วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (27 มี.ค.60)

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (27 มี.ค.60)

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังจากปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากซาอุดิอาระเบียไปยังสหรัฐ ลดลง

+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากรายงานปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของซาอุดิอาระเบียไปยังสหรัฐ ในเดือน มี.ค. ปรับตัวลดลง 300,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับข้อตกลงของกลุ่มโอเปค ที่จะลดปริมาณการส่งออกลง และมีการคาดการณ์ว่าปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากซาอุดิอาระเบียไปยังสหรัฐ จะยังคงอยู่ในระดับเดียวกับเดือน มี.ค. ไปอีก 2-3 เดือนข้างหน้า โดยประเทศซาอุดิอาระเบียถือว่าเป็นประเทศที่ลดกำลังการส่งออกลงมากที่สุดในบรรดากลุ่มโอเปคและนอกกลุ่มโอเปค ที่มีข้อตกลงที่จะลดปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบลงรวม 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน

+ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าการส่งออกน้ำมันดิบจากซาอุดิอาระเบียไปยังสหรัฐ ในปริมาณที่ลดลงจะช่วยให้สถานการณ์ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ที่อยู่ในระดับสูงคลี่คลายลงได้ โดยเฉพาะในช่วงที่โรงกลั่นน้ำมันต่างๆ ในสหรัฐ ทำการปิดซ่อมบำรุง ซึ่งปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ สิ้นสุด ณ วันที่ 17 มี.ค. 60 อยู่ที่ระดับ 533 ล้านบาร์เรล

- อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าการปรับลดปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบลงตามข้อตกลงของสมาชิกกลุ่มโอเปคและนอกกลุ่มโอเปค จะไม่สามารถทำให้สถานการณ์ปริมาณน้ำมันดิบล้นตลาดคลี่คลายลงได้ทันภายใน 30 มิ.ย. ตามข้อตกลง ซึ่งขณะนี้ตลาดกำลังจับตามองการประชุมของสมาชิกกลุ่มโอเปคที่จัดขึ้นระหว่างสุดสัปดาห์ที่ประเทศคูเวต ว่าจะมีการต่อเวลาการลดปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบลงหรือไม่

- Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐ ประจำวันที่ 24 มี.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 21 แท่น ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเวลา 10 สัปดาห์ โดยมีจำนวนแท่นขุดเจาะรวมอยู่ที่ 652 แท่นด้วยกัน


ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณน้ำมันเบนซินในภูมิภาคเอเชียยังคงล้นตลาด ในขณะที่ความต้องการน้ำมันเบนซินยังคงไม่เพิ่มขึ้น

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบเล็กน้อย เนื่องจากปริมาณน้ำมันดีเซลในตลาดมีปริมาณน้อยลง จากการที่โรงกลั่นน้ำมันดิบในเอเซียส่วนใหญ่ทำการปิดซ่อมบำรุง โดยเฉพาะในประเทศจีน


ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

         ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 47-52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

         ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 49-54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

- ติดตามการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปค โดยคาดการณ์ว่าผู้ผลิตในกลุ่มจะปรับลดปริมาณการผลิตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้สูงที่ผู้ผลิตกลุ่มโอเปคจะขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตหลังจากเดือนมิ.ย. 60 หลังนาย Khalid al-Falih รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานซาอุดิอาระเบีย เผยว่า อาจมีการขยายระยะเวลาในการปรับลดกำลังการผลิต หากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังโลกยังอยู่สูงกว่าระดับเฉลี่ย 5 ปี อย่างไรก็ตาม กลุ่มโอเปคจะต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปคด้วยเช่นกัน

- ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ คาดว่าจะกดดันราคาน้ำมันดิบต่อเนื่อง หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ยังอยู่ในระดับสูงสุดในประวัติการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ รายงานโดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 17 มี.ค. 60 ปรับเพิ่มขึ้น 5.0 ล้านบาร์เรล มาสู่ระดับ 533.1 ล้านบาร์เรล เนื่องจากปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบยังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ ที่ปรับเพิ่มขึ้นราว 0.02 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาสู่ระดับ 9.13 ล้านบาร์เรลต่อวัน

- ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียมีแนวโน้มฟื้นตัว  หลังจากสถานการณ์ความไม่สงบภายในประเทศที่พื้นที่ฝั่งตะวันออกเริ่มคลี่คลายลง ส่งผลให้กำลังการผลิตของลิเบียปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับ 700,000 บาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้  บริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบีย (NOC)  ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มปริมาณการผลิตของลิเบียไปสู่ระดับ 800,000 บาร์เรลต่อวัน ภายในเดือนเม.ย. 60

                   ------------------------------------

ที่มา : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)

โทร.02-797-2999