โรงแรมแห่ชิงเค้กไมซ์ดันทำเล‘แจ้งวัฒนะ-ดอนเมือง’แรง

โรงแรมแห่ชิงเค้กไมซ์ดันทำเล‘แจ้งวัฒนะ-ดอนเมือง’แรง

เมื่อชุมชนเมืองขยายตัวสู่รอบนอก ทำเลย่านแจ้งวัฒนะและดอนเมือง ซึ่งมีศูนย์กลางของราชการ, แหล่งที่อยู่อาศัย และสนามบินนานาชาติ จึงได้รับการจับตามองในฐานะทำเลที่มีธุรกิจโรงแรมขยายตัวต่อเนื่อง

อนัคพล อิงคะกุล กรรมการบริหาร มิราเคิล กรุ๊ป ซึ่งมีโรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น เป็นธุรกิจดั้งเดิมในทำเลนี้มายาวนาน กล่าวว่า แม้ว่าจะมีโรงแรมขยายตัวเพิ่มขึ้นมากจากเชนนานาชาติ แต่ยังประเมินว่าจะเป็นพันธมิตรมากกว่าคู่แข่ง เพราะเค้กในย่านแจ้งวัฒนะและดอกเมืองยังมีขนาดใหญ่พอให้แบ่งปันอีกมาก ทั้งตลาดไมซ์ที่มีลูกค้าไทยและต่างชาติ และตลาดคนไทยจากศูนย์ราชการ สังเกตได้จากอัตราเข้าพักเฉลี่ยที่อยู่ระดับ 90-95% ทุกเดือน บางช่วงเวลามีปัญหาห้องพักไม่พอรองรับ ทำให้กลุ่มมิราเคิลเอง ต้องเตรียมการขยายโรงแรมเฟสใหม่ เพื่อเพิ่มห้องพักเป็น 470 ห้อง และเพิ่มพื้นที่การจัดประชุมอีกเท่าตัว เพื่อขยายการรองรับจาก 3,000 คน เป็น 5,000-6,000 คน

 “ตลาดคนไทยยังเป็นกลุมลูกค้าหลักที่มีดีมานด์สูงมาก มิราเคิล มีกลุ่มข้าราชการภาครัฐกว่า 65-70% และบริษัทเอกชนอีกกว่า 10% ส่วนลูกค้าต่างชาติมีอยู่ราว 15-20% ดังนั้น หลังจากการขยายโรงแรมเฟสใหม่อีก 2 เฟสแล้ว จะทำให้สามารถรับการขยายของตลาดไมซ์ต่างชาติ ที่คาดว่าจะทะลักเข้ามา เมื่อไทยมีบทบาทชัดเจนในการเป็นศูนย์กลางธุรกิจของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) และมีศูนย์ประชุมรองรับในบริเวณใกล้กัน”

เช่นเดียวกับ บรี ครีเซอร์ รองประธานฝ่ายปฏิบัติการแบรนด์โรงแรมระดับกลางและระดับประหยัด ประจำแอคคอร์โฮเทล ประเทศไทย ที่กล่าวว่า จากการที่ “แอคคอร์” เข้ารับบริหารโรงแรมจำนวน 2 แห่ง ได้แก่ โนโวเทล กรุงเทพ อิมแพ็ค (380 ห้องพัก) และ ไอบิส กรุงเทพ อิมแพ็ค (587 ห้องพัก) เห็นศักยภาพการเติบโตของตลาดนักท่องเที่ยวและนักเดินทางเชิงธุรกิจต่อเนื่อง ตามการขยายตัวของบรรดาธุรกิจ และหน่วยงานราชการ ที่เริ่มย้ายและขยายสำนักงานไปยังเขตเมืองทองธานี และแจ้งวัฒนะ โดยมีปัจจัยส่งเสริมคือ รถไฟสายสีชมพู ที่จะเปิดให้บริการในอนาคต

การขยับเข้ามาเล่นในทำเลนี้ เนื่องจากเห็นความต้องการที่เพิ่มขึ้น ของโรงแรมเครือต่างชาติที่ให้บริการคุณภาพระดับสากล ซึ่งปัจจุบันยังมีแบรนด์ที่เป็นต่างชาติจำนวนน้อยมาก ทำให้ที่ผ่านมาโนโวเทล อิมแพ็ค ที่เปิดตัวขึ้นมาก่อน ได้รับความสนใจจากลูกค้าจำนวนมาก ขณะที่ต้นเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ไอบิส กรุงเทพ อิมแพ็ค ซึ่งเจาะตลาดระดับกลาง ก็เริ่มทยอยมีลูกค้าใช้บริการต่อเนื่อง

ข้อดีของทำเลดังกล่าวคือ โครงสร้างตลาดมีการผสมผสานทั้งชาวไทยและต่างชาติ ส่วนใหญ่จะมาจากผู้จัดงานประชุม หรือผู้ที่มาร่วมงานประชุม, งานแสดงสินค้า ติดต่อธุรกิจ และมาร่วมงานคอนเสิร์ต แต่ในอนาคต ตั้งเป้าจะเพิ่มจำนวนและความหลากหลายของกลุ่มผู้เข้าพักได้ โดยใช้ข้อได้เปรียบของการวางตำแหน่งแบรนด์ระดับกลางและราคาประหยัด จึงเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายในย่านนี้ ที่ต้องการเพียงห้องพักเรียบง่าย สะดวก คุณภาพดี เหมาะสมกับงบประมาณ

พอลล์ กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ในเครือบางกอกแลนด์ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี กล่าวว่า โครงการไอบิสฯ ใช้งบประมาณราว 1,000 ล้านบาท มีห้องพักกว่า 587 ห้อง โดยหลังจากเปิดตัวช่วงต้น มีอัตราเข้าพักเฉลี่ยเข้ามากว่า 70% ซึ่งถือว่าตอบรับต่อกระแสการขยายตัวของธุรกิจไมซ์ที่เติบโตราว 5-7% ต่อปี

ทั้งนี้ เมื่อรวมกับโครงการเดิมคือโนโวเทล ทำให้อิมแพ็คมีห้องพักภายในสถานที่จัดประชุมรองรับรวมกันได้กว่า 1,000 ห้อง แม้ว่าอัตราเข้าพักเฉลี่ยตลอดปีอยู่ที่ 60-70% แต่สำหรับในช่วงที่มีการจัดงานใหญ่ระดับนานาชาติ ยอดการเข้าพักจะขยายตัวได้ถึง 90% และอิมแพ็ค สามารถวางจุดขายเป็นศูนย์ประชุมแห่งเดียวที่มีโรงแรมที่พักจำนวนมาก รองรับผู้เข้าร่วมงานได้ในพื้นที่เดียวกัน อีกทั้งยังสามารถจับตลาดนักท่องเที่ยวที่ต้องการที่พักมาตรฐานใกล้สนามบินดอนเมือง เนื่องจากสามารถเดินทางได้ในเวลา 15 นาที

นอกจากการยึดทำเลอิมแพ็คของเครือแอคคอร์แล้ว ในปี “เบสท์เวสเทิร์น” เป็นเชนระดับนานาชาติที่เข้าจับจองตลาดดังกล่าว ด้วยการส่งเบสท์เวสเทิร์นพลัส แวนด้าแกรนด์ ขนาด 183 ห้อง บนถนนแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด ตรงข้ามเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ก่อนที่ในปีนี้ ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล จะประกาศตัวเป็นเชนใหญ่รายล่าสุด ที่ปักธงทำตลาดในทำเลนี้ ด้วยการนำแบรนด์ “ดีทู” เข้ามาในกรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก ภายใต้ชื่อโครงการ ดุสิตดีทู แจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นการร่วมมือกับ บริษัท สงวนทัศน์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ในฐานะเจ้าของกิจการ

ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า วางแผนให้โรงแรมขนาด 200 ห้อง เป็นโรงแรมแนวธุรกิจร่วมสมัยในเขตกรุงเทพฯ ตอนเหนือ มีจุดเด่นด้านที่ตั้งใกล้กับสนามบินดอนเมืองราว 30 นาที และอิมแพ็ค ศูนย์กลางของการจัดกิจกรรมไมซ์ 15 นาที และอยู่ในโซนเกาะกลุ่มใกล้กับศูนย์ราชการ, โรงเรียนนานาชาติ, ห้างสรรพสินค้า ทำให้มั่นใจว่าจะเป็นตัวเลือกในการรองรับตลาดที่หลากหลาย โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายสีชมพู ซึ่งจะเปิดให้บริการในปี 2563 ที่มีสถานีใกล้กับโรงแรม สามารถเชื่อมต่อกับบีทีเอสสายหลักได้อนาคต สอดคล้องกับโรงแรมที่คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จและให้บริการในปีเดียวกันได้

ดุสิตดีทู แจ้งวัฒนะ จะเป็นหนึ่งในโรงแรมเครือดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ที่เตรียมเปิดอีก 51 แห่งทั่วโลกในอีก 3 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันมีให้บริการอยู่แล้ว 29 แห่ง จาก 4 แบรนด์