MORNING CALL ACTION NOTES (18 เม.ย.60)

ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงเช่นเดียวกันทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากถูกแรงกดดันจากความกังวลสถานการณ์ตึงเครียดในซีเรียและเกาหลีเหนือ ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,575.91 จุด (-13.59 จุด) ด้วย Volume 2.7 หมื่นลบ.โดย Foreign Net -1,693 ลบ. , TFEX Net -3,869 สัญญา ,ตราสารหนี้ไทย Net -581 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ตลาดหุ้น DJ พุ่งขึ้นแรง หลังนลท.คลายความกังวลสถานการณ์ในซีเรียและเกาหลีเหนือ โดย VIX index ปรับตัวลงสู่ 14.7 รวมถึงราคาสินทรัพย์ปลอดภัยทองคำอ่อนตัวลง

+ GDP Q1/60 ของจีน +6.9% ขยายตัวเร็วสุดในรอบกว่า 1 ปี และสูงกว่าเป้าหมายปี 2560 ที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ 6.5%

- ราคาน้ำมันปรับตัวลงล่าสุด 53.1 US/Barrel หลังแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ใช้งานในสหรัฐเพิ่มขึ้น 11 แท่น สู่ 683 แท่น ซึ่งสูงสุดในรอบ 2 ปี นอกจากนี้ซาอุฯกล่าวว่าขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะมีการหารือกันเกี่ยวกับการขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน

+/- DTAC JAS ADVANC TRUE" จ่อศึกชิง 4G คลื่น 1800 MHz และ 850 MHz หลังกสทช.เล็งประมูล ก.พ. 61 (ข่าวหุ้น)

+/- Foreign พลิกเป็น Net Sell ราว 1.7 พันลบ. แต่เงินบาทยังคงแข็งค่าล่าสุด 34.4 Bath/USD.

** 19 เม.ย. ติดตามรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) ของเฟด

** ติดตามการประกาศงบ Q1/17 ของกลุ่มธนาคารคาดโดยรวมเติบโตขึ้นทั้ง YoY เนื่องจากสินเชื่อเติบโตเล็กน้อย การตั้งสำรองหนี้ลดลง

ภาวะตลาดหุ้นไทยได้ sentiment เชิงบวกจากการคลายความกังวลสถานการณ์ในซีเรียและเกาหลีเหนือ รวมถึง GDP Q1/60 ของจีนขยายตัวมากกว่าคาด อย่างไรก็ตามแรงกดดันจากแนวโน้ม Fund Flow ต่างชาติที่พลิกเป็น Net Sell ทั้งหุ้น TFEX และตราสารหนี้ จะเป็นแรงกดดันให้ภาวะตลาดผันผวน ดังนั้นประเมินว่า SET จะรีบาวด์ขึ้นในกรอบจำกัดที่บริเวณ 1,580 - 1,585 จุดก่อนจะอ่อนตัวลง

กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- กลุ่มพลังงาน ราคาน้ำมันทรงตัวระดับสูงล่าสุด 53.1 US/Barrel

- กลุ่มเดินเรือ PSL TTA ค่าระวางเรือทำ High ในรอบ2สัปดาห์ที่ 1,296 จุด

- หุ้นที่คาดว่ากำไร Q1/17 เติบโต SCB PTTEP PTTGC TOP BANPU TASCO TPCH

หุ้นแนะนำพิเศษ

SCB    ราคาปิด 163.50 บาท     ถือ ราคาเหมาะสม 172 บาท

• คาดกำไรปี 60 ที่ 5.17 หมื่นล้านบาท +9%YoY โดยมีอัพไซต์เป็นกำไรจากการขายเงินลงทุนใน SCBLIF ซึ่งยังไม่มีข้อสรุปว่าจะขายทั้งหมดหรือบางส่วน สำหรับแนวโน้มกำไรในช่วง 1Q60 คาดการณ์จะอยู่ที่ราว 1.28 หมื่นลบ. +17%YoY -3%QoQ ซึ่งคิดเป็น 25% ของประมาณการทั้งปี

• ปี 60 ผู้บริหารตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อที่ 4-6% มุ่งแน้นสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ เป้า NIM 3.1-3.3% เป้าการเติบโตของรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยราว 3-4% จากกลยุทธ์ออกผลิตภัณฑ์ด้าน Wealth Management ให้กับลูกค้ารายย่อย โดยจะรักษา NPL ให้ต่ำกว่า 3% ทิศทางการตั้งสำรอง NPL ปีนี้น่าจะปรับตัวลดลงปีก่อนจากภาวะเศรษฐกิจปีนี้กลับมาดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลส่งผลให้ NPL ลดลง ด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการปรับปรุงครั้งใหญ่ในปีนี้โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีแพลทฟอร์ม

หุ้นมีข่าว

- TMB (ราคาปิด 2.44 บาท ถือ ราคาเหมาะสม 2.53 บาท) แจ้งกำไรสุทธิ 1Q60 เท่ากับ 2,096 ลบ. ทรงตัว YoY แต่ -2%QoQ โดยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองหนี้สูญฯ -1%QoQ +4.2%YoY โดยได้ตั้งสำรองหนี้สูญในระดับสูงที่ 2,241 ลบ.ใกล้เคียงกับ 1Q59 แต่ +19%YoY

   ความเห็น กำไร Q1 คิดเป็น 21% ของประมาณการกำไรทั้งปีที่ราว 9.8 พันลบ. ฝ่ายวิจัยมีแนวโน้มคงประมาณการตามเดิม คงแนะนำ "ถือ" ราคาเหมาะสม 2.53 บาท

- TISCO (ราคาปิด 71.25บาท ถือ ราคาเหมาะสม 70 บาท) รายงานกำไร 1Q60 เท่ากับ 1,491 ลบ. +19%yoy เนื่องจาก 1) รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ +2.7%yoy แม้สินเชื่อหดตัว 2%YTD แต่ NIM ปรับขึ้นสู่ 4.1% จาก 3.9% ใน 1Q59 2) รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย +13.3%yoy ตามการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่านายหน้าธุรกิจหลักทรัพย์ รายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจจัดการกองทุนและธุรกิจวาณิชธนกิจ 3) ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญ -23%yoy จากคุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับดีขึ้นซึ่งทำให้ % gross NPL ลดลงสู่ 2.37% จาก 2.5% ณ ปลายปี 59 TISCO กำหนดขึ้น XD จ่ายปันผลหุ้นละ 3.50 บาทวันที่ 26 เม.ย. yield 4.9%

- BANPU (ราคาปิด 20.70 ซื้อ ราคาเหมาะสม 25.15) ตั้งเป้าปี 60 โกยยอดขายถ่านหินโต 47 ล้านตัน รับผลบวกราคาถ่านหินพุ่ง กางแผนเล็งซื้อเหมืองถ่านหินอินโดนีเซีย-ออสเตรเลียเพิ่ม เสริมโอกาสเติบโตในอนาคต (ที่มาข่าวหุ้น)

   ความเห็น ฝ่ายวิจัยคาดกำไรปี 60 ที่ 9 พันล้านบาท +438%YoY เนื่องจากราคาถ่านหินที่ปรับตัวขึ้นเหนือ 80 ดอลลาร์ต่อตัน โดยบริษัทยังไม่ได้ทำสัญญาซื้อขายถ่านหินราว 50% ของกำลังการผลิตในปี 60 ซึ่งคาดว่าจะสามารถขายได้ราคาเพิ่มขึ้นจากปี 59 ราว 30-40% นอกจากนี้ทางการจีนเตรียมปรับลดวันทำงานของเหมืองถ่านหินลงเหลือ 276 วันในช่วงเดือนมี.ค. – ส.ค. เพื่อลดอุปทานลงหลังจากผ่านช่วงที่มีความต้องการใช้สูงสุดไปแล้ว อีกทั้งมีแผนปิดเหมือนถ่านหินกว่า 500 แห่งในปีนี้เพื่อเป็นการลดอุปทานและลดมลภาวะในประเทศเพิ่มเติม

- MGT (ราคาปิด 2.28 ราคาเหมาะสม 2.70) คิดการณ์ใหญ่ เล็งผนึกพาร์ตเนอร์จีน แย้มศึกษาแผนรุกตลาดออนไลน์คาดสรุปดีลปีนี้ ส่งซิกผลงานปี 2560 ไปได้สวยตั้งเป้ารายได้โต 20% จากปีก่อน 560 ล้านบาท เร่งขยายฐานลูกค้าเดิม เพิ่มไลน์สินค้าใหม่ปั๊มยอดขายพุ่งกระฉูด กางแผนขยายสาขาใน-นอกประเทศ (ที่มาทันหุ้น)

- LH (ราคาปิด 9.85 บาท ถือ ราคาเหมาะสม 10.40 ) ย้ำยอดขายปีนี้ 26,000 ล้านบาท เดินหน้าใหม่ตามแผน 12 โครงการ มูลค่ารวม 14,900 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 2/60 เตรียมเปิด 4 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 5,205 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

  ความเห็น โครงการที่เปิดใหม่กว่า 96% เป็นโครงการในกทม.ซึ่งยังมีกำลังซื้อจึงมีโอกาสที่จะทำได้ตามเป้า ด้านผลประกอบการคาดกำไรปี 60 ราว 8.5 พันล้านบาท +5%YoY โดยมีอัพไซต์เป็นกำไรจากการขายโรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์ พ้อยท์ เทอมินัล 21 จัดตั้งกอง REIT มูลค่าราว 4 พันล้านบาทในช่วง 1H60 คาดจะมีกำไรก่อนภาษีราว 900 – 1,000 ล้านบาท (LH ถือหุ้น 60%)

- IVL (ราคาปิด 35.50 Bloomberg Consensus 38.22) ทุ่มงบซื้อกิจการ "Glanzstoff" ผู้ผลิตเส้นใยสำหรับยางรถยนต์รายใหญ่สุดในภูมิภาคยุโรปเสริมช่องทางรายได้และกำไรเติบโตแข็งแกร่ง พร้อมหวังเป็นโอกาสร่วมมือกับบริษัทยางรถยนต์ระดับโลก ทั้งในกลุ่มยานพาหนะไร้คนขับและรถพลังงานไฟฟ้า (ที่มาทันหุ้น)

- GRAMMY (ราคาปิด 10.40 Bloomberg Consensus 11.70) จะใช้เงิน 220 ลบ.เข้าซื้อหุ้นเพิ่ม 5.77% ในช่อง ONE หลังมองศักยภาพเติบโต

- ประเด็นบวก BTS STEC RATCH - รฟม.คาดเซ็นสัญญารถไฟฟ้าสายสีชมพู-สีเหลืองปลายเม.ย.-ต้นพ.ค., ยังไม่รวมข้อเสนอพิเศษ

- GREEN เปิดตัวพันธมิตรรายใหม่ จัดทัพกางแผนมุ่งธุรกิจพลังงานทดแทน หวังสร้างรายได้มั่นคง ล่าสุดเตรียมยื่นเข้าร่วมโครงการโซลาร์สหกรณ์-ราชการ 219 MW คาดคว้าโควต้า 10 MW

- UAC แย้มสนใจลงทุนโรงไฟฟ้า สปป.ลาว พร้อมเผยภายใน Q2/60 นี้เตรียมเซ็น MOU โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลที่เมียนมา กำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ พร้อมหาพันธมิตรเข้าร่วมทุนคาดเริ่มก่อสร้างภายในปีนี้ แย้มอยู่ระหว่างหา FA นำ UAPC เข้าตลาด mai ปี 61 (ทันหุ้น)

- STEC (ราคาปิด 24.60 Bloomberg Consensus 30.29) ลงนามสัญญาก่อสร้างมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา มูลค่า 1.94 พันลบ.

ตลาดหุ้นดาวโจนส์ +183.67 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,636.92 จุด พุ่งขึ้น 183.67 จุด หรือ +0.90% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,349.01 จุด เพิ่มขึ้น 20.06 จุด หรือ +0.86% และดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,856.79 จุด เพิ่มขึ้น 51.64 จุด หรือ +0.89% เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เกาหลีเหนือ หลังจากที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของสหรัฐระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะยังไม่พิจารณาการใช้ปฏิบัติการทางทหารตอบโต้เกาหลีเหนือในขณะนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 1/2560

ตลาดน้ำมัน NYMEX -0.53 USD/Barrel

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 53 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 52.65 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันของสหรัฐ หลังจากมีรายงานว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 13 นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังปรับตัวลดลงหลังจากรัฐมนตรีพลังงานของซาอุดิอาระเบียกล่าวว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะมีการหารือกันเกี่ยวกับการขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน