'ฮาล์ฟมูน ปาร์ตี้'ที่เกาะพะงัน...หาดสวรรค์หรือแหล่งมั่วสุม

'ฮาล์ฟมูน ปาร์ตี้'ที่เกาะพะงัน...หาดสวรรค์หรือแหล่งมั่วสุม

"ฮาล์ฟมูน ปาร์ตี้" ที่เกาะพะงัน...หาดสวรรค์หรือแหล่งมั่วสุม

ภาพแห่งความสนุกสุดเหวี่ยงของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าร่วมงาน “ฟูลมูน ปาร์ตี้” บนเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ดินแดนเสรีที่มีทุกสิ่งตอบสนองกิเลสได้ทุกรูปแบบ ทำให้เกาะสวาทหาดสวรรค์แห่งนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกหมายปองมาสัมผัสให้ได้สักครั้งในชีวิต 

“ฟูลมูน ปาร์ตี้” เป็นงานฉลองบนชายหาด จัดขึ้นบริเวณหาดริ้น หาดใต้สุดของเกาะพะงัน โดยเลือกคืนพระจันทร์เต็มดวงของแต่ละเดือนเป็นวันนัดหมาย จุดเริ่มต้นมาจากการจัดงานเลี้ยงขอบคุณให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวประมาณ 30 คน เมื่อปี 2528 ที่ดิสโกเทคแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ไม่ไกลจากชายหาดมากนัก 

ต่อมา “ฟูลมูน ปาร์ตี้” กลายเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วจากการบอกเล่ากันแบบปากต่อปาก กระทั่งปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเข้าร่วมมากถึงครั้งละ 20,000-30,000 คน

บาร์ทุกแห่งที่อยู่บนชายหาดจะพร้อมใจกันเล่นเพลงประเภทอาร์แอนด์บี , เฮาส์ และเร็กเก้ โดยเริ่ม แฮงก์ เอาท์ กันตั้งแต่หลังพระอาทิตย์ตก และปาร์ตี้ต่อเนื่องไปจนถึงเช้าวันใหม่ 
ความโดดเด่นของงานคือความสนุกแบบหลุดโลกจากการแต่งตัวของนักท่องเที่ยวที่จัดมาประชันกันแบบสุดๆ บ้างก็เพนท์เรือนร่างด้วยสีแสบสันต์ รวมทั้งเครื่องประดับสะท้อนแสงต่างๆ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สารพัดสูตรที่นำมาใส่ถังที่เรียกว่า Bucket เสิร์ฟไม่อั้นให้กับผู้เข้าร่วมงาน 

เมื่อความต้องการของนักท่องเที่ยวในการหาความสุขแบบไร้ขีดจำกัดมีมากขึ้น จึงเกิดเทศกาล “ฮาล์ฟมูน ปาร์ตี้” ขึ้นมา โดยจัดบริเวณชาดหาดบ้านใต้ ซึ่งกลุ่มผู้ประกอบการบนเกาะจัดขึ้น 2 ครั้งต่อเดือน คือก่อนวัน “ฟูลมูน ปาร์ตี้” ประมาณ 4-5 วัน และอีกเทศกาลหนึ่งคือ “แบล็คมูน ปาร์ตี้” จัดต่อจาก “ฟูลมูน ปาร์ตี้” ไปอีก 2-3 วัน 

แม้การจัดปาร์ตี้ถี่ยิบจนเรียกได้ว่าเกือบจะครบทุกวันของเดือน จะเป็นการสร้างเม็ดเงินให้กับผู้ประกอบการ และมีรายได้เข้าประเทศปีละเกือบหมื่นล้านบาท แต่ปัญหาที่ตามมาก็มีไม่น้อยเช่นกัน ทั้งเรื่องมลพิษทางเสียงจากเพลงที่เปิดกันข้ามวันข้ามคืน ปัญหายาเสพติด และอุบัติเหตุจากความมึนเมา ไม่นับอาชญากรรมประเภทต่างๆ อีกด้วย 

“ทีมล่าความจริง” ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านบนเกาะพะงันที่ได้รับผลกระทบจากการจัดปาร์ตี้ย่อยก่อนวัน “ฟูลมูน ปาร์ตี้” เพราะมองว่ามีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองถี่เกินไปจนกระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของคนบนเกาะ 

ชายวัย 60 ปีรายนี้บอกกับทีมล่าความจริงว่า ที่ผ่านมาคนบนเกาะพะงันลงมติร่วมกัน ยอมรับแค่การจัด “ฟูลมูน ปาร์ตี้” เท่านั้น แต่ไม่ยอมรับ “ฮาล์ฟมูน” และ “แบล็คมูน” เพราะผลกระทบจากการจัดงานปาร์ตี้ย่อยเหล่านี้ ทำให้คนบนเกาะหลายคนถึงกับต้องหอบข้าวหอบของไปนอนนอกบ้าน หรือไปนอนบนฝั่งกันเลยทีเดียว 

ขณะที่ชาวบ้านบนเกาะอีกคนตั้งข้อสงสัยว่า ปัญหานี้เกิดขึ้นต่อเนื่องมานานหลายปีแล้ว และหนักขึ้นเรื่อยๆ อาจเป็นเพราะมีเจ้าหน้าที่รัฐบางหน่วย บางคนรู้เห็นเป็นใจ 

“ทีมล่าความจริง” ได้ไปสำรวจตามหาดต่างๆ ที่มีการจัดปาร์ตี้ย่อย และพบว่าสถานที่จัดงานบางแห่งมีการนำยาเสพติดบางชนิด เช่น กัญชา เข้าไปจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยวางขายกันอย่างโจ๋งครึ่ม รวมถึงลูกโป่งแก๊สหัวเราะ แต่ทีมข่าวไม่สามารถบันทึกภาพได้ เพราะมีชายฉกรรจ์แต่งกายคล้ายทหารเข้ามาพูดเชิงข่มขู่ และส่งลูกน้องให้คอยติดตามการทำงานของทีมข่าวตลอดเวลา 

“ทีมล่าความจริง” ได้เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อสอบถามถึงการจำหน่ายยาเสพติดบางประเภท และการข่มขู่จากชายที่แต่งกายคล้ายทหาร ได้รับคำตอบจากผู้ว่าราชการจังหวัดว่า มักมีคนแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลปาร์ตี้ลักษณะนี้บ่อยครั้ง ซึ่งหากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐจริง ทางจังหวัดก็มีมาตรการเด็ดขาดเพื่อลงโทษ 

ขณะที่ นายอำเภอเกาะพะงัน บอกว่า จริงๆ แล้วเกาะแห่งนี้มีมนต์เสน่ห์ในตัวเองมากมาย โดยเฉพาะธรรมชาติที่สวยงาม ส่วนการจัด “ฟูลมูน ปาร์ตี้” หรือปาร์ตี้ย่อยอื่นๆ นั้นเป็นเพียงส่วนเสริม สิ่งสำคัญคือต้องเป็นเขตปลอดยาเสพติด และนักท่องเที่ยวต้องมีความปลอดภัย 

ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกว่า การแสวงหาเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวเป็นเรื่องจำเป็น การจัดปาร์ตี้ ความสนุกสนาน และความมึนเมา แม้จะเป็นจุดขายในบางครั้ง แต่มักไม่ใช่แรงดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ทั้งยังก่อผลกระทบตามมา จนหลายๆ ครั้งถูกตั้งคำถามว่าคุ้มค่าหรือไม่ระหว่างเม็ดเงินที่ได้มา กับหลายสิ่งที่ต้องสูญเสียไป