‘สินเชื่อ' ฟื้นครึ่งปีหลัง จับตาแข่งขัน..ระดมเงินฝาก

‘สินเชื่อ' ฟื้นครึ่งปีหลัง จับตาแข่งขัน..ระดมเงินฝาก

"สินเชื่อ" ฟื้นครึ่งปีหลัง จับตาแข่งขัน..ระดมเงินฝาก

ตามคาดการณ์ของธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง ปีนี้น่าจะเป็นปีที่ดีของธุรกิจธนาคารพาณิชย์ แม้ว่าจะมีปัจจัยที่ท้าทายหลายอย่าง ทั้งจากสภาวะแวดล้อมทางธุรกิจ ที่ถูกบีบให้ปรับตัวจากการเข้ามาของเทคโนโลยีฟินเทค และนโยบาย National e-payment ของรัฐบาล ที่ส่งเสริมการใช้พร้อมเพย์ ซึ่งกระทบโดยตรงต่อรายได้ค่าธรรมเนียม ยังไม่รวมภาวะการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในทุกส่วนธุรกิจ

นั่นเป็นเพราะ ธนาคารพาณิชย์ประเมินว่า ตัวเลขสินเชื่อในปีนี้จะเติบโตสูงตามการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศที่มองว่าจะมีการเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 3.3% ซึ่งโดยทั่วไปของสินเชื่อจะเติบโตสูงกว่าเศรษฐกิจ ธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่จึงตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อปีนี้ไว้สูง เฉลี่ยประมาณ 4-6% จากปีก่อนหน้าที่สินเชื่อธนาคารพาณิชย์เติบโตได้เพียง 2% เท่านั้น

อย่างไรก็ตามผ่านมาแล้ว3เดือน ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะไม่ได้ดีเหมือนที่หลายฝ่ายคาดไว้ ตัวเลขการให้สินเชื่อยังทรงตัว เมื่อเทียบกับปลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะสินเชื่อรายย่อย หรือ “เอสเอ็มอี” ที่คาดว่าจะฟื้นตัวเร็ว จากการเบิกจ่ายงบลงทุนของภาครัฐ และโครงการลงทุนขนาดเล็กในระดับจังหวัด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะงบลงทุนของรัฐจะมีการเบิกจ่ายสูงในช่วงครึ่งปีหลัง อีกทั้งสถานการณ์หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอลของธนาคารยังเพิ่มขึ้นอยู่ ทำให้ธนาคารพาณิชย์ต้องระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่ออยู่

จากตัวเลขของศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า ในเดือนม..ปีนี้ สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์เติบโตเพียง 2.3% ต่ำกว่าการเติบโตในเดือน ธ..2559 ที่สินเชื่อธนาคารพาณิชย์เติบโตได้ในระดับ 2.4% ขณะที่ในเดือนก.พ.สินเชื่อเติบโตในระดับ 2.6% และคาดการณ์ว่าตัวเลขสินเชื่อในเดือนมี.ค.จะเติบโตในระดับที่ใกล้เคียงกับ2 เดือนแรกของปี

ขณะที่ภาพรวมเอ็นพีแอลทั้งระบบ ยังอยู่ในระดับสูง แม้อัตราการเร่งขึ้นจะลดลง แต่ตัวเลขก็ยังปรับขึ้นต่อเนื่อง จากช่วงปีก่อนที่เอ็นพีแอลปรับขึ้นแทบทุกธนาคาร โดยภาพรวมเอ็นพีแอลของ 11 ธนาคารขนาดใหญ่เมื่อสิ้นปี 2559 มีเอ็นพีแอลรวมกันประมาณ 3.82 แสนล้านบาท ปรับขึ้น11% จากปีก่อนหน้า ซึ่งจากมุมมองของหลายๆธนาคาร รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)มองว่าเอ็นพีแอลของแบงก์ในปัจจุบันยังไม่ใช่ระดับสูงสุด (พีค)

โดยเอ็นพีแอลน่าจะขึ้นพีคในช่วงครึ่งปีแรกนี้ ก่อนจะเริ่มปรับลดลงในช่วงครึ่งปีหลัง จากภาวะเศรษฐกิจที่จะครึ่งปีหลังจะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก

สอดคล้องกับข้อมูลของศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี ธนาคารทหารไทย ที่ระบุว่า สถานการณ์สินเชื่อธนาคารพาณิชย์ในปีนี้อาจจะเติบโตไม่สูงเหมือนที่เคยประเมินไว้เมื่อช่วงปลายปี เป็นผลมาจากแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจและการลงทุนภาคเอกชนที่เติบโตต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้

โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอีที่ยังเปราะบางมาก คาดว่าจะมีการเติบโตเพียง 2%เท่านั้น เป็นเหตุให้ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ในปีนี้ลงเหลือ 5.7% จากช่วงปลายปีก่อนประเมินว่าจะเติบโตได้ถึง 6.3%

อย่างไรก็ตามแม้ว่าภาพรวมสินเชื่อในช่วงต้นปี และอาจจะรวมถึงในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้อาจจะเติบโตได้น้อย แต่ทุกฝ่ายทั้งศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ รวมถึงผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ต่างมองไปในทิศทางเดียวกันว่าสถานการณ์สินเชื่อจะเร่งตัวมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ จากสถานการณ์การเบิกจ่ายงบลงทุนของภาครัฐที่จะมีเม็ดเงินลงสู่ระบบจำนวนมากในช่วงดังกล่าว และตัวเลขการลงทุนของภาคเอกชนที่น่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปี

“แม้ว่าจะปรับลดคาดการณ์สินเชื่อปีนี้ลง แต่ภาพรวมสินเชื่อก็ยังมีการเติบโตในระดับสูง ทั้งจากการเติบโตของเศรษฐกิจ การลงทุนภาคเอกชน อีกทั้งในปีนี้บริษัทขนาดใหญ่จะเริ่มกลับมากู้เงินแบงก์มากขึ้น จากปีก่อนจะใช้ช่องทางการออกหุ้นกู้มากกว่า เนื่องจากในปีนี้ต้นทุนการออกหุ้นกู้เพิ่มขึ้น ตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้น ทำให้บอนด์ยิลด์ปรับขึ้น ปีนี้จึงเป็นปีที่แบงก์พาณิชย์จะกลับมาดีขึ้น” นายนริศ สถาผลเดชา ผู้อำนวยการอาวุโส ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบีระบุ

เช่นเดียวกับ “สนอง คุ้มนุช”รองกรรมการผู้จัดการ สาย เครือข่ายลูกค้ารายย่อยและธุรกิจขนาดเล็ก ธนาคารธนชาต ที่มองว่า แม้สินเชื่อเอสเอ็มอีในช่วง2เดือนแรกของปีนี้ยังไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้น แต่ คาดว่าจะจะเห็นการปรับขึ้นของสินเชื่อเอสเอ็มอีตั้งแต่ไตรมาส3ของปีนี้เป็นต้นไป จากเม็ดเงินโครงการลงทุนของภาครัฐจะเริ่มลงสู่ระบบ กลุ่มที่น่าจะได้รับประโยชน์มีทั้งกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และโลจิสติกส์

ขณะที่ “ชาติศิริ โสภณพนิช” กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ มองว่า ภาวะสินเชื่อโดยรวมยังขยับตามสภาวะของเศรษฐกิจไทย และจะขยายตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง จากเม็ดเงินลงทุนที่ออกมาเพิ่มขึ้นเรื่อย ส่วนเรื่องเอ็นพีแอลแม้จะยังมีอยู่บ้าง แต่ไม่น่ากังวล

ส่วน “ปรีดี ดาวฉาย” กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย มองว่า จะเห็นการเติบโตของสินเชื่อที่ดีในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากโครงการลงทุนภาครัฐจะมีความชัดเจนในครึ่งปีหลังมากกว่าครึ่งปีแรกทำให้ความต้องการใช้สินเชื่อเพิ่มขึ้น โดยธนาคารยังคงเป้าหมายสินเชื่อรวมปีนี้เติบโต 4-6% แบ่งเป็นสินเชื่อรายใหญ่ 4-6% สินเชื่อเอสเอ็มอี 5-7% และ สินเชื่อรายย่อย 5-7%

เช่นเดียวกับ “อาทิตย์ นันทวิทยา” กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ มองว่า ภาพรวมของสินเชื่อช่วงที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในระดับดี สินเชื่อลูกค้ารายใหญ่และสินเชื่อที่อยู่อาศัยกลับมาดีขึ้น แม้ว่าสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อเอสเอ็มอีจะกลับมาไม่เต็มที่ก็ตาม แต่ก็ยังมองว่ายอดปล่อยสินเชื่อของธนาคารในปีนี้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 4-6%

จากมุมมองของผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ที่ยังมองบวกว่าสินเชื่อปีนี้จะเติบโตได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ โดยฝากความหวังไว้ที่การลงทุนเบิกจ่ายของภาครัฐและการลงทุนของภาคเอกชนที่จะกลับมาในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ สิ่งที่จะตามมาคือ “การระดมเงินฝาก”ของแต่ละแบงก์ เพื่อเตรียมไว้สำหรับการปล่อยสินเชื่อ

แน่นอนว่าเมื่อทุกแบงก์ต้องการเหมือนกัน “การแข่งขันเรื่องดอกเบี้ย” หรือ “สงครามเงินฝาก”คงมีให้เห็นเร็วๆนี้ เว้นแต่จะมีสัญญาณบางอย่างที่ทำให้สินเชื่อในช่วงครึ่งปีหลังจะไม่เป็นไปตามที่คาดไว้!