สหรัฐจี้จีน-เยอรมนีลดเกินดุล

สหรัฐจี้จีน-เยอรมนีลดเกินดุล

กระทรวงการคลังสหรัฐ กล่าวว่า แม้จีนและเยอรมนีไม่ได้บิดเบือนค่าเงินของตัวเองเพื่อประโยชน์ด้านการค้า แต่ก็ควรพยายามมากกว่านี้ในการลดการเกินดุลการค้ากับสหรัฐ

ก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์ว่า จะมีความเห็นเช่นนี้ออกมาหลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ มีท่าทีที่เปลี่ยนไป และกล่าวว่าจีนไม่ได้บิดเบือนค่าเงิน

นอกจากนี้ แม้ว่ารายงานชิ้นแรกของรัฐบาลสหรัฐชุดนี้เกี่ยวกับนโยบายอัตราแรกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของชาติคู่ค้า จะยังคงจุดยืนเดิมของรัฐบาลชุดที่แล้วของนายบารัก โอบามา ที่จัด 6 ประเทศที่สหรัฐมองว่าบิดเบือนค่าเงินในบัญชีเฝ้าระวังเช่นเดิม แต่รายงานฉบับใหม่กลับใช้ถ้อยคำที่เบาลงกว่าเดิม ไม่เพียงเท่านั้นยังเรียกร้องให้ประเทศเหล่านี้พยายามลดการเกินดุลการค้าต่อสหรัฐด้วย

นายทรัมป์ เคยกล่าวหลายครั้งในช่วงหาเสียงว่า จะขึ้นบัญชีจีนว่าเป็นประเทศที่บิดเบือนค่าเงินในวันแรกที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่กลับไม่ได้ทำตามที่พูดไว้ และเขายังลดความแข็งกร้าวดังกล่าวลงด้วย หลังจากพบกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนในรัฐฟลอริดาของสหรัฐ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

จีน มีองค์ประกอบประเทศที่บิดเบือนค่าเงินเพียง 1 ข้อ จากทั้งหมด 3 ข้อ นั่นคือเกินดุลการค้าสหรัฐอย่างมาก ขณะที่เยอรมนีมีองค์ประกอบถึง 2 ข้อ ซึ่งนอกจากเกินดุลการค้าสหรัฐอย่างมากแล้ว ตัวเลขเกินดุลนี้ยังสูงกว่า 1 ใน 3 ของผลผลิตทางเศรษฐกิจของประเทศด้วย

ช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลจีนไม่ได้แทรกแซงตลาดเพื่อทำให้เงินหยวนอ่อนค่า ตามองค์ประกอบข้อสุดท้าย แต่รัฐบาลจีนกลับพยายามรักษาค่าเงินหยวนให้ไม่อ่อนค่าลงจากเดิม ในช่วงที่อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไม่สูงนักเมื่อเทียบกับอดีต

ขณะที่เยอรมนี เป็นประเทศที่ใช้เงินยูโรร่วมกับหลายชาติในกลุ่มยูโรโซน ทำให้เป็นไปได้ยากที่จะเปลี่ยนแปลงค่าเงินเพียงฝ่ายเดียว

ค่าเงินที่อ่อนลงทำให้สินค้าส่งออกมีราคาต่ำลงไปด้วยเมื่อเทียบกับคู่แข่ง การประกาศว่าประเทศใดเป็นประเทศที่บิดเบือนค่าเงินนั้น สหรัฐจะต้องเริ่มกระบวนการหนึ่ง ที่มีการเจรจารวมอยู่ในกระบวนการนี้ด้วย ซึ่งกระบวนการนี้อาจก่อให้เกิดการคว่ำบาตรทางการค้าเพื่อตอบโต้ประเทศที่บิดเบือนค่าเงิน