ไม่ธรรมดา!! เปิดประวัติแท็กซี่ขี้โมโห

ไม่ธรรมดา!! เปิดประวัติแท็กซี่ขี้โมโห

ไม่ธรรมดา!! เปิดประวัติแท็กซี่ขี้โมโหไล่ผู้โดยสารลงจากรถ พบเคยก่อเหตุใช้มีดขู่ผู้โดยสารมาแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการที่มีผู้ได้เผยแพร่คลิปแท็กซี่หญิงไล่ผู้โดยสารลงจากรถ ล่าสุดกรมการขนส่งทางบกแจ้งว่า ได้ตรวจสอบและทราบสังกัดของแท็กซี่คันนี้แล้ว และยังส่งเจ้าหน้าที่ไปยังบ้านของคนขับแท็กซี่หญิงคนนี้ ย่านสมุทรปราการ แต่ยังไม่พบตัว

ส่วนการตรวจสอบเจ้าของรถดังกล่าว พบว่าเจ้าของรถอยู่ที่เชียงใหม่ และให้หญิงคนดังกล่าวเช่าขับต่อ สำหรับผู้ขับรถคันดังกล่าวกรมขนส่งฯเปิดเผยว่าคือนางผุสดี อัญชัญภาติ ได้รับอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ เลขที่ 55000185 สิ้นอายุไปแล้วเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2558 จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นางผุสดี มีพฤติกรรม การกระทำผิดในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง และ ขบ.ได้มีหนังสือลงวันที่ 24 มีนาคม 2560 แจ้งเวียนไปยังสหกรณ์แท็กซี่ เจ้าของรถ ให้ระงับไม่ให้นางผุสดี ฯ เช่าขับรถแท็กซี่ ด้วยแล้ว

วันนี้กรมขนส่งทางบกได้ดำเนินการพิจารณาลงโทษทั้งสหกรณ์สหมิตรแท็กซี่ จำกัดและนางผุสดีฯ ผู้ขับรถ ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 ดังนี้

1.สหกรณ์สหมิตรแท็กซี่ จำกัด ยินยอมให้นางผุสดี ฯ เช่าขับ เป็นความผิดฐานไม่กำกับดูแลตรวจสอบผู้ขับรถให้เป็นไปตามกฎกระทรวงว่าด้วยความปลอดภัยในการรับจ้างบรรทุกคนโดยสาร จึงได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับ ตามมาตรา 5(15/1) ประกอบมาตรา 58/1 ในอัตราสูงสุดเป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท และพิจารณาเพิกถอนทะเบียนรถแท็กซี่ คันหมายเลข ทร- 2195 กรุงเทพมหานคร ดังกล่าว พร้อมทั้งระงับการให้เพิ่มรถเป็นเวลา 6 เดือน

2. นางผุสดี ฯ ผู้ขับรถ กระทำความผิด ดังนี้

-ฝ่าฝืนข้อกำหนดว่าด้วยความปลอดภัยในการรับจ้างบรรทุกคนโดยสารโดยใช้โทรศัพท์ขณะขับรถและขับรถในลักษณะประมาทหวาดเสียว (มาตรา 5(15/1) ประกอบมาตรา 58/1 ปรับไม่เกิน 5,000.-บาท

-กระทำการให้ผู้โดยสารลงจากรถก่อนถึงจุดหมายปลายทางที่ตกลง (มาตรา 57 เบญจ วรรค 1 ประกอบมาตรา 66/2 ปรับไม่เกิน 1,000.- บาท

-แสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ (มาตรา 57 ฉ) ประกอบมาตรา 66/2 ปรับไม่เกิน 1,000.-บาท

-ขับรถในขณะใบอนุญาตสิ้นอายุ (มาตรา 65) ปรับไม่เกิน 2,000.-บาท

ทั้งนี้ได้ดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะของนางผุสดี ฯ ผู้ขับรถด้วยแล้ว

อย่างไรก็ตามเมื่อตรวจสอบก็พบว่าเมื่อวันที่ 13 เม.ย. ปี 2556 น.ส.ผุสดี เคยก่อเหตุ ขับรถอ้อมแล้วข่มขู่ผู้โดยสารด้วยมีดมาแล้ว โดยในครั้งนั้นผู้โดยสารระบุว่า ได้เรียกรถแท็กซี่เพื่อไปถนนข้าวสารและได้ตกลงเส้นทางกับคนขับรถ แต่พาอ้อมและวกไปวนมา เมื่อทักท้วงกลับถูกด่า จึงได้จ่ายค่ารถไป 160 บาท แต่ขณะลงจากรถ คนขับได้ใช้อาวุธมีดมาจี้พร้อมข่มขู่ว่า เคยฆ่าลูกนายพลมาแล้ว ซึ่งต่อมา นางผุสดี ยอมรับว่า ได้ใช้อารมณ์กับผู้โดยสารจริง เนื่องจากไม่พอใจที่ผู้โดยสารได้ทักท้วงถึงเส้นทาง ทั้งที่ได้ตกลงว่าจะอ้อมไปเนื่องจากรถติด และสาเหตุที่ข่มขู่ เนื่องจากเกรงว่าผู้โดยสารจะไม่จ่ายค่ารถ ส่วนมีดนั้นได้พกติดตัวไว้บนรถเป็นประจำอยู่แล้วเพื่อป้องกันตัว

โดยครั้งนั้น พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา กระทำการข่มขู่ผู้อื่นให้เกิดความกลัวโดยใช้อาวุธมีด พร้อมปรับ 1,000 บาท ก่อนปล่อยตัว นางผุสดี ไป