โบรกชี้ 'หุ้นไทย' ยืน 1,570

จากกระแสความตึงเครียดจะส่งผลให้เกิดภาวะสงครามหรือไม่นั้น เมื่อสำรวจความคิดเห็นโบรกเกอร์ใหญ่ 5 ราย พบว่ายังมองว่าเป็นผลกระทบทางจิตวิทยาระยะสั้นเท่านั้น และดัชนีหุ้นไทยจะยืนเหนือ1,570 จุดในช่วงนี้ เนื่องจากมีปัจจัยบวกคือการประกาศผลประกอบการธนาคารไตรมาสแรกที่คาดว่าจะออกมาดีขึ้น ขณะที่กระแสเงินทุนจะไหลเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่อีกครั้ง ซึ่งตลาดหุ้นไทยก็น่าจะได้รับอานิสงส์

บล.ทิสโก้ แนะนำว่า นักลงทุนเลี่ยงถือสินทรัพย์เสี่ยง หลังสหรัฐทิ้งระเบิดถล่มกลุ่ม IS ในอัฟกานิสถานมอง ดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสย่อลงจากความกังวลต่อสถานการณ์ตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะสงคราม แต่การย่อตัวไม่น่ามาก เนื่องจากเงินดอลลาร์ยังมีทิศทางอ่อนค่าระยะสั้น หนุนเงินทุนต่างประเทศมีแนวโน้มไหลเข้าตลาดเกิดใหม่

โดยเฉพาะกลุ่ม TIP ที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับขึ้น ประกอบกับคาดว่าจะมีแรงเก็งหุ้นแบงก์ที่คาดว่างบจะออกมาดี ช่วยจำกัดความเสี่ยงขาลงได้ แนวรับ 1,585-86, 1,575-77 แนวต้าน 1,595-1,600

บล.บัวหลวง ระบุว่าระยะสัปดาห์คาดหุ้นไทยมีโอกาส Outperform ตลาดหุ้นภูมิภาค กรอบ 1,570-1,600 จุด แม้จะมีความผันผวนไปตาม พัฒนาการของเหตุการณ์ความตึงเครียดบริเวณคาบสมุทรเกาหลี และ ตลาดกังวลคำสั่งโจมตีพื้นที่อื่นๆเพิ่มเติม ทั้งนี้คาดประเด็นเกาหลีเหนือได้ผ่านช่วงพีคโดยหากในสัปดาห์นี้ไม่มีสถานการณ์ใหม่จุดประเด็นความเสี่ยงสงครามเพิ่มเติม คาดตลาดหุ้นโลกพร้อมจะรีบาวด์ ส่วนปัจจัยหนุนหุ้นไทยจะมาจากแรงซื้อเก็งกำไรดักผลการดำเนินงานกลุ่มแบงก์

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ประเมินว่า ด้วยสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีที่ยังไม่นิ่ง นักลงทุนทั่วโลก ติดตามการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 ว่าจะมีขึ้นเมื่อใด อาจทำให้สหรัฐกดดันเกาหลีเหนือมากขึ้น ประเมินว่ากระแสเงินทุนต่างชาติจะทยอยลดน้ำหนักลงทุนตลาดหุ้นเอเชียเหนือ มาลงทุนตลาดเอเชียใต้- อาเซียน โดยเฉพาะ TIP ที่ห่างไกลจากคาบสมุทรเกาหลี ดัชนีหุ้นไทยจะกลับมาทดสอบและทะลุแนว 1,600 จุดได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ของธนาคาร

บล.ทรีนีตี้ คาดการณ์ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัว Sideways โดยปัจจัยลบได้แก่ความเสี่ยงภูมิศาสตร์การเมืองที่เกิดขึ้น ส่วนปัจจัยบวกได้แก่ EPS ของดัชนีไม่ถูก Downgrade เพิ่มเติม และราคาน้ำมันดิบยืนแข็งแกร่ง แนะนำโฟกัสกลุ่ม Commodities แนวรับ 1,582 แนวต้าน 1,597

บล.โนมูระ พัฒนสิน รายงานว่าดัชนีคาดจะผันผวนขึ้น กรอบแนวต้าน 1595/1601 จุด และแนวรับ 1583/1575 จุด แม้สถานการณ์ความตึงเครียดทั่วโลกประเมินเหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่น่าจะเกิดความรุนแรงมากนัก จึงประเมินเป็นแรงกดดันสั้นเท่านั้น