สั่งประหารชีวิต 'หนุ่มสเปน' มือฆ่าหั่นศพ

สั่งประหารชีวิต 'หนุ่มสเปน' มือฆ่าหั่นศพ

ศาลอาญา พิพากษาประหารชีวิตสถานเดียว "หนุ่มสเปน" วัย 38 ปีมือฆ่าหั่นศพเพื่อนร่วมชาติ

ศาลอ่านพิพากษาคดีฆ่าหั่นศพชาวสเปน หมายเลขดำ อ.1372/2559 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายอาเธอร์ เซการา พรินเซพ หรืออาร์ตู (Mr.Segarra Princep Artur) อายุ 38 ปี สัญชาติสเปน เป็นจำเลย ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย, หน่วยเหนี่ยวกักขังฯ , ลักทรัพย์ และข้อหาอื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4) , 199 , 310 สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 30 ม.ค.59 เวลา 08.20 น. ได้พบชิ้นส่วนของนายเดวิด เบอเนต โมราด ชาวสเปน ลอยมาในแม่น้ำเจ้าพระยา ติดบริเวณอู่ต่อเรือเอกชนแห่งหนึ่งใกล้วัดคฤหบดี แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กทม. และอีกหลายชิ้นลอยมาในแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตรับผิดชอบ สภ.เมืองนนทบุรี , สภ.ปากเกร็ด และ สภ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี โดยการสืบสวนสอบสวน พบว่าจำเลยพาผู้ตายเข้าไปในห้องพักพีจี คอนโด พระราม 9 อสมท. แขวง – เขตห้วยขวาง กทม. จากนั้นได้ฆ่าผู้ตายก่อนหั่นศพ และนำชิ้นส่วนทิ้งลงในแม่น้ำเจ้าพระยาตามจุดต่างๆ ก่อนหลบหนีไปพร้อมเงินของผู้ตาย จำนวน 734,940 บาท ไปอยู่ที่ตลาดการค้าชายแดนบ้านหาดเล็ก ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด

โดยศาลเบิกตัว นายอาเธอร์ จำเลย มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อฟังคำพิพากษา ซึ่งนายอาเธอร์ ถูกคุมขังมานาน 1 ปี 2 เดือนนับตั้งแต่ถูกจับกุมและฝากขังเมื่อเดือน ก.พ.59 ซึ่งชั้นพิจารณา จำเลยแถลงให้การปฏิเสธทุกกล่าวข้อหาโดยระบุว่าได้อาศัยอยู่ในพีจี คอนโด แต่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับผู้ตาย

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่าแม้โจทก์ไม่มีประจักษ์พยาน แต่มีภาพกล้องวงจรปิด , แม่บ้าน , แฟนสาวของจำเลย และกลุ่มตำรวจตรวจสถานที่ ตำรวจตรวจหลักฐาน และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ตรวจ ดีเอ็นเอคราบเลือด ลายนิ้วมือแฝงเครื่องเจียรไฟฟ้า พบเป็นดีเอ็นเอจำเลยและตรงกับผู้ตาย โดยมูลเหตุจูงใจเชื่อว่า ฆ่าเพื่อทรัพย์สินเงินฝากธนาคารของผู้ตายหลายสิบล้านบาท

จึงพิพากษาให้ประหารชีวิตสถานเดียว ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว่ก่อนเพื่อประโยชน์ทรัพย์สินผู้ตาย ซึ่งจำเลยได้ปลอมข้อมูลโอนเงินเข้าบัญชีตัวเองมาแล้วกว่า 730,000 บาท ศาลจึงให้จำเลย ต้องชดใช้คืนเงินนั้นให้ญาติผู้ตายด้วย พร้อมส่งริบอุปกรณ์เครื่องมือหั่นศพและตู้แช่แข็งด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลใช้เวลาอ่านคำพิพากษานานชั่วโมงเศษโดยมีล่ามแปลภาษาสเปนให้จำเลยเข้าใจผลคำพิพากษาโดยตลอด ซึ่งวันนี้มีสาวต่างชาติที่เป็นบุคคลรู้จักจำเลย 1 คนและบาทหลวงอีกคน มาฟังคำพิพากษาด้วย และยังมีสื่อมวลชนสเปนร่วมฟังคำตัดสินเช่นกัน ขณะที่มีผู้แทนกงสุลสเปน ร่วมด้วย

ภายหลังฟังคำพิพากษาแล้ว จำเลยไม่มีสีหน้าตกใจ หรือเสียใจต่อผลดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะนำตัวไปคุมขังยังเรือนจำบางขวางต่อไป