'202บจ.' ปันผลเงินสด

'202บจ.' ปันผลเงินสด

202บจ. "ปันผลเงินสด" กดดัชนีไม่พ้น1,600จุด

เมื่อก้าวเข้าสู่เดือนเม.ย.ถึงพ.ค.ของทุกปี เป็นช่วงที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น ซึ่งข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยในช่วง3 ปีที่ผ่านมาจะอยู่ประมาณ 3%ขึ้นไป อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเรื่องของการจ่ายเงินปันผลนั้น โดยเฉพาะบจ.รายใหญ่ เมื่อขึ้นเครื่องหมายไม่ได้รับสิทธิ์ปันผล(XD)ราคาหุ้นจะปรับลดลง ส่งผลกระทบต่อภาพรวมดัชนีหุ้นไทย อาจปรับตัวลดลง และทำให้โบรกเกอร์คาดว่าดัชนีคงไปได้ไม่ไกลนัก

บล.ทิสโก้ ระบุว่า จากรวบรวมและการประเมินผลกระทบการขึ้นเครื่องหมาย XD ในเดือน เม.ย. และ พ.ค. นี้ จะมีบริษัทจดทะเบียน 91 บริษัท และ 111 บริษัท (นับเฉพาะหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยไม่รวมตลาด mai และนับเฉพาะหุ้นที่จ่ายปันผลเป็นเงินสดเท่านั้น ไม่รวมการจ่ายปันผลเป็นหุ้น) โดยคาดว่าจะมีผลให้ SET Index ปรับตัวลงไปโดยปริยาย -10.96 จุด และ -5.29 จุด ตามลำดับ โดยวันที่จะส่งผลเชิงลบมากสุด 3 อันดับแรก คือ 8 พ.ค. จะกดดัน SET Index -2.20 จุด, 7 เม.ย. -1.63 จุด และ 24 เม.ย. -1.51 จุด ตามลำดับ

อย่างไรก็ดี หากดูสถิติความเคลื่อนไหว SET Index ในเดือน เม.. ย้อนหลัง 10 ปี (ปี 2550-2559) จะพบว่า หุ้นไทยมีโอกาสสูงถึง 80% ปรับตัวสูงขึ้นโดยให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 3.0% ดังนั้น ในแง่ของกลยุทธ์ในการเลือกหุ้นในเดือน เม.ย. นอกจากฝ่ายวิจัยจะเน้นเลือกหุ้นที่คาดว่าประมาณการงบการเงินไตรมาส 1/2560 จะออกมาดีเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นแล้ว ยังเลือกหุ้นที่จะขึ้นเครื่องหมาย XDในช่วงนี้พ่วงด้วย เพราะน่าจะคาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุนได้ทั้งส่วนต่างราคาเกินทุน (Capital Gain) และเงินปันผล (Dividend)

ถึงแม้ภาพรวมเรามอง SET Index เดือน เม.ย. มีโอกาสขยับขึ้น แต่ก็มีโอกาสปรับตัวขึ้นที่จำกัดเช่นกัน โดยไม่น่าจะไปไกลกว่าระดับ 1,600 จุดมากนัก จากการขึ้นเครื่องหมาย XD ในเดือน เม.ย. - พ.ค. ถ่วง SET Index ปรับลงรวม 16 จุดโดยปริยาย ประเด็นหุ้นน่าสนใจในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า ฝ่ายวิจัย เน้นหุ้นที่คาดว่างบไตรมาสแรกปีนี้จะออกมาดี หุ้นที่ฝ่ายวิจัยแนะนำในเดือน เม.ย. คือ AP, BANPU, BBL, BEAUTY, BTW, MTLS และ ROJNA โดยหุ้นแนะนำทั้งหมดจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในช่วงเดือน เม.ย. - พ.ค. นี้ ยกเว้น BTW และ ROJNA เท่านั้นที่ไม่มีการจ่ายปันผล ด้านแนวรับและแนวต้านสำคัญของ SET Index เดือนนี้อยู่ที่ 1560-70, 1545-50 และ 1600-1620 จุด ตามลำดับ

หากมองไปข้างหน้าในเดือน เม.ย. นี้ ฝ่ายวิจัยมองกระแสเงินทุนต่างชาติ ยังมีแนวโน้มเป็นบวกต่อเนื่อง จากตลาดหุ้นไทยยังปรับตัวขึ้นน้อย เพียง 2% ในปีนี้ ตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว (DM) และตลาดหุ้นเกิดใหม่ (EM) ในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวขึ้นเท่ากันที่เฉลี่ยราว 6% ขณะที่เงินบาทยังแกว่งในทิศทางแข็งค่าจากสิ้นปีที่แล้ว รวมทั้งคาดการณ์กำไรไตรมาสแรกปีนี้ของหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์โดยรวมจะออกมาโตระดับ 2 หลักหรือเติบโต12%จากงวดเดียวกันปีก่อน ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี น่าจะช่วยปลุกแรงซื้อในตลาดได้ ทั้งนี้ ตามสถิติย้อนหลัง 5 ปีที่ผ่านมา จะพบว่า นักลงทุนต่างชาติมักมีสถานะ Long S50 Futures ในเดือน เม.ย. ของทุกปี โดยมีระดับความเชื่อมั่น 100% เต็ม