‘แอ๊ปเปิ้ล’ตั้งทีมลับวิจัยเบาหวาน

เวบไซต์สถานีข่าวซีเอ็นบีซีของสหรัฐ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงใน 3 คน ที่เปิดเผยว่า แอ๊ปเปิ้ลได้ว่าจ้างทีมวิศวกรด้านชีวเวช (การแพทย์ว่าด้วยสิ่งมีชีวิต)มาร่วมทำโครงการลับเพื่อพัฒนาเซนเซอร์รักษาโรคเบาหวาน โดยวิศวกรเหล่านี้ อาจทำงานในสำนักงานแห่งหนึ่งของบริษัทในเมืองพาโล อัลโต รัฐแคลิฟอร์เนีย ใกล้กับสำนักงานใหญ่

รายงานข่าวนี้ แพร่ออกมาในช่วงที่เส้นแบ่งระหว่างวงการเวชภัณฑ์และเทคโนโลยีกำลังจางลง เนื่องจากบริษัทหลายแห่งร่วมมือกันพัฒนาวิธีรักษาโรคเรื้อรัง โดยใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีขั้นสูง ที่รวมเอาซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ด้านชีววิทยามาใช้ จึงเกิดเป็นศาสตร์ด้านการแทพย์ใหม่ที่เรียกว่า อิเล็กทรอนิกส์ชีวภาพขึ้น

คาดว่าโครงการดังกล่าวของแอ๊ปเปิ้ล ดำเนินการมาอย่างน้อย 5 ปี แล้ว และขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนเตรียมศึกษาความเป็นไปได้ และมีรายงานด้วยว่า แอ๊ปเปิ้ลได้ว่าจ้างผู้ให้บริการให้คำปรึกษามาช่วยบริษัททำการศึกษากฎระเบียบด้านการแพทย์ด้วย

แหล่งข่าวเผยด้วยว่า ทีมงานดังกล่าว มีนายจอห์นนี ซรูจี รองประธานอาวุโสด้านเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ของแอ๊ปเปิ้ล และอีกราว 30 คน ร่วมทีม โดยอย่างน้อยกว่า 10 คน เป็นคนที่แอ๊ปเปิ้ลซื้อตัวมาจากวงการชีวเวช รวมถึง บริษัทโซแนร์, ไวทอล คอนเนกต์, ซาโน และ เมดทรอนิก

แม้ยังไม่มีการยืนยันข่าวนี้จากแอ๊ปเปิ้ล แต่โครงการลับดังกล่าว ก็สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีสหรัฐรายนี้ ที่นายสตีฟ จ็อบส์ อดีตหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) เชื่อว่าวันหนึ่ง แอ๊ปเปิ้ลจะก้าวไปถึงจุดคาบเกี่ยวระหว่างเทคโนโลยีและชีววิทยา

เมื่อปีที่แล้ว แกล็กโซสมิทไคล์น พีแอลซี และอัลฟาเบต อิงค์ บริษัทแม่ของกูเกิล ได้ตั้งบริษัทร่วมทุน ที่มีเป้าหมายในการขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชีวภาพ เพื่อต่อสู้กับโรคต่างๆ ด้วยการนำไปติดตั้งกับระบบประสาทของผู้ป่วย

ส่วนบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ (ไอโอเทค) สหรัฐ 2 ราย ได้แก่ เซตพอยท์ เมดิคอล และ เอ็นเทโรเมดิกส์ อิงค์ ก็เริ่มประสบความสำเร็จในการนำเทคโนโลยีด้านอิเล็กทรอนิกส์ชีวภาพ มารักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ และการลดความอยากอาหารในผู้ป่วยโรคอ้วนแล้ว

นอกจากนี้ บริษัทอื่นๆ ที่เริ่มนำแนวคิดด้านอิเล็กทรอนิกส์ชีวภาพมาใช้มีหลายบริษัท ซึ่งมี เมดทรอนิก พีแอลซี, โปรเชียส ดิจิทัล เทคโนโลยี, ซาโนฟี่ เอสเอ และไบโอเจน อิงค์ รวมอยู่ด้วย