อียิปต์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน3เดือน
ขณะยอดผู้เสียชีวิตจากระเบิดในโบสถ์คริสต์นิกายคอปติก 2 แห่งทางตอนเหนือของอียิปต์เมื่อวานนี้ เพิ่มขึ้นเป็น 45 ราย
มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 110 ราย ขณะที่กลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอสออกมาอ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุในครั้งนี้
การระเบิดครั้งแรกเกิดขึ้นที่โบสถ์ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนล์ เมืองตันตะ ห่างจากพื้นที่ตอนเหนือของกรุงไคโรออกไปประมาณ 80 กิโลเมตร โดยเหตุการดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเที่ยงวัน ในระหว่างที่มีการเฉลิมฉลองเทศกาลปาล์มซันเดย์ และหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ก็เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่โบสถ์นิกายคอปติกอีกแห่งหนึ่ง ในเมืองอเล็กซานเดรีย
ด้านประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ เอล-ซีซี ของอียิปต์ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินภายในประเทศเป็นเวลา 3 เดือน เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างกังวลต่อประชาชน และยังเกิดขึ้นก่อนที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส มีกำหนดจะเสด็จเยือนอียิปต์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
โบสถ์คริสต์นิกายคอปติก ตกเป็นเป้าการโจมตีของกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงหลายครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการลอบวางระเบิดโบสถ์แห่งหนึ่งในกรุงไคโรเมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตราว 30 คน
อย่างไรก็ตาม ผู้นับถือศาสนาคริสต์ จัดเป็นชนกลุ่มน้อยในอียิปต์ มีผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายคอปติกราว 10% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดูเหมือนผู้ก่อเหตุหวังผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก เพราะจงใจก่อเหตุในวันอาทิตย์ใบปาล์ม ซึ่งเป็นวันสำคัญทางศาสนาที่มีผู้เข้าร่วมพิธีจำนวนมากแต่
พระสันตะปาปาทาวาดรอส ผู้นำคริสตจักรคอปติก ซึ่งทรงกำลังประกอบพิธีอยู่ในวิหาร ไม่ได้รับอันตรายจากเหตุรุนแรงครั้งนี้