วันเกิดธัมมชโย ให้งด..แต่ไม่ห้าม!!!

วันเกิดธัมมชโย ให้งด..แต่ไม่ห้าม!!!

วันเกิดธัมมชโย ให้งด..แต่ไม่ห้าม!!! 22 เมษา วันคุ้มครอง “ธัมมชโย”

ในทุกปี "วันที่ 22 เมษายน" ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิด "พระธัมมชโย 73 ปี" และยังเป็น "วันคุ้มครองโลก" ด้วย โดยในปีผ่านๆ มาวัดพระธรรมกายจัดพิธีถวายมหาสังฆทาน จัดสวดธัมมจักกัปปวัตนสูตร และมีการนิมนต์พระกว่า 3 หมื่นวัดทั่วประเทศเข้าร่วม พร้อมแจกปัจจัยพระตามลำดับชั้น เริ่มตั้งแต่สามเณร เจ้าอาวาส ไปจนถึงพระราชาคณะ กรรมการมหาเถรสมาคมที่มาร่วมงาน

แต่ในปีนี้ ก่อนวันนั้นจะมาถึง

ผลการประชุมระหว่าง พระเทพรัตนสุธี (สมศักดิ์ โชตินธโร) เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี และคณะผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย, กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) , สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปทุมธานี (พศจ.ปทุมธานี) เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี โดยสรุป ที่ประชุมเห็นว่าให้ทางวัดจัดงานวันดังกล่าวได้แต่ให้จัดแบบวันต่อวัน ไม่ให้มีการค้างคืน

แต่โดยบทสรุปก็คือ ให้งดจัดงานดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการวบรวมคนจำนวนมาก อีกทั้งขณะนี้พื้นที่ของวัดพระธรรมกายยังเป็นพื้นที่ควบคุมอยู่ตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่5/2560 ลงวันที่ 15 ก.พ.2560 จึงให้ทางวัดพระธรรมกายงดจัดงานวันคล้ายวันเกิดของพระธัมมชโย

เจ้าคุณสมศักดิ์ กล่าวขยายความว่า เพื่อเป็นการที่ว่า บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น ก็บอกทางวัดไปว่า ถ้าไม่เป็นการระดมพล ก็จัดได้ ถ้าเขามากันเองก็ปล่อยเขา เราประชุมกันแล้วว่าถ้าเขามากันด้วยความศรัทธาก็ไม่มีปัญหา ถ้าเขามาเช้าเย็นก็ให้กลับ

“เมื่อเขามาแล้วก็ให้ปฏิบัติธรรมอย่างเดียว ไม่ให้มีการปลุกระดมในเรื่องคดีความต่างๆ ถ้าเขาทำกิจกรรมอย่างนี้ก็ปล่อยเขา เขาจะนิมนต์พระมารับกรรมฐานก็เรื่องของเขา เพราะเป็นกิจกรรมที่เขาจัดกันอยู่แล้วทุกปี เป็นความระลึกถึงครูบาอาจารย์ของเขา แต่ว่า ห้ามปลุกระดม ก็คงไม่มีปัญหาอะไร”เจ้าคุณสมศักดิ์ กล่าว

สำหรับเกี่ยวกับหลักธรรมคำสอนในวัดพระธรรมกายนั้น สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสโม)เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ได้เคยแนะนำไว้แล้วเมื่อหลายปีก่อนว่า เรื่องการสอนนิพพานเป็นอัตตานั้น เป็นสิ่งที่ผิดเพี้ยนไม่ตรงกับพระไตรปิฎก และยังขอให้เขายึดถือในหลักการ อีกทั้งเคยนำเอกสารยืนยันว่านิพพานเป็นอนัตตาให้ศิษย์ธรรมกายไปพร้อมกับฝากไปบอกให้เจ้าอาวาสวัดธรรมกายอย่าถือมิจฉาทิฐิ เป็นสัมมาทิฐิ หากเปลี่ยนมาคิด ทำในสิ่งที่ถูก ก็คงไม่เป็นปัญหามาจนถึงทุกวันนี้

ซึ่งเมื่อเจ้าคุณสมศักดิ์มาดูแลก็จะมาช่วยแนะนำเรื่องสัมมาทิฐิต่อจากที่สมเด็จสมศักดิ์ท่านให้หลักการไว้ เพื่อเกื้อกูลให้คณะสงฆ์และผู้ปฏิบัติธรรทในวัด หันกลับมาฝึกสติปัฏฐานสี่ มาดูกายในกาย ดูเวทนาในเวทนา ดูจิตในจิต จนกระทั่งเห็นธรรม คือเห็นไตรลักษณ์ ในที่สุด

พระไชยบูลย์ ธมฺมชโย เกิดเมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2487 ณ คุ้งน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาตำบลบ้านแป้งอำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี บิดา ชื่อ จรรยงค์ สุทธิผล มารดาชื่อจุรี สุทธิผล

ในวัยเด็กมักค้นคว้าหาความรู้ด้านธรรมะ และคำถามที่ติดอยู่ในใจเสมอคือ“เราเกิดมาทำไม และอะไรคือเป้าหมายชีวิต”จึงได้แสวงหาคำตอบเรื่อยมา ขณะที่เรียนอยู่ที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยหลังจากได้ฟังการบรรยายธรรมจากวิทยากรท่านต่าง ๆ ร่วมกับเพื่อนตั้งชุมนุมยุวพุทธ

พ.ศ. 2506 เมื่อขณะศึกษาอยู่ชั้น ม. 8 (เทียบเท่า ม. 6 ปัจจุบัน) กำลังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย ได้ไปขอเป็นศิษย์เรียนปฏิบัติธรรมกับแม่ชีจันทร์ ขนนกยูงซึ่งได้ศึกษาวิชชาธรรมกายมาจากพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ จนเมื่อเรียนจบปริญญาตรีสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์เกษตร จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แล้ว ได้บรรพชาอุปสมบทเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2512 ณ พัทธสีมาวัดปากน้ำภาษีเจริญ โดยมีพระเทพวรเวที (ปัจจุบันคือสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ)เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูพิพัฒน์ธรรมคณี เป็น พระกรรมวาจาจารย์ พระวิเชียรกวี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ธมฺมชโย” แปลว่า “ผู้ชนะโดยธรรม”