ไทยออยล์คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมัน 17-21 เม.ย.60

ไทยออยล์คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมัน 17-21 เม.ย.60

ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง หลังผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปคเดินหน้าปรับลดกำลังการผลิตต่อเนื่อง

ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 51-56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 53-58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล  


แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ ( 17 - 21 เม.ย. 60)

ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้คาดว่าจะทรงตัว จากการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปคที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับ ข่าวการขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตต่อจากเดือนมิ.ย. ที่มีแนวโน้มเป็นไปได้สูงหลังรัสเซียเตรียมหารือกับบริษัทในประเทศถึงความเป็นไปได้ของมาตรการดังกล่าว นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังคาดว่าจะได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ที่เริ่มปรับเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงจากการที่โรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐ เพิ่มกำลังการกลั่นสูงขึ้นเพื่อรองรับการใช้ที่เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูกาลขับขี่ รวมถึงการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียที่ปรับลดลง

ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:

- จับตาการประชุมของผู้ผลิตระหว่างกลุ่มโอเปคและนอกกลุ่มโอเปคในวันที่ 17 เม.ย. ว่าปริมาณการผลิตของโอเปคในเดือน มี.ค. ปรับลดลงมากน้อยเพียงใดและจะมีการขยายระยะเวลาของมาตรการปรับลดกำลังการผลิตในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 หรือไม่ โดยจากสำรวจของ Reuters คาดว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของผู้ผลิตในกลุ่มโอเปคทั้ง 13 ประเทศปรับลดลงราว 230,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน มี.ค. เมื่อเทียบกับตัวเลขในเดือนก.พ. มาอยู่ที่ระดับ 32.01 ล้านบาร์เรลต่อวัน นำโดยการปรับลดลงของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งปรับลดตามข้อตกลงลดกำลังการผลิตและการปิดซ่อมบำรุงของแหล่งผลิตน้ำมันดิบ เหตุการณ์ความไม่สงบในลิเบีย และการปิดซ่อมบำรุงแหล่งผลิตน้ำมันดิบของไนจีเรีย ในขณะที่ปริมาณการผลิตนอกกลุ่มโอเปค นำโดยรัสเซียมีแนวโน้มปรับตัวลดลงและคาดว่าจะปรับลดลงได้ตามเป้าหมายในสิ้นเดือน เม.ย. นอกจากนี้ทางด้านรัสเซียเตรียมจะหารือกับบริษัทน้ำมันในประเทศเรื่องความเป็นไปได้ของการปรับลดกำลังการผลิตต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 ในเร็วนี้

- จับตาสถานการณ์ความไม่สงบภายในประเทศลิเบีย เนื่องจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบปรับลดลงอีกครั้ง หลังกลุ่มผู้ก่อการร้ายได้ทำการปิดกั้นท่อขนส่งน้ำมันดิบไปยังท่าเรือ Zawiya ส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ El Sharara ปรับลดลงอีกครั้งหลังในช่วงปลายเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา บริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบียได้ประกาศยกเลิก Force Majeure สำหรับการส่งออกน้ำมันดิบและสามารถเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบขึ้นมาจากระดับก่อนหน้าเดิมที่ 508,000 บาร์เรลต่อวัน ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 600,000 บาร์เรลต่อวันในช่วงต้นเดือน เม.ย. 60

- ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ คาดจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยและส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันดิบลดลง หลังโรงกลั่นน้ำมันดิบในสหรัฐ ปรับเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงกว่าร้อยละ 90 เพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูกาลขับขี่ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยลดผลกระทบของการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ 9.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน และการนำเข้าน้ำมันดิบของสหรัฐ ที่อยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 เม.ย. ปรับเพิ่มขึ้นเพียง 0.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าระดับการเพิ่มขึ้นของเฉลี่ย 5 ปีที่ผ่านมาที่ระดับ 4.1 ล้านบาร์เรล

- การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ จากชั้นหินดินดาน (Shale oil) มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐ เพิ่มการขุดเจาะน้ำมันดิบขึ้นต่อเนื่องมาสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี ภายหลังจากราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นสูงกว่าระดับต้นทุนการผลิตที่ระดับ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดย Baker Hughes รายงานปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 เม.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 10 แท่น มาอยู่ที่ระดับ 672 แท่น นับเป็นการปรับเพิ่มขึ้น 12 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยกว่า 2 ใน 3 ของการปรับเพิ่มขึ้นมาจากแหล่งผลิต Permian ที่มีต้นทุนการผลิตที่ค่อนข้างต่ำ

- ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมยูโรโซน ดัชนีราคาผู้ผลิตและผู้บริโภคจีน จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสหรัฐ

สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (10 - 14 เม.ย. 60)

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้น 0.94 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 53.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในขณะที่ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น 0.65 ดอลลาร์  มาอยู่ที่ 55.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล  ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบ ปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากปริมาณการผลิตน้ำมันของลิเบียที่มีแนวโน้มปรับลดลง หลังผู้ก่อความไม่สงบปิดกั้นท่อขนส่งน้ำมันดิบจากแหล่งน้ำมันดิบ Sharara ไปยังท่าเรือ Zawiya ส่งผลให้ต้องมีการปิดแหล่งน้ำมันดิบดังกล่าวชั่วคราว นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากความตึงเครียดระหว่างซีเรียและสหรัฐ  หลังสหรัฐ ส่งขีปนาวุธโจมตีฐานทัพของซีเรีย อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ และปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง