ผบช.น.เผยสอบปากคำเสี่ยแขกปมดักตีกรรมการมวยแล้ว

ผบช.น.เผยสอบปากคำเสี่ยแขกปมดักตีกรรมการมวยแล้ว

ผบช.น.ระบุ คดียิง รปภ.สนามมวย และดักตีกรรมการมวย ได้หลักฐานมากพอสมควร เผยสอบเสี่ยแขกแล้ว แต่อาจมีบางประเด็นต้องเรียกตัวมาสอบเพิ่มเติมอีก

พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้าคดี 2 คนร้ายใช้ท่อนไม้ทุบนายอุดม ดีกระจ่าง อายุ 59 ปี ประธานกรรมการเทคนิคหรือกรรมการตัดสินมวย และใช้อาวุธปืนจ่อยิงนายอนุชา ประทุมมา อายุ 50 ปี รปภ.เข้ามาห้ามจนเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณด้านหน้าสนามมวยลุมพินี รามอินทรา ว่า ในวันนี้จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาพยานหลักฐานเพื่อไปเสนอศาลขอออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเพิ่มเติม โดยจะเป็นการออกหมายจับโดยใช้การระบุชื่อจริง แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ว่าเป็นหมายจับของใคร เพราะเกรงว่าจะกระทบกับรูปคดี ขณะเดียวกันได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเร่งติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสอง ซึ่งไม่ขอยืนยันว่ายังกบดานอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ หรือไม่ โดยจะพยายามระบุชื่อให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะได้ ขณะนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนจัดทีมไล่ล่าแล้ว

ส่วนในทางการสืบสวนก็ยังต้องรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อหาข้อสรุปปมเหตุการณ์ลงมือทำร้ายร่างกาย นายอุดมว่า เกิดจากการว่าจ้างให้มาทำร้ายร่างกาย หรือเกิดจากความไม่พอใจของตัวผู้ก่อเหตุเอง ส่วนข้อสันนิษฐานถึงปมเหตุลงมือทำร้ายร่างกาย จากการสอบปากคำพยานหลายปาก ยังไม่พบว่า นายอุดม มีความขัดแย้งที่มาจากความประพฤติส่วนตัวกับใคร หรือไปทำให้ผู้อื่นผู้ใดเจ็บแค้น คงเหลือประเด็นที่เกี่ยวกับหน้าที่การงานในฐานะประธานกรรมการฝ่ายเทคนิค ที่อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบ

"นอกจากนี้ยังให้ฝ่ายสืบสวนพิสูจน์ข้อสันนิษฐานความเป็นไปได้อื่นๆ เช่น เรื่องการประกอบอาชีพค้าขายที่หน้าสนามมวย หรือแม้แต่กรณีของผู้เสียชีวิต ว่ามีความแค้นกับใครหรือไม่ รวมถึงการสอบปากคำพยานที่เป็นญาติ หรือคนใกล้ชิด ซึ่งต้องทำเพื่อความรอบคอบแม้ว่าจะยังไม่มีประเด็นข้อบ่งชี้ในเรื่องนี้ก็ตาม โดยจะต้องทำการตรวจสอบทุกประเด็น ต้องทำให้ทุกด้านแล้วมาตัดออก ส่วนคดีดังกล่าวมีเรื่องเกี่ยวกับผู้มีอิทธิพลหรือคนมีสีหรือไม่ยืนยันว่าไม่มีใครเข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด ผู้ใหญ่รัฐบาล และตนเอง พยายามทำความเข้าใจว่าผู้มีอิทธิพลมันมีไม่ได้ หากนิยามว่าผู้มีอิทธิพลคือผู้กระทำผิดกฎหมาย ตำรวจเป็นผู้รักษากฎหมาย จะต้องใช้กฎหมายด้วยความยุติธรรม" ผบช.น. กล่าว

ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าคดีนี้จะทำงานด้วยความรอบคอบ ต้องมีหลักฐานเชิงประจักษ์ พิสูจน์ข้อเท็จจริงต่อสังคมได้ ไม่นำแกะแพะมาดำเนินคดี พร้อมยืนยันว่าคดีนี้หาเปรียบเป็นขั้นบันได 20 คัน ขณะนี้อยู่ที่ขั้นที่ 16 ซึ่งใกล้จะได้ข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว ทุกคดีอย่าไปมองว่าเขาเป็นใคร มองเขาเป็นผู้เสียหาย มองเขาว่าเป็นเหยื่อ มองเขาว่าเป็นผู้กระทำความผิดหรือเปล่า ถ้าไม่ได้กระทำความผิด ไม่ต้องกังวลใจ

เมื่อถามถึงการสอบปากคำเสี่ยแขกนั้น พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (27มี.ค.) ทางพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ได้ทำการสอบปากคำไปแล้ว ซึ่งจากการสอบปากคำอาจจะต้องมีการเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติมในบางประเด็น ในส่วนประเด็นที่มีเรื่องเกี่ยวกับหน้าที่การงานระบุออกมาในใบปลิวนั้น เสียแขกได้ให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้มีพฤติการณ์เช่นนั้น และคงให้ร้องทุกข์กล่าวโทษหากไม่เป็นความจริง กรณีใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สามโดยประการที่จะทำให้ผู้นั้นเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชังในความผิดฐานหมิ่นประมาท ซึ่งหากไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทางเสี่ยแขกควรที่จะแจ้งความเอาผิด เพราะทำให้เสียชื่อเสียง