เสี่ยงคุก8ปี หนุ่มขนถังอสุจิไปลาว คาด2วันรู้ผลดีเอ็นเอ

กรณีจนท.กรมศุลกากร จ.หนองคาย จับกุม นายนิธินนทน์ ศรีธานิยานันท์ อายุ 25 ปี ลักลอบนำถังไนโตรเจนบรรจุหลอดใส่อสุจิ 6 หลอดออกนอกประเทศ ก่อนจับกุมได้เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา และเปรียบเทียบปรับ นายนิธินนทน์ เป็นเงิน 200,000 บาท ตามความผิด พ.ร.บ.ศุลกากร ในการนำของต้องห้ามออกนอกราชอาณาจักร และปล่อยตัวไป

ล่าสุด นายพิชิต ลีลาศ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ ด่านอาหารและยาประจำสะพานมิตรภาพไทย–ลาว จ.หนองคาย กล่าวว่า จัดส่งถังไนโตรเจนของกลางถึงโรงพยาบาลขอนแก่น ซึ่งจะทำการตรวจพิสูจน์ให้ทราบอย่างละเอียดแม้กระทั่งดีเอ็นเอ เพื่อเป็นข้อมูลเชิงลึก สำหรับเจ้าหน้าที่ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน จะทราบผล ก่อนจะพิจารณาดำเนินคดีกับนายนิธินนทน์และผู้จ้างวานต่อไป

ซึ่งขณะนี้ ต้องระบุให้ชัดว่า ภายในหลอดนั้นเป็นสิ่งใด เพราะจะมีความแตกต่างของความผิดตาม มาตรา 40 และมาตรา 41 ของ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธ์ทางการแพทย์ พ.ศ.2558 และอัตราโทษก็แตกต่างกันด้วยกล่าว

โดยมาตรา 40 ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดสร้างเก็บรักษาขายนำเข้าส่งออกหรือใช้ประโยชน์ซึ่งตัวอ่อนที่มีสารพันธุกรรมของมนุษย์มากกว่าสองคนขึ้นไปหรือตัวอ่อนที่มีเซลล์หรือส่วนประกอบของเซลล์มนุษย์กับสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์อื่นรวมกันอยู่ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนมาตรา 41 ห้ามมิให้ผู้ใดซื้อเสนอซื้อขายนำเข้าหรือส่งออกซึ่งอสุจิไข่หรือตัวอ่อน มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ