'ไทยแอร์เอเชีย'โลว์คอสท์แรกผ่านเกณฑ์'ไอซีเอโอ'

'ไทยแอร์เอเชีย'โลว์คอสท์แรกผ่านเกณฑ์'ไอซีเอโอ'

"ไทยแอร์เอเชีย" โลว์คอสท์แรกรับมอบใบรับรองผู้ดำเนินอากาศใหม่ "ธรรศพลฐ์" เผยห่วงเศรษฐกิจ-ผู้โดยสารจีนทรงตัว เล็งควงกพท.ขยายสิทธิการบินรับอินเดียโต

ที่ผ่านมา รัฐบาลพยายามเร่งแก้ไขปัญหามาตรฐานการบิน โดยขณะนี้สายการบินในไทยทยอยผ่านการตรวจสอบมาตรฐานพร้อมรับมอบใบรับรองผู้ดำเนินอากาศใหม่ (AOC Re-certification) ตามมาตรฐานองค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอซีเอโอ)

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า วานนี้ (21 เม.ย.) สายการบินไทยแอร์เอเชียได้เป็นสายการบินพาณิชย์รายที่2ของประเทศต่อจากบางกอกแอร์เวย์ส ที่ผ่านการตรวจสอบและได้รับการรับรองดังกล่าว จากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หลังจากเข้าเริ่มเข้ารับการตรวจสอบตามกระบวนการตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยมีสายการบินทั้งหมดที่ต้องตรวจสอบ 25 สายการบิน

ทั้งนี้ ระหว่างที่สายการบินอื่นๆทยอยดำเนินการตรวจสอบมาตรฐาน กระทรวงต้องการทุกสายขยายเส้นทางต่อเนื่องโดยมุ่งไปยังประเทศที่ไม่นำปัจจัยเรื่องธงแดงมาพิจารณา เช่น จีน ฮ่องกง สิงคโปร์และประเทศในกลุ่มกัมพูชา เมียนมา ชาว และเวียดนาม (ซีแอลเอ็มวี) โดย กพท.ดำเนินการทำงานเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องตามที่ไอซีเอโอกำหนดไปพร้อมกัน

4 สายการบินทยอยได้รับรอง

ขณะที่นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กล่าวว่า ในช่วงปลายเดือน เม.ย.นี้การบินไทยจะเป็นสายการบินต่อไปที่ผ่านการรับรองเอโอซีใหม่และในเดือน พ.ค.จะมีอีก 4 สายการบิน ทยอยได้รับการรับรอง ได้แก่ นกแอร์ ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ ไทยสมายล์ และนกสกู๊ต ส่วนสายการบินในกลุ่มที่อยู่ขั้นตอนที่ 3 การตรวจเอกสาร ได้แก่ เค-ไมล์แอร์ โอเรียนท์ ไทยแอร์ไลนส์ ซึ่งอยู่ในขั้นเดียวกันกับสายการบินจากกลุ่มที่ 2 ได้แก่ ไทยไลอ้อนแอร์ นิวเจนแอร์เวย์ส และเอ็มเจ็ทส์

แก้ไขเอสเอสซีคืบหน้า75%

สำหรับความคืบหน้าในการดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย(เอสเอสซี) 33 ข้อ ขณะนี้มีความคืบหน้าไปกว่า 75% โดยในช่วงปลายเดือน มิ.ย.จะยื่นเรื่องเชิญให้ไอซีเอโอพิจารณาเข้ามาตรวจสอบ ICVM (ICAO Coordinated Validation Mission) เพื่อขอปลดธงแดงภายในเวลาที่กำหนดคาดว่าจะเข้ามาตรวจสอบได้ในราวเดือน ก.ย.-ต.ค.

ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขของ ICAO ได้กำหนดให้หลังจากเดือน มิ.ย.สายการบินที่ไม่ผ่านการประเมินต้องหยุดให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศ กพท.จึงเชิญ 16 สายการบินมาร่วมประชุมเพื่อชี้แจ้งเงื่อนไขไปแล้วตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา

ส่วนการที่ไอซีเอโอจะเข้ามาตรวจสอบการรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานดอนเมืองและสุวรรณภูมิในเดือน ก.ค.นี้ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ได้ยกระดับการรักษาความปลอดภัยขึ้นมาเป็นพิเศษแล้วและยืนยันว่ามีมาตรการพร้อมรับมือต่อเหตุการณ์ภัยก่อการร้ายที่เกิดขึ้นในหลายประเทศของฝั่งตะวันตก

“โลว์คอสท์”รายแรกได้รับรอง

นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า หลังจากรับมอบใบรับรองผู้ดำเนินอากาศใหม่โดยเป็นสายการบินโลว์คอสท์รายแรกที่ได้นั้นต่อไปนี้จะเร่งขยายเส้นทางบินทั้งไทยและต่างประเทศต่อเนื่องซึ่งที่ผ่านมาแม้ว่าไทยจะยังติดธงแดงจากไอซีเอโอแต่ไม่กระทบต่อการขยายเส้นทางของไทยแอร์เอเชียที่มีระยะการบินเฉลี่ย4ชั่วโมงเนื่องจากประเทศจุดหมายหลักเช่น จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ อินเดีย และหลายประเทศในอาเซียน ยังเชื่อมั่นและอนุญาตให้เปิดจุดบินและความถี่ต่อเนื่อง

“การติดธงแดงไม่ได้มีผลต่อการขยายเส้นทางมากและ 90% ของเส้นทางทั้งหมดที่อยู่ในระยะการบินยังสามารถขยายเข้าไปได้ตามปกติแต่การได้ใบรับรองในครั้งนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจต่อผู้โดยสารจากกลุ่มยุโรปอเมริกาบางกลุ่มที่กังวลเรื่องมาตรฐานและไม่เลือกใช้บริการเมื่อต้องเข้ามาเส้นทางในประเทศ”

ไทยแอร์ฯรับมองเครื่องบินใหม่5ลำ

สำหรับปีนี้ มีการรับมอบเครื่องบินใหม่5ลำลดลงจากปีที่แล้วรับมอบ6ลำคิดเป็นอัตราที่นั่งรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้น16%และวางเป้าหมายผู้โดยสารรวมไว้ 19 ล้านคนเพิ่มจากปี 2559 ทำไว้ 17 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม ประเมินสถานการณ์ในช่วงครึ่งปีแรกยอมรับว่ายังเป็นห่วงสภาพเศรษฐกิจระหว่างประเทศและตลาดจีนที่เป็นหนึ่งในลูกค้ากลุ่มหลักของไทยแอร์เอเชียหลังจากที่รัฐบาลดำเนินมาตรการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4 ของปี 2559 ตลาดเริ่มฟื้นตัวขึ้นตามลำดับแต่ยังไม่กลับมาเติบโตแรงเท่าเดิมโดยเฉพาะการให้บริการเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลท์) ที่สร้างรายได้ให้ไทยแอร์เอเชียราว 5% นั้นยังไม่กลับเข้ามามีเพียงตลาดเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) ที่เติบโตดี

สังเกตได้จาก ช่วงไตรมาสแรกเนื่องจากมีเทศกาลตรุษจีนผลักดันจึงทำให้ลูกค้าจีนเพิ่มขึ้น 6% แต่ยอดจองล่วงหน้าในช่วงไตรมาส 2 ยังอ่อนตัวจึงประเมินว่าตลาดจีนปีนี้น่าจะทรงตัวและต้องไปรอดูสถานการณ์อีกครั้งช่วงโกลเด้นวีคไตรมาส 3 และช่วงไฮซีซั่นต้นไตรมาส 4

เดินแผนรักษาแชร์ลูกค้าจีน

อย่างไรก็ตาม ไทยแอร์เอเชียมีแผนจะรักษาส่วนแบ่งการบรรทุกผู้โดยสารจีนเมื่อเทียบกับตัวเลขตลาดขาเข้า (อินบาวด์) ทั้งหมดโดยคาดว่าจะเพิ่มเป็น 25-30% จากที่ปีก่อนมีส่วนแบ่งราว 20% ของนักท่องเที่ยวจีนทั้งหมดที่มาไทยด้วยจำนวนผู้โดยสารที่ทำไว้ราว 1.9 ล้านคน

ขณะเดียวกัน เพื่อหาตลาดอื่นมาทดแทนในช่วงที่ตลาดจีนยังปรับตัวจะหันไปเพิ่มส่วนแบ่งของตลาดอาเซียนเพิ่มขึ้นจากเดิมมีสัดส่วนราว 10% จะเพิ่มเป็น 12% วางกลยุทธ์ทั้งการเปิดบินจุดใหม่เพิ่มที่ไม่เคยเดินทางไป เช่น ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และการเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินที่มีความต้องการของนักท่องเที่ยวสูง

อย่างไรก็ตาม สำหรับการขยายไปเส้นทางในอินเดียที่ขณะนี้มีจุดบินอยู่ 4 เมืองยังไม่สามารถขยายสิทธิการบินเพิ่มเติมได้แล้วดังนั้นหลังจากที่ปลดล็อกธงแดงจากไอซีเอโอ แล้วจะขอให้ กพท.ช่วยไปเจรจากับอินเดียเพื่อขยายสิทธิการบินเพิ่มเติมคาดว่าจะเจรจาได้ภายในปีนี้

“ปีนี้ยังตั้งเป้ารักษาส่วนแบ่งการบรรทุกผู้โดยสารในภาพรวมของตลาดโลว์คอสต์ต่อเนื่องอีกปีโดยตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 30% หลังจากปี 2559 ทำไว้ที่ 29.5% ส่วนรายได้ปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้ราว 16% เท่ากับจำนวนที่นั่งซึ่งเพิ่มเข้ามา”