(สกู๊ป) จุดอ่อน-จุดแข็ง 4 ทีมสุดท้ายศึกยูซีแอล 2016-2017

(สกู๊ป) จุดอ่อน-จุดแข็ง 4 ทีมสุดท้ายศึกยูซีแอล 2016-2017

ได้ข้อสรุปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ 4 ทีมสุดท้ายของศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาล 2016-2017 โดยประกอบไปด้วย เรอัล มาดริด, แอตเลติโก มาดริด, ยูเวนตุส และ โมนาโก

     ซึ่งปีนี้เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2003 ที่ไม่มีทีมจากอังกฤษ และเยอรมันหลุดเข้ามาถึงรอบตัดเชือก โดยทั้ง 4 ทีมดังกล่าว ถือว่าผ่านศึกมาพอสมควรกว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ จึงเรียกได้ว่าพวกเขาคือทีมระดับคุณภาพของทวีปยุโรปอย่างแท้จริง ซึ่งแม้บางทีมอาจจะดูมีชื่อชั้น รวมถึงตัวผู้เล่นที่เหนือกว่า แต่เชื่อว่าไม่ใช่งานง่ายในการก้าวไปคว้าถ้วย “บิ๊กเอียร์” มาครอง
     ล่าสุดสื่อต่างประเทศได้มีการวิเคราะห์ถึงจุดอ่อนและจุดแข็งของแต่ละทีมว่าเป็นเช่นไรบ้าง รวมถึงโอกาสในการคว้าแชมป์ยุโรปถ้วยใหญ่ว่าจะมีมาก หรือน้อยเพียงใด?
เรอัล มาดริด (สเปน)
    สำหรับทีม “ราชันชุดขาว” ถือว่าผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศมาแบบหืดจับ โดยในซีซั่นนี้ พวกเขาในฐานะแชมป์เก่า โชว์ฟอร์มได้ไม่ดีเท่าไหร่ในรอบแบ่งกลุ่ม หลังเข้ารอบเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มเอฟ ส่วนแชมป์ตกเป็นของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ อย่างไรก็ตามในรอบ 16 ทีมสุดท้าย แชมป์เก่าก็ไม่ทำให้แฟนๆผิดหวัง ด้วยการถล่ม นาโปลี สกอร์รวม 6-2 และในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ก็สามารถผ่าน บาเยิร์น มิวนิค ด้วยสกอร์รวม 6-3 ที่ต้องสู้กันจนถึงช่วงต่อเวลาพิเศษในเกมที่ 2 และมีประเด็นเกี่ยวกับการตัดสินตามมามากมาย
     จุดแข็ง : สำหรับจุดแข็งของ เรอัล มาดริด นั้น คงจะหนีไม่พ้นแนวรุกที่ทรงคุณภาพอย่าง “บีบีซี” ซึ่งประกอบด้วย คาริม เบนเซมา, แกเร็ธ เบล และ คริสเตียโน โรนัลโด ที่ทำประตูได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ และยากจะหาแนวรับของทีมไหนมาหยุดได้ โดยเฉพาะหลายหลัง ที่ระเบิดฟอร์มสุดยอดด้วยการกดแฮตทริกใส่ บาเยิร์น มิวนิค ในเกมนัดที่ 2 และกลายเป็นแข้งรายแรกที่ทำถึง 100 ประตูในรายการนี้ รวมไปถึงตัวสนับสนุนเกมรุกคนอื่นๆ ทั้ง ลูกา โมดริช และ โทนี โครส ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม
     จุดอ่อน : แนวรับ คือสิ่งที่ เรอัล มาดริด มีปัญหามาอย่างยาวนาน เนื่องจากแท็คติกที่เน้นเกมบุกของทีม ทำให้เกมรับหละหลวม และเสียประตูเยอะ รวมไปถึงความไม่เข้าใจกันของนักเตะในเกมรับ ส่งผลให้ซีซั่นนี้พวกเขาเสียประตูไปแล้วกว่า 15 ลูกด้วยกัน
     โอกาสในการคว้าแชมป์ : สำหรับ เรอัล มาดริด ถือว่าเป็นเต็งหนึ่งของรายการในขณะนี้ เนื่องจากศักยภาพทีม รวมถึงประสบการณ์ในถ้วยดังกล่าวที่เหนือกว่าทีมอื่น อย่างไรก็ตามหากนักเตะตัวหลักของทีมนัดกันฟอร์มตก โดยเฉพาะกองหลัง พวกเขาก็อาจพลาดพลั้งได้ และหมดโอกาสเป็นทีมแรกที่ป้องกันแชมป์ยูซีแอลได้สำเร็จ
แอตเลติโก มาดริด (สเปน)
     ทีมรองแชมป์เก่าจากปีที่แล้ว ที่พลาดท่าพ่ายต่อ เรอัล มาดริด คู่ปรับร่วมเมืองไปจากการยิงจุดโทษ หลังเสมอกันในเวลา 1-1 ทำให้ในปีนี้ทีม “ตราหมี” หมายมั่นปั้นมือว่าจะทำได้ดีเหมือนซีซั่นก่อน ซึ่งพวกเขาก็ออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการคว้าแชมป์กลุ่มดี ก่อนผ่าน ไบเเอร์ เลเวอร์คูเซน ในรอบ 16 ทีม ด้วยสกอร์รวม 2 นัด 4-2 และล่าสุดคือการปราบ เลสเตอร์ ซิตี ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ด้วยสกอร์รวม 2 นัด 2-1
     จุดแข็ง : แน่นอนว่าจุดแข็งของทีม “ตราหมี” คือแท็คติกการเล่นอันรัดกุม และจังหวะสวนกลับที่เฉียบขาด โดยมี อองตวน กรีซมันน์ เป็นหัวใจในเกมรุก ซึ่งต้องยกเครดิตให้กับ ดิเอโก ซิเมโอเน กุนซือของทีม โดยแผนการเล่นดังกล่าว ก็สามารถเล่นงานทีมที่ใหญ่กว่าพวกเขามาแล้วในหลายปีที่ผ่านมา
     จุดอ่อน : แน่นอนว่าการเล่นที่รัดกุม นั่นหมายถึงการที่ทีมจะผลิตสกอร์ได้น้อย ซึ่งหากพวกเขาโดนยิงไปก่อน ทีม “ตราหมี” มักจะเสียสมดุล เหตุต้องเล่นเกมรุกมากขึ้น และไม่ใช่สไตล์ที่พวกเขาถนัด
โอกาสในการคว้าแชมป์ : หากจะมองข้ามพวกเขาว่าคงไม่มีสิทธิ์คว้าแชมป์ คงต้องคิดใหม่เนื่องจากผลงานในปีที่แล้วพิสูจน์ได้อย่างดีว่าทีม “ตราหมี” แข็งแกร่งเพียงใด และในปีนี้อาจเป็นโอกาสอันดีในการคว้าแชมป์ยุโรปถ้วยใหญ่สมัยแรกของพวกเขา
ยูเวนตุส (อิตาลี)
     ทีมสุดแข็งแกร่งจากกัลโช เซเรีย อา ซึ่งปีที่แล้วตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยการพ่ายต่อ บาเยิร์น มิวนิค อย่างไรก็ตามในซีซั่นนี้ “ม้าลาย” ภายใต้การนำของ มัสซิมิเลียโน อัลเลกรี กลับมาสู่ฟอร์มการเล่นที่ดีอีกครั้ง ด้วยการคว้าแชมป์กลุ่มเอช ในรอบแบ่งกลุ่ม ก่อนในรอบ 16 ทีมสุดท้ายจะเอาชนะ ปอร์โต ได้อย่างขาดลอยด้วยสกอร์รวม 2 นัด 3-0 และในรอบ 8 ทีมสุดท้าย พวกเขาก็ล้มเต็งแชมป์อีกทีม และแชมป์ยุโรป 5 สมัย อย่าง บาร์เซโลนา ด้วยสกอร์รวม 2 นัด 3-0 ซึ่งถือเป็นการถอนแค้น หลังทีม “เจ้าบุญทุ่ม” เคยเอาชนะ ยูเวนตุส ได้ในรอบชิงชนะเลิศรายการนี้เมื่อซีซั่น 2014-2015
     จุดแข็ง : เกมรับของพวกเขา ถือว่าเป็นจุดเด่นของทีมมาอย่างยาวนาน ไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตู จานลุยจิ บุฟฟอน ที่มีความเหนียวหนึบ แม้อายุจะเลยเลข 4 ไปแล้วก็ตาม รวมถึงแผงหลังที่นำโดย จอร์โจ คิเอลลินี ก็ยากที่จะแนวรุกทีมใดจะผ่านไปทำประตูได้ นอกจากนั้นในปีนี้พวกเขายังได้อาวุธหนักในเกมรุกอย่าง กอนซาโล อิกวาอิน มาเสริมทีม ซึ่งเจ้าตัวก็เล่นเข้าขากับ เปาโล ดีบาลา ได้เป็นอย่างดี และช่วยกันถล่มประตูให้ทีมมากมาย
     จุดอ่อน : ถ้ามองโดยผิวเผินแล้ว ยูเวนตุส ถือเป็นทีมที่แข็งแกร่ง และไร้ช่องโหว่ อย่างไรก็ตาม พวกเขามีผู้เล่นอายุมากหลายคนอยู่ในทีม ซึ่งหากเกมต้องดวลกันถึงช่วงต่อเวลา พวกเขาเหล่านี้จะสามารถยืนระยะได้หรือไม่ รวมถึงตัวสำรองบางตำแหน่งที่ยังไม่สามารถแทนที่ตัวจริงได้
     โอกาสในการคว้าแชมป์ : ปีนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่ “ม้าลาย” จะก้าวไปหยิบแชมป์ยุโรปสมัยที่ 3 ให้กับทีม เนื่องจากดูทีมคู่แข่งที่เหลือแล้ว มีแค่ เรอัล มาดริด ที่ดูเหนือกว่าพวกเขานิดๆ เท่านั้น ซึ่งถ้ายังรักษาฟอร์มอันแข็งแกร่งแบบในรอบที่ผ่านมาได้ เชื่อว่า ยูเวนตุส มีสิทธิ์คว้าแชมป์มาครองอย่างแน่นอน
     โมนาโก (ฝรั่งเศส)
     สุดยอดทีม “ม้ามืด”ประจำปีนี้ ที่ทำผลงานได้ดี และได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมากทั้งในลีก และในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก หลังจากที่พวกเขาเว้นวรรคจากการเล่นถ้วยยูซีแอลไป 1 ปี ในปีนี้กุนซือ ลีโอนาร์โด จาร์ดิม พาต้นสังกัดเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มอี ซึ่งพวกเขาต้องพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี ในรอบดังกล่าว ซึ่งหลายคนมองว่านี่คงจะเป็นการจบเส้นทางของถ้วยยูซีแอล ของ โมนาโก ในฤดูกาลนี้ อย่างไรก็ตามจ่าฝูงของศึกลีก เอิง ลบคำสบประมาท และแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งด้วยการเอาชนะ “เรือใบสีฟ้า” ด้วยสกอร์รวม 2 นัด 6-6 แต่เข้ารอบด้วยกฏประตูทีมเยือน ก่อนผ่าน โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ อีกหนึ่งทีมดังจากเยอรมัน ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์รวม 2 นัด 6-3
     จุดแข็ง : โมนาโก ชุดนี้มีนักเตะดาวรุ่งมากหน้าหลายตา ซึ่งก่อนต้นซีซั่นเชื่อว่าหลายคนคงไม่รู้จักพวกเขาสักคน แต่แข้งดาวโรจน์เหล่านี้กลับเป็นกลไกสำคัญของทีม ทั้งแนวรุกที่นำโดย คิเลียน เอ็มบัปเป, แบร์นาโด ซิลวา และ โทมัส เลอมอง ที่เหมาะกับแผนโต้กลับเร็วของ จาร์ดิม เป็นอย่างดี ส่วนในเกมรับก็มี ติเอมูเอ บากาโยโก, เบนจามิน เมนดี และ ฟาบินโญ ที่ทำผลงานได้ดีเกินวัย
     จุดอ่อน : แน่นอนว่าการมีนักเตะดาวรุ่งในทีมเยอะ ก็จะมีข้อดีในเรื่องพละกำลัง และความกระหายในเกมของแข้งเหล่านี้ อย่างไรก็ตามพวกเขายังขาด “ประสบการณ์” โดยเฉพาะในฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่ที่ต้องดวลกับยอดทีมระดับโลก รวมถึงนักเตะซูเปอร์สตาร์มากมาย ซึ่งพวกเขาอาจมีความประหม่า และส่งผลต่อฟอร์มการเล่นได้
     โอกาสในการคว้าแชมป์ : ถ้าพูดกันตามความเป็นจริงคือ โมนาโก คือทีมที่มีโอกาสคว้าแชมป์น้อยที่สุดในบรรดา 4 ทีม โดยบริษัทรับพนันถูกกฏหมายในต่างประเทศ ให้อัตราต่อรองไว้ที่ 1/7 ซึ่งน้อยกว่าทุกทีม อย่างไรก็ตามในโลกของฟุตบอล ไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้ เหมือนกับที่พวกเขาเคยผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศมาแล้วเมื่อปี 2004
     ทั้งนี้ การจับสลากในรอบรองชนะเลิศของศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาล 2016-2017 จะมีขึ้นในช่วงเย็นวันนี้ ซึ่งต้องมาดูกันว่าใครจะพบกับใครบ้าง และสุดท้ายทีมใดจะได้เข้าไปแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศที่สนาม มิลเลนเนียม สเตเดียม ประเทศเวลส์ ในวันที่ 3 มิ.ย.นี้ เพื่อตำแหน่งเจ้ายุโรปประจำซีซั่น