'ตลาด' เปิดบริการออมหุ้นพ.ค.นี้

'ตลาด' เปิดบริการออมหุ้นพ.ค.นี้

ตลาดเปิด "บริการออมหุ้น" พ.ค.นี้ พร้อมให้ 26 บล.เชื่อมต่อระบบฟรี เร่งเติมข้อมูลออนไลน์ขยายฐานผู้ลงทุน

ตลาดหลักทรัพย์เตรียมเปิดให้บริการออมหุ้นรายเดือนพ.ค.นี้ หวังสร้างนิสัยการออมให้นักลงทุน พร้อมจับมือ 26 บล.ให้บริการ แจงไม่เก็บค่าเชื่อมต่อระบบระหว่างสมาชิกกับตลาดหวังช่วยลดต้นทุน พบการซื้อขายผ่านระบบอินเทอร์เน็ตคึกคัก เร่งทำข้อมูลออนไลน์ขยายฐานนักลงทุน 

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการแพลตฟอร์มการให้บริการออมหุ้นรายเดือนได้ในเดือน พ.ค. นี้ ในเบื้องต้นคาดว่าจะมีบริษัทหลักทรัพย์ที่จะร่วมโครงการประมาณ 26 ราย

“ตลาดหลักทรัพย์คาดว่าจะเริ่มให้บริการแพลตฟอร์มการออมหุ้นได้ในเดือนพ.ค.2560 เบื้องต้นจะใช้แพลตฟอร์มของบริษัทเซทเทรด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเป็นผู้ให้บริการ ซึ่งจะเป็นระบบกลางให้สมาชิกเข้ามาต่อเชื่อม เพื่อให้บริการออนไลน์กับนักลงทุน”

ทั้งนี้ การให้บริการของตลาดหลักทรัพย์จะเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงระบบ ซึ่งจะเปิดให้บริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ สามารถเข้าระบบกับตลาดหลักทรัพย์ได้ฟรีแต่ผู้ลงทุนก็ต้องดำเนินการจ่ายค่าธรรมเนียมซื้อขายหลักทรัพย์กับบริษัทสมาชิกตามปกติ และเบื้องต้นอาจจะกำหนดให้สามารถเข้าซื้อได้ 5 หลักทรัพย์ ส่วนหุ้นใดที่จะสามารถเข้าร่วมโครงการได้นั้น ตลาดหลักทรัพย์จะให้บริษัทหลักทรัพย์แต่ละรายเป็นผู้กำหนดขึ้นมาเอง

ที่ผ่านมาการให้บริการของบริษัทหลักทรัพย์ด้านการออมหุ้นนั้น มีหลายบริษัทที่เปิดให้บริการอยู่แล้ว ซึ่งในแต่ละบริษัทหลักทรัพย์ที่ให้บริการจะมีต้นทุนด้านการจัดทำแอพพลิเคชันที่ค่อนข้างสูง และเป็นต้นที่ที่สำคัญ ซึ่งตลาดหลักทรัพย์จึงเข้ามาทำในเรื่องดังกล่าวและน่าจะช่วยปรับลดต้นทุนต่างๆ ลงได้ และคาดหวังว่าจะช่วยให้ค่าบริการปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตามการเข้าทำแพลตฟอร์มออมหุ้นครั้งนี้ สิ่งที่ตลาดหลักทรัพย์มุ่งหวังคือการสร้างอุปนิสัยการออมอย่างสม่ำเสมอให้กับนักลงทุน ซึ่งจะเป็นทางเลือกการเก็บเงินในระยะยาว ซึ่งตลาดหลักทรัพย์วางเป้าหมายจะมีผู้เข้าร่วมโครงการประมาณ 1 หมื่นราย

ปัจจุบันพัฒนาการของผู้ลงทุนรายบุคคลของตลาดหุ้นไทย พบว่ามีการใช้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านระบบออนไลน์ที่มากขึ้น โดยคิดเป็น 65% ของมูลค่าการซื้อขายของนักลงทุนรายบุคคลทั้งหมด ซึ่งทิศทางของอายุเฉลี่ยของนักลงทุนนั้นปรับลดลงจากมากกว่า 40 ปี ลดลงเหลือระดับ 30 ปี  ส่วนในตลาดซื้อขายสัญญาล่วงหน้านั้น จากการสำรวจพบว่านักลงทุนยังไม่มีความเชี่ยวชาญการลงทุนในรูปแบบการซื้อขาย 

ขณะที่พฤติกรรมของนักลงทุนมีการสื่อสารรูปแบบออนไลน์ที่มากขึ้น ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ต้องหันมาพัฒนาระบบการให้บริการออนไลน์ ทั้งการส่งคำสั่งซื้อขายที่ทำมาต่อเนื่อง รวมถึงการให้คำแนะนำนักลงทุนและให้ข้อมูลผ่านระบบออนไลน์ด้วย นอกจากนี้ตลาดหลักทรัพย์จะเร่งพัฒนาระบบฟันด์คอนเน็กซ์ เพื่อเชื่อมโยงการขายกองทุนรวมให้กับนักลงทุน ซึ่งตลาดหลักทรัพย์จะเป็นตัวกลางในการซื้อขายหน่วยลงทุนระหว่างบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน 

จากการตรวจสอบพบว่า ปัจจุบันมีบริษัทหลักทรัพย์ที่เปิดให้บริการออมหุ้นแล้วนั้น ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด 

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยรายงานความเคลื่อนไหวการซื้อขายในเดือน มี.ค. โดยพบว่า มูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอยู่ที่ 43,189 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 17.83% ส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในไตรมาสที่ 1/2560 อยู่ที่  50,865 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9.29% 

ทั้งนี้ มูลค่าการซื้อขายนักลงทุนรายบุคคลเดือนมี.ค.อยู่ที่ 20,706 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนต่อมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด 47.95% โดยปัจจุบันมีจำนวนบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ ณ สิ้นเดือนก.พ. 1,378,819 บัญชี เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9.4% ที่มีจำนวนบัญชี 1,259,885 บัญชีโดยมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อบัญชี อยู่ที่ 2.78 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12.8% ที่มีมูลค่าการซื้อขายต่อบัญชี 3.19 ล้านบาท

จากข้อมูลดังกล่าวพบว่า นักลงทุนที่มีการซื้อขายเป็นประจำอยู่ที่ 38% โดยนักลงทุนรายบุคคลที่ซื้อขายผ่านระบบอินเทอร์เน็ต คิดเป็น 68% ของมูลค่าการซื้อขายของนักลงทุนรายบุคคล ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่นักลงทุนซื้อขายผ่านระบบอินเทอร์เน็ต 64.6%