ขายทำกำไรหุ้นหลัก

ขายทำกำไรหุ้นหลัก

สรุปสภาวะตลาดสหรัฐฯ และยุโรป ( 22 มี.ค. 2560 – 29 มี.ค. 2560)

สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลง DJIA -0.01% เนื่องจากเกิดความเสี่ยงในการดำเนินนโยบายล่าช้าของทรัมป์ ตลาดหุ้นยุโรป FTSE100 +0.67%, DAX 2.51% และ CAC ฝรั่งเศส +1.47% ตอบรับเชิงบวกเมื่อ Theresa May นายกอังกฤษ ได้ลงนามในสนธิสัญญานำอังกฤษออกจาก EU อย่างเป็นทางการแล้ว

สรุปสภาวะตลาดหุ้นจีน ( 22 มี.ค. 2560 – 29 มี.ค. 2560)

ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลง -0.12% เนื่องจากความกังวลด้านการเข้มงวดนโยบายทางการเงินของจีนหลังระดับอัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา ( 22 มี.ค. 2560 – 29 มี.ค. 2560)

SET INDEX ปรับตัวขึ้นนำโดยกลุ่มหุ้นกลุ่ม BIG CAP อาทิเช่น CPALL AOT PTT ตามทิศทางบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียเป็นบวกต่อเนื่องหลังการประชุม ปิด ณ ที่ระดับ 1,566.66 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 25.86 จุด +1.68%

สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (31 มี.ค. – 6 เม.ย.)

เราปรับมุมมองต่อการลงทุนตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าลงเป็น “กลาง” ครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์ จากก่อนหน้า “กลางถึงบวก” แม้ว่ามูลค่าการซื้อขายต่อวันจะกลับมาดีขึ้นเฉลี่ย 4.0-4.5 หมื่นล้านบาท/วันก็ตาม แต่เนื่องด้วยเป็นช่วงคาบเกี่ยววันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทยในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า ทำให้นักลงทุนอาจชะลอกิจกรรมการลงทุน หลังหุ้น IPO ทยอยเข้าซื้อขายตลอด 3-4 สัปดาห์ข้างหน้า อีกทั้งหมดช่วง Window Dressing และกลับสู่โหมดของการเก็งกำไรต่อผลการดำเนินงานใน 1Q60 นำโดยกลุ่มธนาคารที่จะเป็นกลุ่มแรกที่จะรายงานงบ เราประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX ระหว่าง 1,570-1,590 จุด

ปัจจัยเด่นในสัปดาห์หน้าคือ หุ้น TPIPP เริ่มเข้าซื้อขายวันที่ 5 เม.ย. ด้วยวงเงินการระดมทุนรอบนี้ 1.5 หมื่นล้านบาท และการทยอยประมาณการงบการเงิน 1Q60 ของกลุ่มธนาคาร ก่อนที่ประกาศผลจริงในช่วงวันที่ 17-20 เม.ย.

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ ให้นักลงทุนเริ่มพิจารณาขายทำกำไรหุ้นหลักที่แนะนำทยอยสะสมมาตลอด 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา บริเวณ 1,580-1,590 จุด ทั้งหากราคาหุ้นเป้าหมายเกิดย่อตัวระหว่างสัปดาห์ก็อาจเป็นจังหวะของการเข้าเก็งกำไรเช่นกัน โดยกลับมาเน้นหุ้นที่คาดว่าผลการดำเนินงานใน 1Q60 จะเติบโตเด่น เช่นกลุ่มธนาคาร, กลุ่มน้ำมัน, กลุ่มถ่านหิน, กลุ่มสินค้าเกษตร เป็นต้น

ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์หน้า

1. ติดตามรายงานการประชุมเฟดที่ประชุมวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา จะเปิดเผยฉบับเต็มวันที่ 5 เม.ย.

2. ช่วงคาบเกี่ยววันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทยในวันที่ 7 เม.ย.

3. ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจเดือนก.พ.ของไทย ธปท.รายงานในวันที่ 31 มี.ค. โดยให้น้ำหนักกับการบริโภคภายในประเทศฟื้นตัวดีขึ้นหรือไม่

4. ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ ที่สำคัญ ได้แก่ ภาวะการจ้างงานของสหรัฐฯ / ดัชนี PMI ภาคการผลิต – บริการ ของญี่ปุ่น – อียู – สหรัฐฯ – จีน