‘เอ็มเอไอ’ ดึงภาคธุรกิจต่างจังหวัดเข้าตลาด

‘เอ็มเอไอ’ ดึงภาคธุรกิจต่างจังหวัดเข้าตลาด

"เอ็มเอไอ" ดึงภาคธุรกิจ "ต่างจังหวัดเข้าตลาด" เร่งเดินสายชักชวน คาด3-5 ปีเข้าจดทะเบียนได้  มั่นใจไอพีโอปีนี้คึก 10 บริษัทจ่อเทรดครึ่งปีหลัง 

ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ จับมือพันธมิตรพบภาคธุรกิจในต่างจังหวัด หวังดึงเข้าจดทะเบียนเพิ่มขึ้น ประเมินศักยภาพบริษัทในต่างจังหวัดมีความพร้อมเข้าจดทะเบียนเพียง 10% จากทั้งหมด 100 บริษัท คาดจะเข้าจดทะเบียนได้ภายใน 3-5 ปี รับข้อจำกัดหุ้นไอพีโอยังสูงเพราะขาดบุคลากร ส่วนปีนี้มั่นใจไอพีโอเข้าระดมทุนคึกคัก เผยกว่า 10 บริษัทเร่งแต่งตัวเข้าตลาดครึ่งปีหลัง 

นายประพันธ์  เจริญประวัติ  ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ได้เข้าพบภาคธุรกิจในต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง โดยคาดหวังจะเพิ่มจำนวนบริษัทต่างจังหวัดให้เข้าระดมทุนมากขึ้น  ซึ่งในการทำงานครั้งนี้ เอ็ม เอ ไอ จะร่วมกับสภาอุตสาหกรรม และสภาหอการค้าจังหวัด รวมถึงบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้ตรวจสอบบัญชีเพื่อเตรียมพร้อมให้บริษัทเหล่านี้เข้าระดมทุน

“เอ็มเอไอจะเดินสายพบเอกชนในต่างจังหวัดมากขึ้น โดยจะร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความรู้กับเอกชน ซึ่งที่ผ่านมาเอ็มเอไอพบศักยภาพของเอกชนในต่างจังหวัดมีสูงมาก และคาดหวังว่าจะมีบริษัทระดมทุนมากขึ้น โดยในเบื้องต้นช่วงเดือนพ.ค.บริษัทจะไปให้ข้อมูลกับเอกชนในจังหวัดนครราชสีมา เพื่อชักชวนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์”

ขณะนี้ มีบริษัทที่พร้อมจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ และมีการแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินไปประมาณ 100 บริษัท เข้าจดทะเบียนใน 3-5ปีข้างหน้า ซึ่งบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล ส่วนบริษัทในต่างจังหวัดที่จะเข้าระดมทุนนั้นมีสัดส่วนที่ 10 % เท่านั้น ซึ่งการเข้าจดทะเบียนจะทำได้แค่ปีละ 15-16 บริษัทเท่านั้น เนื่องจากอุตสาหกรรมยังมีข้อจำกัดด้านบุคลากร ทั้งในด้านผู้ตรวจสอบบัญชี เจ้าหน้าที่ด้านวาณิชธนกิจ 

เขากล่าวว่า ภาพรวมการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ จากต้นปีถึงปัจจุบันอยู่ที่ 4 บริษัท ซึ่งในครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีบริษัทเข้าระดมทุนทั้งสิ้น 10 บริษัท เป็นไปตามเป้าหมายที่จะมีบริษัทจดทะเบียนในปีนี้ทั้ง 15-16 บริษัท โดยในครึ่งปีหลังภาวะตลาดหุ้นไอพีโอยังมีทิศทางที่ดี ความมั่นใจของบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนยังมีอย่างต่อเนื่อง 

สำหรับเการปรับกฎเกณฑ์การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีความเข้มงวดมากขึ้น โดยด้านการกระจายหุ้นให้กับผู้มีอุปการคุณของบริษัทที่เข้าระดมทุน โดยจะกำหนดให้การกระจายหุ้นไม่ให้เกิน 25%  นั้น ส่วนตัวเชื่อมั่นว่าจะไม่กระทบกับบริษัทที่จะเข้าระดมทุน เพราะนักลงทุนยังให้การตอบรับหุ้นไอพีโออย่างดี ความต้องการจองซื้อมีจำนวนมาก แต่ยอมรับว่าการปรับเกณฑ์ให้การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนที่เข้มงวดมากขึ้น อาจกระทบให้บางบริษัทต้องเตรียมความพร้อมที่มากขึ้น ทำให้แผนบางบริษัทที่จะเข้าระดมทุนต้องช้าลงไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องยอมรับ เพื่อการยกระดับบริษัทจดทะเบียนให้มีมาตรฐานมากขึ้น