‘เจนเนอรัล’ เพิ่มพอร์ตงานภาครัฐ

‘เจนเนอรัล’ เพิ่มพอร์ตงานภาครัฐ

เจนเนอรัล "เพิ่มพอร์ต" งานภาครัฐ หวังสัดส่วนรายได้ขยับเป็น35%ใน3ปี มั่นใจรายได้ปีนี้แตะ 2.1พันล้านตามเป้า

เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง เร่งเพิ่มสัดส่วนงานรัฐ วางเป้าหมายแตะ 35% ใน3ปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 20% เน้นงานรถไฟฟ้าทางคู่เกาะกระแสรัฐบาลเร่งผลักดันโครงการ แต่ยอมรับว่าความเสี่ยงเรื่องโครงการล่าช้า พร้อมยันเป้ารายได้ปีนี้ 2.1 พันล้าน  

นายธิติพงศ์ ตั้งพูนผลวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) GEL เปิดเผยว่า บริษัทจะกระจายสัดส่วนรายได้ไปพึ่งพิงงานภาครัฐเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 35% ใน 3 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่มีสัดส่วน 20 % เพราะเป็นโครงการที่มีความแน่นอนในการชำระเงิน รวมถึงอนาคตจะมีงานภาครัฐออกมาอีกมาก

“บริษัทจะหันไปรับงานโครงการภาครัฐบาลมากขึ้น โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนรถไฟฟ้าทางคู่ ที่ใช้งานด้านเสาเข็มค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ามีความเสี่ยงในเรื่องความล่าช้าของโครงการ และงานโครงการภาครัฐมีมาร์จินไม่สูง และเวลาการรับรู้รายได้ของบริษัทอาจจะยาวนานมากขึ้น แต่เชื่อว่าเป็นตลาดที่น่าสนใจ มีการลงทุนที่แน่นอน”

ปี2560 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ที่ 2,100 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,685.22 ล้านบาท โดยจะมาจากงานในมือที่รอรับรู้รายได้ที่มีอยู่ขณะนี้ 1,500 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะรับรู้รายได้ภายในปีนี้ นอกจากนี้บริษัทจะหางานเพิ่มเติมในปีนี้อีกอย่างน้อย 1,000 ล้านบาท 

สำหรับยอดขายปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายที่ 3,000 ล้านบาท โดยงานที่บริษัทมุ่งเน้นคืองานในภาครัฐบาล รวมถึงงานโครงการภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น 

เขากล่าวว่า บริษัทมีแผนจะกระจายความเสี่ยงของรายได้ จากเดิมที่พึ่งพิงรายได้จากงานเสาเข็มเป็นหลัก โดยในปี 2559 บริษัทมีรายได้จากงานเสาเข็มอยู่ที่ 47% และงานอื่นๆ 53 % ทั้งนี้ เป้าหมายสัดส่วนรายได้ใน 3 ปีข้างหน้า บริษัทคาดหวังรายได้จากงานเสาเข็ม 40% งานผนังสำเร็จรูป 40% และงานอื่นๆ 20% 

ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 20% จากปีก่อนที่ระดับ 17% และอัตรากำไรสุทธิน่าจะอยู่ที่ 7-10% จากปีก่อนที่ 4.99% จากการบริหารต้นทุนโดยจากการเปิดใช้โรงงานผลิตลวดแรงดึงสูงกำลังการผลิตรวม 4 หมื่นตันต่อปี เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิตคอนกรีตอัดแรงแบบเส้นเดียว (PC Wire) และลวดแรงดึงสูงสำหรับคอนกรีตอัดแรงแบบตีเกลียว(PC Strands) และลวดแรงดึงสูงชนิดดึงเย็น(CW) และนำไปใช้ผลิตสินค้าสำเร็จรูปอื่นๆ เช่น เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง และผลิตภัณฑ์พื้นต่างๆ เพื่อลดต้นทุนในการผลิตลง