คุรุสภา-สกสค.แจงชัดไม่มีส่วนร่วมล่า5หมื่นรายชื่อ ไล่หมอธี

คุรุสภา-สกสค.แจงชัดไม่มีส่วนร่วมล่า5หมื่นรายชื่อ ไล่หมอธี

คุรุสภา-สกสค.แจงชัดไม่มีส่วนร่วมล่า 5 หมื่นรายชื่อไล่ “หมอธี” พ้นเก้าอี้รมว.ศึกษาธิการ จากมติก.ค.ศ.เปิดช่องไร้ตั๋วสอบบรรจุครูได้

ตามที่ปรากฎเป็นข่าวว่ามีการรวมตัวกันกลุ่มครู นักวิชาการ และคณาจารย์ จากคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ทั่วประเทศ ในการล่ารายชื่อจำนวน 50,000 รายชื่อ เสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อปลด นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ พ้นจากตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการ เนื่องจากมีมติคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดให้ผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู สามารถสมัครแข่งขันเพื่อสอบบรรจุเข้ารับราชการครูและบุคลารกทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วยได้นั้น โดยระบุว่าคุรุสภาและสกสค.ร่วมสนับสนุนการรายชื่อนั้น

ดร.สมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า ขอยืนยันว่าคุรุสภาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง กับการเคลื่อนไหวใดๆ และก็ไม่สนับสนุนให้มีการล่าชื่อใดๆ ตามที่มีผู้แอบอ้าง ซึ่งสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) กำลังตรวจสอบว่าใครเป็นผู้นำชื่อองค์กรไปแอบอ้าง อย่างไรก็ตาม คุรุสภา เป็นองค์กรที่ดูแลวิชาชีพครู ดำเนินการเรื่องนี้ตามมติคณะกรรมการคุรุสภา ซึ่งตั้งแต่ปี 2549 คุรุสภามีมติให้ออกหนังสืออนุญาตปฏิบัติการสอนโดยไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ให้แก่ผู้ไม่มีใบอนุญาตฯ ได้ เพราะเป็นความจำเป็นของหน่วยงานผู้ใช้ครูเสนอมา และระหว่างที่ใช้หนังสืออนุญาตปฏิบัติการสอนนั้น จะต้องไปอบรมพัฒนาให้ได้มาตรฐานวิชาชีพที่คุรุสภารับรองภายในระยะเวลา 2 ปี แต่ที่ผ่านมากลับไม่ค่อยมีคนพูดถึง ขอย้ำว่าคุรุสภาไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย เป็นหลักเดิมที่คุรุสภาเคยปฏิบัติมา

ดร.พิษณุ ตุลสุข รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค. กล่าวว่า ผู้ให้ข่าวในนาม สกสค.จะต้องเป็นเลขาธิการ สกสค. หรือ คณะกรรมการ สกสค. ไม่ใช่ใครก็ได้ที่เป็นสมาชิก สกสค.แล้วเอาชื่อองค์กรไปกล่าวอ้าง ทำให้สังคมเข้าใจผิด ซึ่งผู้ที่ทำก็ต้องรับผิดชอบด้วย ซึ่งกรณีนี้ สกสค.กำลังสืบข้อเท็จจริงว่าใครเข้าไปเกี่ยวข้อง และรู้ตัวผู้กล่าวอ้างแล้ว ซึ่งเจ้าตัวได้ปฏิเสธพร้อมขอทำบันทึกชี้แจง อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้หากมีใครนำชื่อ สกสค.ไปแอบอ้าง ว่า สกสค.จะทำอย่างนั้น อย่างนี้อีกโดยไม่เป็นความจริง ก็จะฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมาย