ปณท.แจงเร่งตรวจสอบทุจริตบริษัทในเครือ

ปณท.แจงเร่งตรวจสอบทุจริตบริษัทในเครือ

ไปรษณีย์ไทยได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นการเร่งด่วน ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยและความรับผิดทางแพ่ง เพื่อดำเนินการกับผู้บริหารและพนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง

ไปรษณีย์ไทยแจงกรณีข่าวเผยแพร่ “สาวไส้ บิ๊กไปรษณีย์ไทย” พบ 2 ประเด็นส่อไปในทางประพฤติมิชอบ ทั้งการกำกับดูแลบริษัทลูกที่ สตง. ตรวจสอบหลังพบข้อพิรุธส่งกลิ่นหลายเรื่องและโครงการจัดซื้อจัดจ้างใน ปณท ที่หลายโครงการดูยังไงก็ไม่โปร่งใส ข้างนอกสดใส ข้างในเป็นโพรง” ตามที่เป็นข่าวเผยแพร่นั้น

บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด หรือ ปณท. ชี้แจงว่า สำหรับกรณีดังกล่าว ไปรษณีย์ไทยได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นการเร่งด่วน ในส่วนกรณีทุจริตบริษัทในเครือ คือ บริษัทไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด (ปณท.ดบ.) นั้น คณะกรรมการ ปณท.ดบ. ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยและความรับผิดทางแพ่ง เพื่อดำเนินการกับผู้บริหารและพนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และมีบทลงโทษทางวินัยและความรับผิดทางแพ่งกับผู้บริหารและพนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องแล้วตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค.2560 ที่ผ่านมา มีเพียงบางประเด็นที่อยู่ในข้อสังเกตของ สตง. คณะกรรมการ ปณท.ดบ. จึงให้ดำเนินการสอบสวนทางวินัยต่อไป ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของ ปณท.ดบ. ขณะนี้อยู่ในแผนการดำเนินงานเพื่อฟื้นฟูกิจการ คาดว่าจะสามารถทำกำไรได้ในปีนี้อย่างแน่นอน

สำหรับการจัดซื้อจัดจ้างของโครงการเช่าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ฯ ตามที่ระบุในข่าวนั้น เป็นโครงการเช่าอุปกรณ์สำหรับระบบส่งต่อและนำจ่าย ซึ่งอยู่ในแผนการขยายการติดตั้งระบบ New CA POS ให้กับที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ ซึ่งจำเป็นต้องจัดหาอุปกรณ์ในส่วนของระบบส่งต่อและนำจ่าย และเป็นส่วนหนึ่งของระบบ New CA POS เพื่อจัดสรรให้กับที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ ประกอบไปด้วย เครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่าย เครื่องอ่านรหัสแท่ง เครื่องพิมพ์ป้ายปากถุง เครื่องชั่งถุงไปรษณีย์ เครื่องจ่ายกระแสฟ้าแบบต่อเนื่อง เครื่อง Handheld ในที่ทำการฯ และเครื่อง Handheld นอกที่ทำการฯ โดยกำหนดเป็นการเช่าระยะเวลา 5 ปี เพื่อไม่ให้มีภาระในเรื่องการบำรุงรักษา และได้มีการวิเคราะห์ผลดีและผลเสียระหว่างการซื้อและการเช่าตามหลักวิชาการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยโครงการดังกล่าวมีการดำเนินการโดยวิธี e-Auction ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2549 ทั้งนี้ ได้ประกาศ TOR รับฟังวิจารณ์/เสนอแนะ ตั้งแต่วันอังคารที่ 27 ธันวาคม 2559 - 4 มกราคม 2560 รวมระยะเวลา 9 วัน (5 วันทำการ) ซึ่งจำนวนวันที่ประกาศ TOR เป็นไปตามระเบียบกำหนดระยะเวลาเผยแพร่ประกาศทางเว็บไซต์ของหน่วยงานและกรมบัญชีกลางเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 วัน ทั้งนี้ แม้จะเป็นการประกาศที่คาบเกี่ยววันหยุด แต่ไปรษณีย์ไทยก็มิได้ปิดกั้นการรับรู้ และการเข้าร่วมแสดงข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ/วิจารณ์ TOR ของบุคล หรือบริษัทห้างร้านต่างๆ โดยสามารถวิจารณ์/เสนอแนะ TOR ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้ จดหมาย แฟกซ์ หรืออีเมล์ [email protected] สำหรับโครงการนี้ เมื่อมีผู้วิจารณ์/เสนอแนะ TOR ไปรษณีย์ไทยก็ได้นำมาปรับปรุงแก้ไขเช่นกัน พร้อมกันนี้ได้เผยแพร่ราคากลางทางเว็บไซต์หน่วยงาน และกรมบัญชีกลาง ตามสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติกำหนดอย่างครบถ้วน

ส่วนการขายซองและยื่นซองช่วงคาบเกี่ยววันหยุดนั้น ไปรษณีย์ไทยมีกำหนดขายแบบวันที่ 27 มี.ค.- 7 เม.ย.2560 รวม 10 วัน (7 วันทำการ) ตามระเบียบ “กำหนดประกาศเชิญชวนและแจกจ่ายเอกสารไม่น้อยกว่า 3 วัน” ระยะเวลาดำเนินการเป็นไปตามระเบียบฯ กำหนด และกำหนดยื่นซองข้อเสนอด้านเทคนิค ในวันที่ 21 เม.ย.2560 มีช่วงเวลาให้ผู้ประสงค์จะเสนอราคาจัดทำเอกสารข้อเสนอด้านเทคนิค 15 วัน (7 - 21 เมษายน 2560) ตามระเบียบฯ “กำหนดวันรับซองข้อเสนอด้านเทคนิคต้องไม่น้อยกว่า 3 วัน แต่ไม่เกิน 30 วัน นับแต่วันสุดท้ายของการจำหน่ายจ่ายแจก” ระยะเวลาในการยื่นซองจึงเป็นไปตามที่ระเบียบฯ กำหนด

ทั้งนี้ หากบุคคล หรือบริษัทห้างร้านต่างๆ มีความประสงค์จะยื่นซอง ก็สามารถเตรียมตัวได้ทัน เนื่องจากไปรษณีย์ไทยได้ประกาศให้รับทราบขอบเขต TOR ล่วงหน้าก่อนการประกาศเชิญชวน ประมาณ 115 วัน (27 ธ.ค.2559 - 21 เม.ย.2560) ซึ่งขอยืนยันว่าการจัดซื้อจัดจ้างของไปรษณีย์ไทยทุกโครงการ ทุกขั้นตอนมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และไปรษณีย์ไทย พร้อมเปิดกว้างรับผู้ประกอบการทุกราย ทุกช่องทางในการเข้าแข่งขันประกวดราคา ไม่มีการทุจริตหรือเอื้อผลประโยชน์ระหว่างกันของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างแน่นอน

ด้านการพัฒนาและติดตั้งระบบเคาน์เตอร์ไปรษณีย์อัตโนมัติ (New CA POS) ซึ่งถูกระบุว่ามีการทำงานล่าช้า ผิดสัญญา บริษัทผู้รับจ้างจะต้องเสียค่าปรับในการดำเนินงานล่าช้าและไปรษณีย์ไทยยังไม่ดำเนินการเรียกเก็บค่าปรับจากการทำงานล่าช้านั้น

ไปรษณีย์ไทยได้แจ้งใช้สิทธิ์เรียกร้องค่าปรับตามระยะเวลาที่เกินตามสัญญาไว้แล้ว และบริษัทผู้รับจ้างก็มีหนังสือตอบรับเรื่องจำนวนเงินค่าปรับตามสัญญาจ้างให้กับไปรษณีย์ไทยเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 4 ธ.ค. 2558 แต่กรณีสัญญาจ้างพัฒนาและติดตั้งระบบเคาน์เตอร์ไปรษณีย์อัตโนมัติ (New CA POS) ผู้รับจ้างจะต้องส่งมอบงานที่แล้วเสร็จใช้งานได้โดยสมบูรณ์ ดังนั้น การเรียกให้ผู้รับจ้างชำระค่าปรับตามสัญญาได้จะต้องมีการสิ้นสุดสัญญา นั่นคือ ผู้รับจ้างจะต้องส่งมอบงานที่แล้วเสร็จสมบูรณ์เท่านั้นจึงจะมีการคิดคำนวณค่าปรับที่เกิดขึ้นระหว่างสัญญาได้

สำหรับงบประมาณประจำปี 2560 ที่ได้รับเพิ่มเติมเพื่อใช้จัดหาอุปกรณ์สำหรับการดำเนินงานตามแผนที่ไปรษณีย์ไทยได้นำเสนอต่อกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมนั้น เป็นแผนการดำเนินงานเพื่อรองรับปริมาณงานสิ่งของที่ฝากส่งทางไปรษณีย์ที่มีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการที่ไม่สามารถรับสิ่งของที่บ้านได้ หรือการฝากส่งสิ่งของให้สามารถทำได้ในทุกสถานที่ที่ผู้ใช้บริการสะดวกไม่เฉพาะแต่ในที่ทำการไปรษณีย์เท่านั้น รวมไปถึงการให้บริการรายงานผลการนำจ่ายที่จะทำได้อย่างรวดเร็ว รองรับกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจ e-Commerce ซึ่งเติบโตอย่างมากในปัจจุบัน ทั้งหมดนี้คาดว่าจะสามารถเพิ่มรายได้ให้กับไปรษณีย์ไทยอีกทางหนึ่งด้วย โดยปัจจุบันงบประมาณดังกล่าวเพิ่งได้รับการพิจารณาอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ยังไม่มีการซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ มาเพื่อรอการใช้งานตามที่ระบุในข่าวแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ไปรษณีย์ไทย ตระหนักถึงการดำเนินงานจัดซื้อจัดจ้างที่โปร่งใส และให้เป็นไปตามนโยบายต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นขององค์กร ซึ่งไปรษณีย์ไทยมีการรณรงค์ให้ผู้บริหารและพนักงานทุกคนปฏิบัติตามหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต พร้อมกำชับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และเป็นธรรมแก่ผู้เข้าร่วมประมูลในทุกโครงการ พร้อมกันนี้ ไปรษณีย์ไทย ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาระบบเครือข่ายการขนส่งและมาตรฐานการให้บริการที่เป็นเลิศ ควบคู่ไปกับการพัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพ ตามนโยบาย POST Excellence เพื่อให้เครือข่ายไปรษณีย์ไทย เป็นเครือข่ายชีวิตและเศรษฐกิจไทยอย่างเต็มภาคภูมิ