อียูไม่ถกสัมพันธ์ในอนาคตกับอังกฤษควบเบร็กซิต

อียูไม่ถกสัมพันธ์ในอนาคตกับอังกฤษควบเบร็กซิต

นางแองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี แสดงจุดยืนชัดเจน ไม่เจรจาความสัมพันธ์ในอนาคตระหว่างสหภาพยุโรปกับสหราชอาณาจักร จนกว่าการเจรจาเงื่อนไขรายละเอียดต่างๆของเบร็กซิตจะได้บทสรุป

ผู้นำเยอรมนี ซึ่งให้สัมภาษณ์หลังจากนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศใช้มาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอน ได้ไม่กี่ชั่วโมง ระบุว่า เยอรมนีจะทำงานหนักเพื่อสร้างหลักประกันว่าจะมีความวุ่นวายน้อยที่สุด ในระหว่างที่ประชาชนค่อยๆทำตัวให้คุ้นชินกับการใช้ชีวิต การทำงานและการเดินทางอย่างราบรื่นระหว่างอียูกับสหราชอาณาจักร

นางแมร์เคิล ยังให้สัญญาว่าจะใช้แนวทางที่ยุติธรรมและสร้างสรรค์ในการเจรจาเบร็กซิต แต่ยอมรับว่า การแยกตัวเป็นเรื่องยุ่งยากซับซ้อน เนื่องจากสหราชอาณาจักร เป็นสมาชิกอียูมานานกว่า 40ปี  

“สหราชอาณาจักรและอียู ซึ่งรวมถึงเยอรมนีมีความใกล้ชิดกันในฐานะสมาชิกมานานหลายสิบปี แต่ในการเจรจากันนั้น ความสัมพันธ์อันใกล้ชิดนี้สามารถคลายลงได้ และยุโรปต้องต่อรองเกี่ยวกับสิทธิและภาระผูกพันมากมายที่เกี่ยวข้องกับความเป็นสมาชิกภาพ จากนั้นจึงจะสามารถพูดถึงมิตรภาพในอนาคตระหว่างกันได้”นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ในยุโรปและสหราชอาณาจักร ยอมรับว่าเส้นตาย 2 ปีของการเจรจาต่อรองเบร็กซิตถือว่ากระชั้นมาก

เนื้อหาในจดหมายความยาว 6 หน้าที่แสดงเจตนารมณ์ในการถอนตัวจากอียูภายใต้มาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอน ที่ส่งถึงนายโดนัลด์ ทัสค์ ประธานคณะมนตรียุโรป อย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธที่ผ่านมา นางเมย์ ระบุว่า รัฐบาลของเธอ เชื่อว่ามีความจำเป็นที่ต้องเจรจาเงื่อนไขความเป็นหุ้นส่วนในอนาคตระหว่างสหราชอาณาจักรกับอียู ไปพร้อมๆกับการเจรจาถอนตัว