'แบงก์' คุมเข้มคุณภาพหนี้

แบงก์คุมเข้มคุณภาพสินเชื่อ คงนโยบายปล่อยกู้อย่างระมัดระวัง ส่งผลผลไตรมาสแรกสินเชื่อโตต่ำ “ทิสโก้”แจ้งกำไรไตรมาสแรกพุ่ง18%อานิสงส์รายได้เพิ่ม ค่าใช้จ่ายตั้งสำรองลดลง ด้านทหารไทยกำไร 2 พันล้าน ลดลงเหตุตั้งสำรองเพิ่มเพื่อลดความเสี่ยงในอนาคต

นายบุญทักษ์หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย หรือ ทีเอ็มบี เปิดเผยว่า ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ2.09พันล้านบาท ลดลง2%จากไตรมาสก่อนหน้า และคงที่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรอง อยู่ที่4.76พันล้านบาท ลดลง1.5%จากไตรมาสก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้น4.2%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิของธนาคารลดลง3.6%จากไตรมาสก่อนหน้า แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้น3.9%เนื่องจากมีการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินที่ดี

ทั้งนี้ธนาคารยังคงตั้งสำรองฯ อย่างรอบคอบที่ระดับค่อนข้างสูงเป็นจำนวน2,241ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น19%เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า เพื่อรองรับการเร่งดำเนินการwrite offสินเชื่อด้อยคุณภาพ ที่ไตรมาสแรกมีการwrite offออกไป2.2พันล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นจุดประสงค์ของธนาคารที่จะลดความเสี่ยงเชิงลบที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตขณะที่คงสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)ที่ระดับต่ำที่2.5%และอัตราส่วนสำรองต่อเอ็นพีแอลในระดับแข็งแกร่งที่144%

โดยสิ้นมี.ค.2560 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อรวม 5.98 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น0.9% จากสิ้นปีก่อนหน้า ซึ่งมาจากการเติบโตของสินเชื่อรายย่อยเป็นหลัก ขณะที่สินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ในระดับทรงตัวจากสิ้นปี หรือมีจำนวน1.75หมื่นล้านบาท

“ธนาคารยังตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียม พร้อมขยายสินเชื่ออย่างระวัง ควบคู่กับการพิจารณาเรื่องความเสี่ยง (Risk-adjusted return) โดยการดูแลคุณภาพสินทรัพย์ยังคงเป็นสิ่งที่ธนาคารให้ความสำคัญ โดยตั้งเป้าหมายที่จะรักษาอัตราส่วนสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพในระดับสูงที่140-150%”

นายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ กล่าวว่า ไตรมาสแรกปีนี้ มีกำไร 1.49 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย ประกอบกับค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญที่ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยการตั้งสำรองหนี้สูญในไตรมาสนี้ลดลง 23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากคุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับตัวดีขึ้นซึ่งไตรมาสแรกปีนี้เอ็นพีแอลอยู่ที่ 2.37% ลดลงจากสิ้นปีก่อนหน้าที่อยู่ที่2.54%

ในส่วนของสินเชื่อปล่อยใหม่สิ้นไตรมาส1อยู่ที่2.20แสนล้านบาท ลดลง4.41พันล้านบาท หรือลดลง 2% จากสิ้นปีก่อน ตามนโยบายการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวัง

ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย(LoanSpread)ในไตรมาสแรกปีนี้อยู่ที่4.7%จาก4.3%ในไตรมาส 1 ปี2559

 ทั้งนี้ ทิสโก้ ระบุด้วยว่าในไตรมาส2/60จะเดินหน้าถ่ายโอนธุรกิจลูกค้ารายย่อยจากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์ตเตอร์ด(ไทย)หลังธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ให้ความเห็นชอบให้แก่กลุ่มธนาคารทิสโก้คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปีนี้