแก้ว ผู้ต้องหาที่ลงมือก่อเหตุ และรายที่2คือ นายประยูร เพชรประดับ ซึ่งเป็นญาติของผู้ตาย ในข้อหากระทำความผิดฐานช่วยเหลือผู้อื่นไม่ให้ต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลง ซ่อนเร้น เอาไปเสียซึ่งเป็นพยานหลักฐานในการกระทำความผิด โดยสาเหตุที่ผู้ต้องหาลงมือก่อเหตุเพราะโกรธแค้นเนื่องจากเข้าใจว่านายสำราญเป็นคนแจ้งตำรวจมาจับตนในข้อหามียาบ้าจำนวน6เม็ด และมีอาวุธปืน ซึ่งคดีนี้ก็ถือว่าคลี่คลายลงอย่างรวดเร็วและรัดกุม