ศึกชิงลูก! เมียน้องชาย 'ไฮโซตั๋ม' แจ้งความสามีพรากลูก

ศึกชิงลูก! เมียน้องชาย 'ไฮโซตั๋ม' แจ้งความสามีพรากลูก

ศึกชิงลูก! เมียน้องชาย "ไฮโซตั๋ม" แจ้งความสามีพรากลูก เผยพาตำรวจมาเจรจาแต่ถูกเมิน

น.ส.มัลลิกา เรียนรู้ อายุ 28 ปี ภรรยา นายสุวิชชา ลีนุตพงษ์ อายุ 38 ปี น้องชายของ น.ส.วิชชุดา ลีนุตพงษ์ หรือ “ไฮโซตั๋ม” พร้อมนายธีรธร มรกตจินดา ทนายความ เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.อู่ธนา สุระดะนัย รอง สว.(สอบสวน) สน.ปทุมวัน เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมกรณี เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ที่ผ่านมา น.ส.มัลลิกา ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายสุวิชชา ในข้อหา พรากผู้เยาว์อายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากการปกครองของมารดา หลังจากพา ด.ญ.ตฤณ เรียนรู้ อายุ 4 ขวบ บุตรสาวไปจากโรงเรียนรีเจนท์ อินเตอร์เนชั่นแนล ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม ยังไม่ยอมส่งคืนให้น.ส.มัลลิกา กลับไปดูแล

น.ส.มัลลิกา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ที่ผ่านมา นายสุวิชชา ผู้เป็นสามี มารับน้องตฤณ ไปจากโรงเรียนเมื่อช่วงเวลา 16.00 น.ของวันดังกล่าว พร้อมบอกตนว่า จะพาไปกินข้าว ตนจึงบอกว่า จะไปรอรับลูกกลับที่ห้างเซ็นทรัล อีสต์วิลล์ ในเวลา 19.30 น. แต่เมื่อถึงเวลานัดหมาย นายสุวิชชา กลับไม่พาลูกสาวมาส่งคืน ตนไม่สามารถติดต่อได้ โดยสามีส่งข้อความมาแค่ว่า “ไม่ต้องมารับลูกแล้วนะครับ” พร้อมทั้งส่งเอกสารยื่นร้องศาลขอเป็นผู้ปกครองลูกสาวมาให้ตนดูด้วย ตนจึงมั่นใจว่าสามีต้องพาลูกมาอยู่ที่บ้านพักเลขที่ 929/7 ซอยเกษมสันต์ 2 ถนนพระรามที่ 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน แน่นอน

น.ส.มัลลิกา กล่าวอีกว่า ต่อมาวันเสาร์ที่ 25 มีนาคม ตนได้ส่งข้อความไปบอกสามีว่า จะไปรับลูกในเวลา 10.00 น.ของวันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม แต่เมื่อไปถึง รปภ.กลับไม่ยอมให้ตนเข้าบ้าน บอกแต่ว่า แม่สามีสั่งไว้เท่านี้ ตนจึงเดินทางมาแจ้งความไว้กับ ร.ต.ท.พงศ์พิฑูร พาศรี รอง สว.(สอบสวน) สน.ปทุมวัน ให้ดำเนินคดีกับสามีในข้อหาพรากผู้เยาว์อายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากการปกครองของมารดา ก่อนเดินทางเข้ามาให้ปากเพิ่มเติมในวันนี้(30 มี.ค.)

ต่อมาเวลา 13.30 น.วันเดียวกัน น.ส.มัลลิกา พร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.ปทุมวัน ได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 929/7 ซอยเกษมสันต์ 2 ถนนพระรามที่ 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม. เพื่อขอเจรจารับลูกสาวกลับบ้าน แต่ปรากฏว่า ไม่มีใครในบ้านเดินออกมาเจรจาแม้แต่คนเดียว
น.ส.มัลลิกา กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรแล้ว มาเจรจาก็ไม่ให้เข้าบ้าน วันนี้พาตำรวจมาอีกก็ไม่มีใครออกมาเจรจาเลย ตนไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรแล้ว หัวอกคนเป็นแม่ ไม่ได้เจอหน้าลูกตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค. ไม่ได้ไปเรียนหนังสือตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา ก่อนจะเดินทางกลับ

ด้านนายธีรธร มรกตจินดา ทนายความ กล่าวว่าวันนี้ น.ส.มัลลิกา มาให้ปากคำเพิ่มเติมและติดตามความคืบหน้าของคดี หลังจากแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 26 มีนาคม โดย น.ส.มัลลิกา ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับสามี ทั้งนามสกุลและสิทธิ์การปกครองบุตรจึงเป็นของ น.ส.มัลลิกา อย่างถูกต้อง ซึ่งตั้งแต่น้องตฤณ เกิด ทั้งสามีและน.ส.มัลลิกา ก็ช่วยกันดูแลเลี้ยงดูมาตลอดที่บ้านหลังดังกล่าว กระทั่งเมื่อเดือน พ.ย.59 ทั้งคู่จึงแยกทางกันอยู่ น.ส.มัลลิกา จึงนำลูกสาวออกมา โดยตกลงทางวาจาว่าจะให้สามีรับลูกไปดูแล 3 วัน คือ วันพฤหัสบดี วันศุกร์ และวันเสาร์ แต่ฝ่ายสามีกลับพาน้องตฤณ ไปจากโรงเรียนแล้วไม่ให้พบหน้า น.ส.มัลลิกา อีกเลย อย่างไรก็ตาม ทราบว่าทางพนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกนายสุวิชชา พร้อมทั้งให้สายตรวจ สน.ปทุมวัน มาที่บ้านหลังดังกล่าว แต่ก็ไม่มีใครออกมาเจรจา