สก็อตแลนด์วิจารณ์อังกฤษลั่นไกมาตรา 50

นางนิโคลา สเตอร์เจียน นายกรัฐมนตรีสก็อตแลนด์ กล่าวถึงการประกาศใช้มาตรา 50 ของอังกฤษว่า เหมือนกับการที่นายกรัฐมนตรีได้ก้าวกระโดดเข้าไปในความมืดมิด หลังจากที่นายทิม บาร์โรว์ เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำสหภาพยุโรป ได้ยื่นหนังสือแจ้งความจำนงในการใช้มาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอน เพื่อเริ่มกระบวนการแยกตัวจากสหภาพยุโรป (เบร็กซิท) ต่อนายโดนัลด์ ทัสค์ ประธานคณะมนตรียุโรป ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม หลังจากที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้ลงนามในหนังสือดังกล่าวเมื่อวานนี้

นางเมย์ กล่าวกับคณะรัฐมนตรีว่า การเดินหน้าครั้งนี้ ถือเป็นช่วงเวลาของการร่วมมือกันของประเทศ แต่นางสเตอร์เจียน กลับมองว่า นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยังไม่สามารถตอบคำถามพื้นฐานเกี่ยวกับความหมายที่แท้จริงของเบร็กซิทได้

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีสก็อตแลนด์ ยังกล่าวด้วยว่า การใช้มาตรา 50 อย่างเป็นทางการจะนำมาซึ่งความกังวลของผู้คนจำนวนมาก และหวังว่ากระบวนการเบร็กซิท จะดำเนินไปด้วยดี

ขณะที่ประธานาธิบดีมาร์เซโล เรเบโล เดอ ซูซา ของโปรตุเกส ออกแถลงการณ์ แสดงจุดยืนของโปรตุเกส ที่มีต่ออังกฤษ หลังจากที่นางเมย์ ประกาศมาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอน เพื่อเริ่มกระบวนการแยกตัวจากสหภาพยุโรป (เบร็กซิท) และหลังจากนายทิม บาร์โรว์ เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำสหภาพยุโรป ได้ยื่นหนังสือแจ้งความจำนงดังกล่าวต่อนายโดนัลด์ ทัสค์ ประธานคณะมนตรียุโรป ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม

ผู้นำโปรตุเกส ระบุว่า อังกฤษจะยังคงเป็นเสาหลักแห่งสันติภาพและความมั่นคงในทวีป รวมทั้งแบบอ้างอิงด้านวัฒนธรรมของยุโรป และโปรตุเกส จะยังคงมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่กับสหภาพยุโรป และมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าให้กับกลุ่ม เพื่อที่จะทำให้กลุ่มเป็นรูปแบบสำหรับสังคมบนพื้นฐานของสันติภาพ ความก้าวหน้า และความเป็นอยู่ที่ดี