“กวิน-ปรินท์” ปั้นโกลว์ฟิช Work-Play-Glow ธุรกิจไทย

“กวิน-ปรินท์” ปั้นโกลว์ฟิช Work-Play-Glow ธุรกิจไทย

เปิดมุมมอง “ทายาทธุรกิจ” สำหรับ 2 หนุ่ม “กวิน ว่องกุศลกิจ” กรรมการผู้จัดการ โกลว์ฟิช ทายาทคนโตของ “อิสระ ว่องกุศลกิจ” กับอีกหนึ่งหนุ่ม “ปรินท์ สารสิน” Total Experience Manager,Glowfish Offices ทายาทของ “กลินท์ สารสิน”

เมื่อกวินมีความตั้งใจจะสร้างพื้นที่ทำงานร่วมกัน (Co-working space) แบรนด์ “Glowfish” ให้เป็นแหล่งชุมนุม-สร้างสรรค์-จุดประกายความคิดสตาร์ทอัพ - เอสเอ็มอีไทย ให้เติบใหญ่โดยใช้ ไอเดียล้ำๆ” เป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ

ส่วนปรินท์ เมื่อเห็นความตั้งใจของกวิน และมีโอกาสได้มาร่วมงาน จึงไม่ปฏิเสธที่จะร่วมงานด้วย จนวันนี้ทั้งคู่หมายมั่นจะพาโกลว์ฟิชให้เทียบชั้นสถานที่ทำงานระดับโลก 

หลายคนอาจคิดว่าครอบครัวมีกิจการมากมาย แต่สำหรับกวินกลับเลือกสร้างเส้นทางความสำเร็จด้วยตัวเอง เจ้าตัวเปิดใจว่า..

“ที่ไม่ทำธุรกิจครอบครัว เพราะมีคนทำอยู่แล้ว..เก่งด้วย!” เขาเปรยถึงธุรกิจของตระกูล แต่กระนั้่นใช่ว่าจะปฏิเสธงานที่บ้านได้ทั้งหมด เพราะกรอบของธรรมนูญครอบครัวบัญญัติไว้ว่าทายาทต้องสานกิจการ ทำให้เขาต้องเข้าไปนั่งเป็นคณะกรรมการ(บอร์ด)ของบริษัทต่างๆ 3-4 แห่ง เช่น ดิ เอราวัณ กรุ๊ป หุ้นส่วนธุรกิจโรงแรมของตระกูล เป็นต้น

ความที่เป็นคนรุ่นใหม่ โคเวิร์คกิ้ง สเปซ จึงถูกจริตในการทำงาน แต่ก่อนจะเกิดโกลว์ฟิช กวินเล่าว่า มีโอกาสสั่งสมประสบการณ์บริหารธุรกิจสำนักงาน(ออฟฟิศ)มาก่อน เมื่อครั้งเข้าไปสะสางปัญหาให้กับออฟฟิศย่านอโศก ซึ่งเผชิญวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ (ปี2550-51) ผู้เช่าหดหาย 

ระหว่างแก้ปัญหา ทำให้มีโอกาสเห็นโมเดลธุรกิจของเพื่อนที่สหรัฐ Sunshine New York ซึ่งเป็นต้นแบบการเนรมิตพื้นที่ทำงานให้เป็นพื้นที่ทำงานร่วม (We Work)  มากกว่าที่จะเป็นสำนักงานให้เช่าแบบเกร็งๆ

“สิ่งที่ไปเจอ เรามองว่ามันเจ๋งมาก แต่ก็ล้ำมากเกินไปสำหรับประเทศไทย ผมเลยปล่อยทิ้งความคิดที่จะผุดโคเวิร์คกิ้ง สเปซ ไว้ 2 ปีกว่าโปรเจคแรกจะเกิดขึ้น เมื่อผู้เช่าเดิมจากอาคารอโศก ทาวเวอร์ย้ายออก เลยนำพื้นที่ดังกล่าว (3ชั้น) มาปัดฝุ่นเป็นเซอร์วิสออฟฟิศกึ่งๆ โคเวิร์กกิ้ง สเปซ บุกตลาดอย่างจริงจังในปี 2553"

คอนเซ็ปต์ของโกลว์ฟิช คือมุ่งมั่นที่จะปั้นเป็นชุมชนที่เต็มไปด้วย Work Play Grow เขาบอกก่อนขยายความว่า..

Work คือการทำสิ่งต่างๆที่ช่วยให้การทำงานมีผลผลิตมากขึ้น 

Play คือการออกแบบสถานที่ทำงานให้เกิดไอเดียสร้างสรรค์ได้อย่างแท้จริงๆ 

“Play เป็นปัจจัยสำคัญต่อการทำงาน ซึ่งเราไม่ได้มีไว้เพื่อเป็นกิมมิคเท่านั้น” 

ส่วน Grow สร้างแรงบันดาลใจส่งเสริมการเติบโตในธุรกิจของพันธมิตรผู้เข้ามาใช้บริการ

7 ปีที่ผ่านมาของการปั้นโกลว์ฟิช กวินได้เรียนรู้หลายสิ่งที่จะเอื้อให้การทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบพื้นที่จะต้องมีความเหมาะสม มีประสิทธิภาพ เป็นพื้นที่ในการคิดสร้างสรรค์ และเปิดให้มีการปฏิสัมพันธ์ ที่สำคัญต้องต้องช่วยสร้างสมดุลในชีวิตการพักผ่อนกับการทำงานด้วย (Work life balance) ตอบโจทย์ทุกความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย สุดท้ายเพื่อนำไปสู่การผลลัพธ์ของการทำงานที่ดีขึ้น หรือ Productivity

พนักงานต้องการสิ่งแวดล้อมที่เจ๋ง ห้องประชุมที่กินข้าวได้จะเพิ่มผลงานที่ดีได้วันละ 1-2 ชั่วโมง ซึ่งต่างกันเยอะมากกับการเดินออกไปกินข้าวข้างนอกแล้วค่อยเดินกลับมาทำงาน เหล่านี้ไม่ใช่เรื่องล่นๆ มันคือการเพิ่มผลผลิตได้มากมายมหาศาล จึงต้องการเปลี่ยนการตอบโจทย์ด้านต้นทุน มาเป็นการตอบโจทย์ด้านรายได้ด้วยผลิตภาพ เขาย้ำความสำคัญของสถานที่ทำงาน 

 จากเงินทำธุรกิจก้อนแรกที่พ่อให้หุ้นเป็นทุน 100 ล้านบาท การขยายสาขาที่ 3 ของโกลว์ฟิช ที่อาคารสาทรธานี กวินยังได้แรงหนุนจากครอบครัวอีกครั้ง 

โชคดีสาขาใหม่ บอกพ่อว่าจะไปทำโกลว์ฟิช ต้องการพื้นที่ 4,000 ตารางเมตร(ตร.ม.) คุณพ่อก็ไม่อะไร ซื้อให้เลย เขาใส่เงินมา 120 ล้าน คือเขาเริ่มมั่นใจแล้ว ตอนนี้เริ่มขอเงินง่ายแล้ว”  เขาเล่าอย่างอารมณ์ดี จากสาขาแรกอโศกฯ มาสาขาเซ็นเตอร์พอย์ แอท สยาม

ท่ามกลางตลาดโคเวิร์คกิ้ง สเปซที่ผุดเพิ่มขึ้นคึกคัก การเปิดสาขา 3 ของโกลว์ฟิช เขาตั้งเป้าจะเป็น “เบอร์ 1” ในสนามแข่งขันนี้ให้ได้! 

“เอาเงินมาลงตรงนี้ ถ้าเราไม่โต คู่แข่งเข้ามาแน่” เขาบอกและว่า เมื่อเห็นโอกาสก่อนก็ต้องคว้าและทำแบรนด์ให้กลุ่มเป้าหมายนึกถึงเราเป็นอันดับแรก(Top of mind) 

เรามาเราต้องการจะเป็นเบอร์หนึ่งของตลาด ต้องการเป็น Number one player” ในแง่ของขนาด ส่วนรายได้เขาเชื่อว่าจะตามมาเอง

โลโก้ของแบรนด์โกลว์ฟิช คุณกวินเป็นคนตั้ง ที่มาของโลโก้ ต้องการสื่อเป็นรูปห้องทำงานต่างๆ แต่ด้วยหน้าตาที่เหมือนปลาตะเพียน คุยไปคุยมา ก็น่าจะตีความได้ว่าเป็นปลาไทย ตัวเล็กๆว่ายเร็วกว่าคนอื่น พออยู่เป็นกลุ่มก้อน เป็นทีมจะช่วยส่งเสริมกัน สร้างสิ่งแวดล้อม (Eco system) ทำงานใหม่ขึ้นมา เพราะเราจะเห็นตัวอย่างในปัจจุบันว่าปลาใหญ่ว่ายช้า สุดท้ายก็ตาย ปลาที่อยู่เป็นอีโคซีสเทมด้วยกัน ไม่ต้องไปกินอะไรกับใคร ก็อยู่กันได้อย่างดีปรินท์ เล่าถึงแบรนด์โกลว์ฟิช

เมื่อเขาเข้ามาทำงานกับกวิน และต้องสานเป้าเบอร์ 1 โคเวิร์คกิ้งสเปซ การเนรมิตสาขา 3 จึงต้องปรับคอนเซ็ปต์กันใหม่ เพิ่มแม่เหล็กเอาใจคนทำงาน ไม่ว่าจะเป็นผนึกพันธมิตร เพิ่มสถานออกกำลังกาย(ยิม) มีร้านอาหารและเครื่องดื่มไทย อิตาเลียน ญี่ปุ่น มีเอ็นเตอร์เทนเมนท์ รองรับการจัดคอนเสิร์ต มีห้องซ้อมดนตรี เป็นต้น

คอนเซ็ปต์ต่างจากทั่วไป มีบริการที่เป็นตลาดเฉพาะ(นิช มาร์เก็ต) ตรงกับไลฟ์สไตล์ของสมาชิก โดยเราดูว่าลูกค้าต้องการอะไรบ้าง ช่วงที่เขาไม่ทำงาน เขาทำอะไร ฟังเพลงไหม ออกกำลังกายไหม กินอาหารประเภทไหน พักผ่อนอย่างไร มีกิจกรรมอื่นทำไหม สังสรรค์เป็นยังไง ฉะนั้นสาขาสาทรเราจึงนำทุกอย่างที่พูดมาเติมให้ครบครัน เขาบอก และจากการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค ยังทำให้การออกแบบพื้นที่ทำงาน โต๊ะเฉพาะ(Dedicated desk) ดีไซน์ให้ลูกค้าเป็นพิเศษ และบางอย่างอออกจะ “หลุดโลก” ด้วย

อีกอย่างที่ปรับเป็นเรื่องภายในองค์กร เมื่อทีมงานของโกลว์ฟิช จะพลิกบทบาทจากการให้บริการ มาเป็น เพื่อน เพื่อร่วมกันต่อยอดธุรกิจให้แก่สมาชิกมากขึ้น 

เราเทรนด์พนักงานว่าไม่ใช่แค่สต๊าฟที่คอยบริการ แต่จะเป็นการช่วยเหลือเหมือนเพื่อนช่วยเพื่อนแทน

นี่ไม่ใช่แค่ความมุ่งหวังจะผลักดันให้โกลว์ฟิชเป็นเบอร์ 1 แต่ต้องการให้ปรัชญาของธุรกิจถูกใช้ให้เห็นผลจริง โดยเฉพาะการเติบโตของธุรกิจที่เข้ามาเป็นสมาชิก

สิ่งที่พูด เป็นทฤษฎีใหม่ ROWE : Result oriented work environment แทนที่เราจะกำหนดว่าการทำงานต้องใช้เวลาเท่าไหร่..นั่นโบราณ ถ้ามัวแต่โฟกัสตรงนี้ผลิตภาพจะไม่เกิด วิธีคิดของเราจึงต้องการโฟกัสที่ผลลัพธ์ ไม่แคร์หรอกว่าคุณจะทำอะไรใน 1 วัน นอนกี่โมง ใช้เวลาเท่าไหร่ก็ได้ ถ้าผลลัพธ์เกิด นั่นเป็นเหตุเป็นผล (Makes sense) ที่สุดแล้ว ซึ่งชีวิตคนทำงานก็จะมีความสุข สุขภาพดีขึ้น และรักษาพนักงานได้

โกลว์ฟิชสาทร แม้จะยังไม่เปิดให้บริการ แต่ขณะนี้มีสมาชิกเข้ามาเช่าใช้พื้นที่ทำงาน 80% แล้ว เรียกว่าผลตอบรับดีไม่น้อย ส่วนสาขาเซ็นเตอร์พอยท์ฯ มีอัตราการเช่าประมาณ 70% ขณะที่สาขาอโศก 85-90% โดยพื้นที่ที่สมาชิกใช้บริการค่อนข้างมากจะเป็นห้องประชุม พื้นที่จัดอีเวนท์ เป็นต้น

ทุ่มเทขนาดนี้ เป้าหมายของ ปรินท์ เขาอยากเห็นโกลว์ฟิชเป็นเส้นทางสู่ความสำเร็จของผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ

มันมีหลายวิธีที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจ แต่การทำงานคนเดียวมันไม่เวิร์ค หรือ เก่งแล้วก็อยากให้มีส่วนร่วมสร้างการเติบโตไปด้วยกัน สร้างกลุ่มก้อนโกลว์ฟิชให้แน่นหนา เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยต่อไป สอดคล้องดีเอ็นเอ Work Play Grow”