คาดปมขัดแย้งโสมแดง-มะกัน ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทย

คาดปมขัดแย้งโสมแดง-มะกัน ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทย

แนะรัฐบาลชี้แจงประชาชน ปมขัดแย้งเกาหลีเหนือ-สหรัฐฯ เชื่อส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยแน่นอน

นายเกียรติ สิทธีอมร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่าประเทศไทยไม่ได้มีมาตรการรองรับความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจที่มาจากสถานการณ์โลกในขณะนี้ ว่า สิ่งที่ดีที่สุดที่จะรับมือกับภาวะการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง (Economic Shock) คือทำให้เศรษฐกิจภายในเข้มแข็งอย่างเต็มที่ตามศักยภาพที่มีและพึ่งพาประเทศที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

แต่ปัญหาของประเทศไทยก็คือในวันนี้เศรษฐกิจฐานรากก็ยังไม่ดี ส่วนเรื่องสถานการณ์โลกในตอนนี้ ตนคิดว่าไม่ควรประมาทเพราะมีความล่อแหลมในหลายพื้นที่ทั้งในตะวันออกกลางและในคาบสมุทรเกาหลี แล้วในภาวะที่ล่อแหลม ตนคิดว่ารัฐบาลควรจะกลับมาทบทวนว่าเราจะเดินนโยบายอย่างไร

“วันนี้ผมได้ฟังคำสัมภาษณ์จากทางรัฐบาลว่าเรื่องนี้ เรื่องนั้นไม่มีกระทบ ผมไม่สบายใจเลย เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นที่ต่างประเทศอย่างไรก็มีผลกระทบอยู่ดีไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ในแง่ของปัญหาที่เกิดขึ่นในเกาหลีเหนือนั้นคงไม่มีผลกระทบทางตรงกับไทย แต่ว่าเรื่องนี้จะสร้างผลกระทบทางอ้อมกับประเทศไทยได้หลายกรณีมาก เช่นเวลามีท่าทีว่าจะเกิดสงคราม สินค้าโภคภัณฑ์จะมีราคาสูงขึ้น อาหารราคาสูงขึ้น น้ำมันขึ้น ทองขึ้น คนเริ่มจะสะสมอาวุธมากขึ้น เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้นั้นเป็นได้ทั้งโอกาสและความเสี่ยง ดังนั้นตนอยากให้ทางฝ่ายรัฐบาลก่อนที่จะตอบคำถามถึงเรื่องผลกระทบนั้นขอให้วิเคราะห์ในเรื่องปัจจัยเหล่านี้ให้ดีเสียก่อน อย่าตอบคำถามเป็นรูปแบบตายตัว โดยกลัวว่าพูดอะไรออกไปแล้วคนจะตื่นตระหนก” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

นายเกียรติ กล่าวอีกว่า ตนเห็นว่าต้องคิดให้ดีก่อนพูด คำพูดเราเป็นนายเรา แต่ขอให้คิดให้ดีเสียก่อน เรื่องนี้จะต้องมีการบริหารจัดการให้ดี ปัญหาเกาหลีเหนือนั้นต้องจับตาดูให้ดี อย่ากระพริบตาและในขณะเดียวกันก็ต้องมีสติ ไม่แตกตื่น ไม่ขี้ตกใจ ซึ่งนี่เป็นโทนของรัฐบาลที่จะต้องสื่ออกมาให้ประชาชนเห็นว่าไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น เราเอาอยู่ เราดูแลได้ แต่อย่าไปบอกว่าไม่มีอะไร เพราะทุกคนที่อยู่ในวงการก็รูดีว่ามันมีผลกระทบไม่ตรงก็อ้อม ไม่มากก็น้อย