'พล.อ.ประวิตร' พอใจความคืบหน้าปรองดอง

'พล.อ.ประวิตร' พอใจความคืบหน้าปรองดอง

"พล.อ.ประวิตร" พอใจความคืบหน้าปรองดอง ชี้จะเห็นร่าง "สัญญาประชาคม" ตามกรอบเดือน มิ.ย.

ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม ในฐานะรองประธานคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง เพื่อสรุปข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับจากพรรคการเมือง กลุ่มการเมือง และภาคประชาชน ทั้งในส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น เพื่อกำหนดกรอบการดำเนินการต่อไป โดยมีพล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะเป็นประธานอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาบูรณาการข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการจัดทำข้อเสนอกระบวนการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิและที่ปรึกษาเข้าร่วมประชุมอย่างพร้องเพรียง

จากนั้นเวลา 15.30 น. พล.อ.ประวิตร แถลงว่า ขณะนี้ขั้นตอนการสร้างความปรองดองอยู่ในช่วงคณะกรรมการรับฟังความคิดเห็น นำรายละเอียดทั้งหมดมาสรุปชี้แจงให้คณะกรรมการทั้งหมด คณะที่ปรึกษา และผู้เชี่ยวชาญรับทราบ รวมถึงคณะรัฐมนตรี โดยทางที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ คณะรัฐมนตรีได้ให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม และเห็นด้วยในข้อคิดเห็นที่ประชาชน และฝ่ายการเมืองให้ข้อเสนอแนะ ซึ่งข้อมูลทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค จะให้คณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็น รวบรวมข้อคิดเห็นทั้งหมดอีกครั้ง ว่าครอบคลุม 10 ประเด็น และ1 คำถาม หรือไม่ โดยทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า ข้อมูลทั้งหมดต้องบูรณาการ ว่าตอบโจทย์สิ่งที่ประชาชน พรรคการเมือง และกลุ่มการเมืองต่างๆ ให้ข้อคิดเห็นมา หรือไม่ แต่กระบวนการทั้งหมดที่ดำเนินการไป ยังไม่ออกกฎหมาย เพราะทางคณะอนุกรรมการชุดที่ฯ2 จะต้องไปบูรณาการ เพื่อตอบสังคมให้รับทราบทั้งหมด จากนั้นจะส่งต่อให้คณะอนุกรรมการฯชุดที่3 ดำเนินการเพื่อให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ จะเรียกว่าสัญญาประชาคม หรือสัญญาความร่วมมือให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติก็ได้ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายพยายามเร่งมือดำเนินการ เพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถอยู่ร่วมกัน และให้ประเทศเดินต่อไปได้ในอนาคต โดยมีรัฐธรรมนูญ ส่วนความขัดแย้งทางความคิดเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะไม่ทำให้เกิดความรุนแรง

เมื่อถามว่าข้อคิดเห็นเพิ่มเติม คืออะไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องปัญหาที่ดิน ซึ่งเราไม่มีรายละเอียดมาก จึงจำเป็นให้คณะอนุกรรมการชุดที่1 สอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าดำเนินการอย่างไรไปบ้าง โดยจะต้องดำเนินการให้เสร็จภายในเดือนเมษายนนี้ ขณะที่ร่างสัญญาประชาคมจะเห็นได้ชัดเจนในคณะอนุกรรมการชุดที่3

เมื่อถามอีกว่าร่างสัญญาประชาคมจะเสร็จในเดือนมิถุยายน หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ทั้งหมดอยู่ที่คนทำงานดำเนินการตามกรอบ จะต้องให้เวลา อย่างไปเร่งรัด ส่วนประเด็นทางการเมืองไม่มีอะไรเพิ่มเติม เพราะทุกคนต้องใช้กฎหมายเดียวกันการเลือกตั้ง เราต้องการให้ประชาชน เลือกคนดีเข้ามาบริหารประเทศ

"ผมมีความพึงพอใจในความคืบหน้าของการสร้างความปรองดอง โดยคนที่อยู่ในที่ประชุม มีทั้งคนที่มีความรู้มีความสามารถ และอดีตนักการเมือง ต่างก็เห็นด้วยกับการดำเนินการสร้างความปรองดอง ซึ่งแสดงว่าเราเดินมาถูกทางแล้ว" พล.อ.ประวิตร กล่าว