Daily Market Outlook (21 เม.ย.60)

Daily Market Outlook (21 เม.ย.60)

อารมณ์หุ้นโลกเป็นบวก

คาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นวันนี้ในทิศทางเดียวกับหุ้นโลก จากคำประกาศของทำเนียบขาวว่าประธานาธิบดี Donald Trump จะลงนามในคำสั่งทางการบริหารในเรื่องการปฏิรูปภาษีในวันนี้โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะลดภาระภาษีของชาวอเมริกัน อันเป็นเรื่องที่ตลาดรอคอยมานาน แม้ว่าการเลือกตั้งฝรั่งเศสที่กำลังจะเกิดขึ้นเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน รวมทั้งมีการยิงกันบนถนนสายหลักกลางกรุงปารีสเมื่อคืน แต่ผลสำรวจความเห็นล่าสุดที่ว่า Macron จะเป็นผู้ชนะในท้ายที่สุดก็ลดความกลัวว่า ฝรั่งเศสจะออกจาก EU ไม่มีปัจจัยใหม่ภายในประเทศวันนี้

หุ้นเด่นวันนี้: THANI (ราคาปิด 5.25 บาท, ซื้อ, ราคาเป้าหมายปี 60 ของ AWS 6.20 บาท)

บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง เป็นหุ้นเด่นในวันนี้เนื่องจากกำไรที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง อัตราเงินปันผลตอบแทนที่น่าสนใจ รวมถึงแนวโน้มของตลาดรถบรรทุกในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น THANI รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/60 ที่ 246 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.8% QoQและ 17.3% YoYสาเหตุของการเติบโตอย่างแข็งแกร่งนี้มาจากการขยายตัวของสินเชื่อหนุนโดยความต้องการรถบรรทุกที่เพิ่มขึ้น โดยสินเชื่อในไตรมาสดังกล่าวเพิ่มขึ้น 5% QoQและ 14% YoYซึ่งเป็นไปตามการฟื้นตัวของปริมาณการขายรถเพื่อการพาณิชย์ที่เพิ่มขึ้น 7.7% YoYในช่วง 2 เดือนแรกของปี 60 เทียบกับการเติบโตเพียงเล็กน้อยที่ 0.2% ของทั้งปี 59 เราคาดว่าแนวโน้มนี้จะยังดำเนินต่อไปในช่วงที่เหลือของปี หนุนโดยปัจจัยสำคัญจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ ขณะที่การเพิ่มขึ้นของการค้าชายแดน รวมถึงผลผลิตทางการเกษตรที่เพิ่มขึ้นหนุนโดยภัยแล้งที่ไม่รุนแรงเท่าปีที่ผ่านมาคาดว่าจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนความต้องการรถบรรทุกเช่นกัน นอกจากนั้นแล้ว กฎหมายในการจำกัดน้ำหนักรถบรรทุกน่าจะทำให้ผู้ประกอบการต้องการเพิ่มจำนวนรถบรรทุกมากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการบรรทุกเกินน้ำหนัก เราคาดพอร์ตสินเชื่อของ THANI จะเพิ่มขึ้น 15% YoYเราคาดการณ์กำไรสุทธิจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 17.7% ในปี 60 และ 17.0% ในปี 61 และอีกปัจจัยที่สำคัญ หุ้น THANI ให้อัตราเงินปันผลตอบแทนที่น่าสนใจที่ 4.7% Price Pattern ของ THANI ยังมีความแข็งแกร่งในแนวโน้มหลักที่เป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily & Monthly Buy Signal โดยหาก Price Pattern ของ THANI สามารถปิดตลาดรายสัปดาห์ในวันนี้ได้เหนือ 5.10 บาท ก็จะกลับมาเกิด Weekly Buy Signal ครั้งใหม่ ซึ่งจะบ่งบอกว่าการปรับฐานทั้งในระยะสั้นและกลางของ THANI ที่ผ่านมานั้นได้จบแล้ว เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ THANI บ่งบอกว่าจะได้เห็นการทำ New High โดยมีเป้าหมายแรกของการทำ New High อยู่ที่ 6.30 บาท ทั้งนี้ THANI มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 4.88 บาท (Resistance: 5.35, 5.50, 5.75; Support: 5.20, 5.05, 4.78)

ปัจจัยสำคัญ

ประเด็นในประเทศ:

• สมคิดคงมุมมองบวกการเติบโตเศรษฐกิจ รองนายกรัฐมนตรีสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ยังมั่นใจแนวโน้มการเติบโตเศรษฐกิจไทย โดยคาดว่า GDP ไตรมาส 1/60 จะออกมามากกว่า 3% เมื่อตอนไตรมาส 4/59 อย่างแน่นอน หนุนโดยการลงทุนของภาครัฐ (ข่าวหุ้น)ความเห็น: มุมมองดังกล่าวสอดคล้องกับมุมมองของสภาพัฒน์เช่นกันที่คาดว่าการเติบโตเศรษฐกิจไตรมาส 1/60 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/59

• คลังพิจารณามาตรการรายได้เกษตรกร ก.คลังกำลังพิจารณาหลายมาตรการ ซึ่งรวมถึงรื้อฟื้นนโยบายประกันรายได้เกษตรกรแม้จะกำลังเช็คบิลมาตรการรับจำนำข้าวก็ตาม สำนักงานเศรษฐกิจการคลังและ ธกส. คาดว่าจะเสนอแนวคิดเกี่ยวกับมาตรการนี้แก่ ก.คลังเพื่อพิจารณาได้ในสัปดาห์หน้า (Bangkok Post)

• จัด 280 ลบ. ดันสตาร์ทอัพรับไทยแลนด์ 4.0 ซอฟแวร์ปาร์ค ประเทศไทยซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐภายใต้ ก.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จัดสรรงบ 280 ลบ. เพื่อสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพปีนี้ ประกอบด้วยงบ 80 ลบ. สำหรับเงินอุดหนุน (สตาร์ทอัพที่ผ่านคุณสมบัติรายละ 1 ลบ.) และ 200 ลบ. ตั้งกองทุนโครงการสนับสนุนเร่งการเติบโตของธุรกิจนวัตกรรมรายใหม่ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย (Research Gap Fund)(Bangkok Post) ความเห็น: การฟูมฟักสตาร์ทอัพเช่นนี้เป็นอีกก้าวเพื่อปรับโครงสร้างประเทศไทยและเพิ่มผลิตภาพ

• DTAC (ปิด 42.75 บาท, ขาย, ราคาเป้าหมาย 31 บาท) ประกาศกำไรไตรมาส 1/60 ที่ 229 ลบ. เพิ่มขึ้น 661% QoQแต่ลดลง 82% YoYเพราะค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น (SET)ความเห็น: การเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบไตรมาสก่อน (QoQ) เป็นผลจากฐานต่ำ เพราะไตรมาส 4/59 มีค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้าง 146 ลบ. หากไม่คิดผลของค่าใช้จ่ายนี้ การเติบโตของกำไร QoQจะเหลือ 30% แต่กำไรระดับ 229 ลบ. ในไตรมาส 1 ปีนี้ก็ยังถือว่าไม่น่าพอใจเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยกำไรรายไตรมาสปี 59 เท่ากับ 522 ลบ. อัตรากำไรจากการขายเครื่องมือถือแย่ลงเป็น -39% จาก -4% ในไตรมาส 1/59 ละ -20% จากไตรมาส 4/59 ต่อให้ได้คลื่นความถี่มาเพิ่มในอนาคตหรือมีการร่วมทุนเพื่อให้ได้คลื่นความถี่และโครงข่ายมา แต่ก็ต้องมีค่าตัดจำหน่ายก้อนใหญ่เพิ่มเข้ามาเป็นเงาตามตัว ดังนั้นเราจึงเห็นว่าควรแนะนำ “ขาย”

ต่างประเทศ:

• ฝรั่งเศสจะจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดี 2 รอบในวันที่ 23 เม.ย. และ 7 พ.ค. ผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่าในการเลือกตั้งน่าจะเป็นการชิงตำแหน่งระหว่าง นายเอ็มมานูเอล มาครอง ผู้สมัครที่มีแนวคิดสายกลาง และนางมารีน เลอเปน ผู้สมัครชิงตำแหน่งฝ่ายขวาจัดจากพรรค National Front และหนุนให้ฝรั่งเศสแยกตัวจากสหภาพยุโรป และต่อต้านผู้อพยพ โดยนายมาครองจะชนะการเลือกตั้งในที่สุด อย่างไรก็ตาม นายฌอง ลุค เมลองชอง ผู้สมัครฝ่ายซ้ายจัดมีคะแนนเพิ่มขึ้นทำให้นายมาครองมีคะแนนสูสีกับนายฟรองซัวส์ ฟิยง ผู้สมัครที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยม โดยในขณะนี้ทั้ง 2 รายมีคะแนนใกล้เคียงกับนางเลอเปน และนายมาครอง (Reuters)

• ประธานาธิบดีทรัมป์จะลงนามในคำสั่งพิเศษวันศุกร์นี้เพื่อค้นหาและลดภาระทางภาษีและมีบันทึก 2 ฉบับเพื่อทบทวนกฎระเบียบทางการเงิน โดยบันทึกทั้งสองฉบับสั่งให้รัฐมนตรีคลังทบทวนกฎหมาย Dodd-Frank ที่ใช้ในสมัยประธานาธิบดีโอบามาหลังเกิดวิกฤตทางการเงินในปีค.ศ. 2008-2009 คำสั่งพิเศษดังกล่าวระบุให้รมต. คลังทบทวนกฎระเบียบทางภาษีที่ออกมาในปี 2016 เพื่อกำหนดว่ามีฉบับใดบ้างที่ก่อให้เกืดภาระทางภาษีกับผู้เสียภาษีชาวอเมริกัน เพิ่มความซับซ้อนหรือมีผู้มีอำนาจตามกฎหมายมากเกินไป (Reuters)

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้นเมื่อวันพฤหัส เนื่องจากนักลงทุนรอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในสุดสัปดาห์นี้และความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงได้หนุนตลาดหุ้น หลังจากที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลงก่อนหน้านี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นและปิดที่ระดับ 2.25% หลังจากที่ปรับตัวลงช่วงสั้น ๆ ที่ระดับ 2.165% เมื่อวันอังคาร ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่วันที่ 10 พ.ย. และร่วงลงจากที่ระดับ 2.63% เมื่อวันที่ 14 มี.ค. (Reuters)

• เงินยูโรแข็งค่าสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์เทียบกับดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันพฤหัส เนื่องจากนักลงทุนซึมซับผลสำรวจความเห็นว่าสุดท้ายแล้วนายเอ็มมานูเอล มาครอง ผู้สมัครฝ่ายเป็นกลางของฝรั่งเศสจะชนะนางมารี เลอเปน ผู้สมัครฝ่ายขวาจัดในการเลือกตั้งรอบสองที่จะจัดขึ้นในอีก 2 สัปดาห์ถัดไป อย่างไรก็ตาม ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปิดบวก 0.06% สู่ระดับ 99.796 หลังจากร่วงลงต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ระดับ 99.374ในการซื้อขายก่อนหน้านี้ ส่วนเงินยูโรแข็งค่า 0.09% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0719 ดอลลาร์สหรัฐ (Reuters)

สหรัฐ:

• ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันพฤหัส โดยดัชนี Nasdaqปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งได้แรงหนุนจากการรายงานผลประกอบการของอเมริกัน เอ็กซ์เพรสจาก 82 บริษัทใน S&P500 ที่ได้รายงานประกอบการเข้ามาจนถึงขณะนี้ มีประมาณ 75% มีผลการดำเนินงานดีกว่าที่คาด ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของ 4 ไตรมาสที่ผ่านมาที่ 71% โดยรวมแล้ว กำไรของบริษัทต่าง ๆ ใน S&P500 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 11.1% ในไตรมาส 1/60 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับแต่ปี 2554 และเพิ่มขึ้นจาก 10.4% ของปลายสัปดาห์ก่อน (Reuters)

• จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสูงกว่าที่คาดเล็กน้อย แต่อัตราผู้ว่างงานซึ่งลดลงจากระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี ชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงตึงตัว จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 10,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 244,000 ราย หลังจากที่ลดลงติดต่อกัน 3 สัปดาห์ ตัวเลขดังกล่าวอยู่ในระดับต่ำกว่า 300,000 ราย ซึ่งแสดงว่าตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง เป็นเช่นนี้ติดต่อกัน 111 สัปดาห์แล้วและยาวนานที่สุดนับแต่ปี ค.ศ. 1970 ตลาดแรงงานใกล้มีการจ้างงานเต็มอัตราแล้ว โดยอัตราการว่างงานใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 10ปีที่ 4.5% นักวิเคราะห์ก่อนหน้านี้ประมาณการว่าจำนวนคนที่ยื่นขอสวัสดิการฯ เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 242,000 รายในสัปดาห์ก่อน (Reuters)

• กิจกรรมการผลิตในเขตมิด แอตแลนติกชะลอตัวในเดือนเม.ย. เนื่องจากคำสั่งซื้อใหม่และการจัดส่งสินค้าลดลง ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยว่าดัชนีกิจกรรมการผลิตในปัจจุบันลดลงอยู่ที่ 22.0 ในเดือนนี้จาก 32.8 ในเดือนมี.ค. ดัชนีดังกล่าวเป็นบวกติดต่อกัน 9 เดือนและยังคงอยู่ในระดับสูง (Reuters)



ยุโรป:

• หุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้นวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนพอใจกับผลประกอบการของ Man Group ขณะที่ Pandora ยังคงแนวโน้มในปีนี้ นอกจากนี้ หุ้นฝรั่งเศสยังปรับตัวเพิ่มขึ้นก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในรอบแรกที่จะมาถึง (Reuters)

• เหตุโจมตีกรุงปารีสบดบังการเลือกตั้ง มีรายงานเจ้าหน้าที่ตำรวจหนึ่งรายถูกยิงเสียชีวิตขณะที่อีกสองรายได้รับบาดเจ็บ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นใจกลางกรุงปารีสบนถนนฌองเอลิเซเมื่อคืนวันพฤหัสที่ผ่านมาในช่วงที่ผู้สมัครประธานาธิบดีกำลังประกาศนโยบายหาเสียงบนโทรทัศน์ โดยในภายหลัง กลุ่มรัฐอิสลาม หรือ IS ได้ประกาศอ้างความรับผิดชอบในเหตุการณ์ครั้งนี้แล้ว (Reuters)

เอเชีย:

• ญี่ปุ่น: การสำรวจของ Reuters/Tankan ระบุว่าตัวเลขการค้าเดือน มี. ค. ของญี่ปุ่น รายงานการส่งออกเพิ่มขึ้น 12% สูงสุดในรอบกว่าสองปี ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ผลิตเพิ่มขึ้นหนึ่งจุดเป็น 26 ในการสำรวจ 529 บริษัทขนาดใหญ่และขนาดกลางซึ่งดำเนินการสำรวจระหว่างวันที่ 4-17 เม.ย.(Reuters)

• จีน: ซีผ่านการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ: ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้รับการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อวันพฤหัสบดีในฐานะตัวแทนของกุ้ยโจว เข้าร่วมการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ที่สำคัญในปีนี้ เมื่อเขาจะพยายามรวบรวมเสียงของสภาคองเกรสทุก ๆ 5 ปี จะเห็นนายสี เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับการมีอำนาจโดยการแต่งตั้งพันธมิตรเข้ากับแกนกลางของพรรค (Reuters)

สินค้าโภคภัณฑ์:

• น้ำมันดิบมีทั้งบวกและลบวันพฤหัส ในช่วงการซื้อขายที่บวกลบสลับกันตลอดวัน เป็นเพราะนักลงทุนให้น้ำหนักเรื่องสหรัฐผลิตน้ำมันเพิ่ม มากกว่าการที่ประเทศผู้ผลิต OPEC มีแนวโน้มร่วมกันลดกำลังการผลิตต่อ น้ำมันดิบ Brent บวก 10 เซนต์ปิด 53.03 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบสหรัฐลบ 5 เซนต์ปิด 50.39 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)

• ทองคำคงที่วันพฤหัส หลังร่วงรายวันแรงสุดในรอบหกสัปดาห์ คงที่เพราะตลาดไม่ค่อยซื้อขาย รอการเลือกตั้งของฝรั่งเศส ราคาทองคำตลาดจรบวก 0.16% ปิดที่ 1,281.02 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทองคำแตะจุดสูงสุดรอบห้าเดือนที่ 1,295.42 ดอลลาร์เมื่อวันจันทร์ก่อนจะถอยร่นลงมา และสัปดาห์นี้อาจจะเป็นลบหลังจากเป็นบวกมาห้าสัปดาห์ติดกัน (Reuters)