MORNING CALL ACTION NOTES (31 มี.ค.60)

MORNING CALL ACTION NOTES (31 มี.ค.60)

Window Dressing

ดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นจากการทำ Window Dressing ปิด NAV Q1/17 รวมถึงแรงซื้อกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นแรงจากสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,579.88 จุด (+4.91 จุด) Vol. 5.1 หมื่นลบ.โดย Foreign Net +10,662 ลบ. , TFEX Net +8,132 สัญญา , ตราสารหนี้ไทย Net -136 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ตลาดหุ้น DJ ปรับตัวขึ้นตอบรับ GDP Q4/2559 ขยายตัว 2.1% ซึ่งมากกว่าประมาณการครั้งก่อน และแรงหนุนจากราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น

+ ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นล่าสุด 50.2 US/Barrel หลังประเทศผู้ผลิตน้ำมันหลายประเทศสนับสนุนให้มีการขยายการลดกำลังการผลิต

+ ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนเดือนมี.ค.ขยายตัวที่ 51.8 เพิ่มขึ้นจากเดือนก.พ.ที่ขยายตัว 51.6 ส่วน PMI ภาคบริการเดือนมี.ค. ขยายตัวที่ระดับ 55.1 เพิ่มขึ้นจากเดือนก.พ.ที่มีการขยายตัว 54.2

+ คลังเผยเครื่องชี้เศรษฐกิจเดือนก.พ.ขยายตัวดี มั่นใจจีดีพีปีนี้โตตามเป้าที่ 3.6% และอาจโตถึง 4% หากส่งออกขยายตัวดี

+ กกพ.พร้อมไฟเขียววินด์ฟาร์ม หลัง ส.ป.ก.ระบุชัดเช่าที่ไม่ผิด แจงเมื่อได้รับหนังสือยืนยันอนุมัติทันที

+ Foreign เป็น Net Buy 10 วันต่อเนื่องราว 1.9 หมื่นลบ. รวมถึงเงินบาทมีทิศทางแข็งค่าล่าสุด 34.5 Bath/USD.

+/- สนช.ลงมติถอนมาตรา 10/1 จัดตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ (NOC) ออก แต่ยังบันทึกไว้เป็นข้อสังเกตในรายงานการประชุม

** การทำ Window Dressing ปิด NAV Q1/17 ในช่วงสัปดาห์นี้

ภาวะตลาดหุ้นไทยได้ปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นยืนเหนือ 50 US/Barrel , กระแส Fund Flow ที่ไหลเข้าต่อเนื่อง 10 วันราว 1.9 หมื่นลบ. , ภาวะเศรษฐกิจไทยเดือนก.พ.ขยายตัวได้ดี รวมถึงการทำ Window Dressing ปิด NAV Q1/17 ซึ่งเป็นแรงหนุนต่อทิศทางดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,585 – 1,590 จุด

กลยุทธ์การลงทุน ซื้อเก็งกำไรแบบ Selective Buy

- TPIPL เปลี่ยนนโยบายการบัญชีใหม่ ส่งผลให้ไม่มีภาระในการรับรู้ค่าเสื่อมราคาของส่วนเกินทุนจากการตีราคาสินทรัพย์เป็นค่าใช้จ่ายในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จของบริษัท จำนวนประมาณ 1.3 พันล้านบาท/ปีอีกต่อไป

- กลุ่มพลังงาน อานิสงส์ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเหนือ 50 US/Barrel

- DEMCO EA GUNKUL ข่าวส.ป.ก.ไฟเขียว 16 บริษัททำโรงไฟฟ้าวินด์ฟาร์มได้ต่อ

- กลุ่มที่คาดว่าเป็นเป้าหมายการทำ Window dressing เนื่องจาก Underperform ตลาด ได้แก่ BJC THAI UNIQ STEC BCH

หุ้นแนะนำพิเศษ

TSR  Company visit  ราคาปิด 5.25 บาท   Bloomberg Consensus 6.60 บาท

- ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องกรองน้ำแบรนด์ Safe และเป็นผู้จัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าจากแบรนด์ชั้นนำ (DAIKIN LG SAMSUNG TOSHIBA) ผ่านช่องทาง Direct sales Telesale และโชว์รูมแสดงสินค้า

- ปี 59 มีรายได้จากการขาย 1,608 ล้านบาท +11%YoY (ยอดขายเงินผ่อน 87% ยอดขายเงินสด 9% และผ่านบริษัทขายตรงอื่น 4%) และมีรายได้จากดอกเบี้ย 229 ล้านบาท +39%YoY แต่กำไรสุทธิปรับตัวลง 44%YoY สู่ 81 ล้านบาทเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของหนี้สงสัยจะสูญที่เพิ่มขึ้น 99%YoY สู่ 235 ล้านบาท จากการขายสินค้าที่มีราคาสูงและระยะเวลาการผ่อนชำระนาน

- ปี 60 ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ 2 พันล้านบาท +9%YoY จากการให้เช่าเครื่องกรองน้ำสำหรับร้านค้าหรือสำนักงาน การขยายธุรกิจขายเครื่องกรองน้ำไปยังประเทศลาว และการดำเนินธุรกิจจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์และสินเชื่อส่วนบุคคล นอกจากนี้ผู้บริหารได้ปรับรูปแบบการขายสินค้าราคาสูงให้มีระยะเวลาผ่อนชำระสั้นลงเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดหนี้สงสัยจะสูญ 


หุ้นมีข่าว

- ประเด็นบวก PTTEP (ราคาปิด 93 ถือ ราคาเหมาะสม 97) โชว์ศักยภาพการลงทุน กอดเงินสดในมือ 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลุยศึกษาซื้อกิจการเพิ่ม เน้นพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ย้ำรักษาระดับการจำหน่ายปิโตรเลียมที่ 312,000 บาร์เรลต่อวัน (ที่มาทันหุ้น)

  ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อการเข้าซื้อกิจการของ PTTEP เนื่องจากในปัจจุบันราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับต่ำทำให้ได้ราคาเหมาะสม นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มกำลังการผลิตของบริษัทที่มีแนวโน้มลดลงในปี 2020 จากการผลิตของแหล่งบงกชที่ลดลง

- ประเด็นบวก “PTT-PTTEP” เฮ! รับข่าวดี หลัง “สนช.” ยอมถอยลงมติถอนมาตรา 10/1 จัดตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ (NOC) ออก แต่ยังบันทึกไว้เป็นข้อสังเกตในรายงานการประชุม (ที่มาข่าวหุ้น)

- BPP (ราคาปิด 25.00 Bloomberg Consensus 27.00) ลงทุน 100% พัฒนาโซลาร์ฟาร์มในจีนเพิ่มอีก 1 โครงการ ขนาด 10 MW มูลค่า 60 ล้านหยวน,คาด COD Q3/60

- CBG (ราคาปิด 62.75 บาท ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 61.38 บาท) ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 20-25% กำไรดีกว่าปีก่อนตามยอดขายในประเทศที่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ไม่ต่ำกว่า 2 รายการ และการเพิ่มศูนย์กระจายสินค้าครบ 31 แห่ง รวมทั้งมีแผนรุกขยายตลาดระดับโลก (ที่มาอินโฟเควสท์)

- AU (ราคาปิด 9.60 บาท ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 14.20) ศึกษาตั้งสาขาตปท.ชัดเจนปี 61 วางแผนปีนี้เพิ่มรายได้ OEM เป็นไม่ต่ำกว่า 5% และ 20% ภายในปี 61 จากปี 59 ที่ราว 5% ดันอัตรากำไรสุทธิสูงขึ้น (ที่มาอินโฟเควสท์)

- TPIPL (ราคาปิด 2.54 บาท ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 3.15) ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท อนุมัติเปลี่ยนนโยบายการบัญชี สำหรับการตีราคาที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ จากวิธีการตีราคาใหม่เป็นวิธีราคาทุน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.60 การเปลี่ยนนโยบายการบัญชีดังกล่าว จะส่งผลให้ส่วนของผู้ถือหุ้น (องค์ประกอบการอื่นของส่วนของผู้ถือหุ้น) ลดลงจำนวน 1.83 หมื่นล้านบาท (ประกอบด้วยสินทรัพย์ลดลงในส่วนของบัญชีที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ จำนวน 2.29 หมื่นล้านบาท ในขณะที่ด้านหนี้สินลดลงในส่วนของบัญชีหนี้สินภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีจำนวน 4.58 พันล้านบาท) ภายหลังการเปลี่ยนนโยบายการบัญชีดังกล่าว บริษัทจะไม่มีภาระในการรับรู้ค่าเสื่อมราคาของส่วนเกินทุนจากการตีราคาสินทรัพย์เป็นค่าใช้จ่ายในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จของบริษัท จำนวนประมาณ 1.3 พันล้านบาท/ปีอีกต่อไป

- ประเด็นบวกทีวีดิจิตอล - กสทช. เผยมีผู้ประกอบการขอขยายระยะเวลาจ่ายค่าไลเซ่นส์ทีวีดิจิตอล ตาม ม.44 แล้ว 11 ช่อง

- ECF ขยายระยะเวลาเงินให้กู้ยืมระยะสั้นวงเงิน 50 ลบ.แก่ IFEC เป็น 150 วันจากเดิม 90 วัน

- J เตรียมเพิ่มทุน 148.16 ล้านหุ้นเสนอขายผถห.เดิม-PP พร้อมออกหุ้นกู้ 1 พันลบ.

- WHAUP เคาะราคาขาย IPO หุ้นละ 26.25 บาท พร้อมเข้าเทรด SET วันที่ 10 เม.ย.60

- EIC ยกเลิกวาระเพิ่มทุน ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นวันที่ 28 เม.ย. รอการเปิดเผยสารสนเทศซื้อหุ้น "ส.ธนา มีเดีย" จำนวน 49,998 หุ้น มูลค่า 372 ล้านบาท

- ก.ล.ต.จี้ IFEC จัดประชุมบอร์ดใหม่ เพื่อกำหนด record date ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ชี้ประชุมบอร์ด 2 ครั้งที่ผ่านมาขัดพ.ร.บ.หลักทรัพย์-ไม่มีผลทางกฎหมาย ส่วนตลท.สั่งให้ชี้แจงเปลี่ยนวันประชุมผู้ถือหุ้นเป็น 28 เม.ย.60 ภายในวันนี้ (31 มี.ค.)


ตลาดหุ้นดาวโจนส์ +69.17 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,728.49 จุด เพิ่มขึ้น 69.17 จุด หรือ +0.33% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,368.06 จุด เพิ่มขึ้น 6.93 จุด หรือ +0.29% และดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,914.34 จุด เพิ่มขึ้น 16.80 จุด หรือ +0.28% ขานรับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2559 ที่ขยายตัวได้ดีกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยข้อมูลดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์

ตลาดน้ำมัน NYMEX +0.84 USD/Barrel

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 84 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 50.35 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยสัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์ หลังจากมีรายงานว่า ประเทศผู้ผลิตน้ำมันหลายประเทศ ซึ่งรวมถึงคูเวต ได้ออกมาสนับสนุนให้มีการขยายการลดกำลังการผลิต

  ประเด็นบวกหุ้นกลุ่มธนาคาร - ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองสินเชื่อรวมปีนี้ส่อแววคึกคัก มั่นใจสิ้นปีเห็นยอดปล่อยกู้ในระบบโตสูงถึง 4% โดยเฉพาะครึ่งปีหลังโดดเด่นสุด ทั้งนี้ ได้อานิสงส์จากสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อบ้านที่กลับมามีบทบาทมากขึ้น สำหรับแนวโน้ม %NPLของระบบธนาคารพาณิชย์ยังแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะทำระดับสูงสุดไตรมาส 3/60 และไตรมาส 4/60 จะค่อยๆลดลงตามการบริหารจัดการของธนคารพาณิชย์ต่างๆ รวมไปถึงการตัดจำหน่ายหนี้สูญออกไปที่จะช่วยลด NPL ให้น้อยลง โดยในช่วงปลายปีนี้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงประมาณการ NPL ไว้ที่ 2.9% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 2.83%

  ความเห็น   การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 60 และการเร่งเปิดประมูลโครงการลงทุนภาครัฐที่คาดจะได้เห็นมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะช่วยหนุนการเติบโตของสินเชื่อ ณ ปลายปี แม้ว่าในช่วง 2 เดือนแรกของปี 60 ยอดสินเชื่อสุทธิรวมทั้งระบบยังหดตัว 0.3%YTD แต่ปรับดีขึ้นจากที่หดตัว 0.7%YTD ในเดือนม.ค. แบงก์ที่มีสินเชื่อเติบโตสูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ KKP (+1.8%YTD) TMB (1.4%YTD) KBANK (+1%YTD) ขณะที่แนวโน้ม NPL ที่สูงขึ้นนั้นเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจชะลอในช่วงที่ผ่านมา ฝ่ายวิจัยให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารเป็น “Neutral” เลือกหุ้นธนาคารขนาดใหญ่ เป็นหุ้น Top Pick ได้แก่ KTB (ราคาปิด 20.30 บาท ถือ ราคาเหมาะสม 21.60 บาท) , SCB (ราคาปิด 163 บาท ซื้อ ราคาเหมาะสม 174 บาท) , KBANK (ราคาปิด 191 บาท ซื้อ ราคาเหมาะสม 215 บาท) และ BBL (ราคาปิด 181.50 บาท ถือ ราคาเหมาะสม 192 บาท)