Nest จิ๊กซอว์ขับเคลื่อน ‘สตาร์ทอัพ’

Nest จิ๊กซอว์ขับเคลื่อน ‘สตาร์ทอัพ’

โครงการบ่มเพาะเป็นอีก Ecosystem ที่สำคัญของการ “เกิด” และ “ขยาย” ธุรกิจสตาร์ทอัพให้เดินไปข้างหน้า

ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา จะพบว่ามีโปรแกรมบ่มเพาะสตาร์ทอัพทั้งในประเทศและต่างประเทศทยอยเปิดตัวออกมาอย่างต่อเนื่องโดยมีเป้าหมายที่การขับเคลื่อนนวัตกรรมใหม่ๆ ออกมาตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปรวมถึงการพัฒนาคนในแวดวงสตาร์ทอัพให้แข่งขันได้ในเวทีระดับโลก

Nest เป็นอีกหนึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดโปรแกรมบ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพ (NEST Accelerator Program) ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในไทยโดยการจับมือกับธนาคารกรุงเทพผลักดันโปรแกรมที่ชื่อ “Bangkok Bank InnoHub” ในการสร้างเส้นทางของ “โอกาส” พร้อมกับ “เปิดทาง” ให้กับสตาร์ทอัพทั้งสัญชาติไทยและต่างประเทศได้เข้าถึงเครือข่ายความร่วมมือในระดับอาเซียนและระดับโลก

NEST เป็นบริษัทร่วมลงทุน (Venture Capital) และผู้ดำเนินโปรแกรมบ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพ (Accelerator Program) ชั้นนำระดับสากล โดยที่ผ่านมาได้ร่วมงานกับองค์กรต่างๆ จากหลายอุตสาหกรรม เช่น FinTech, HealthTech และ Smart Cities เพื่อสนับสนุนสร้างนวัตกรรมในทางธุรกิจให้เกิดขึ้น

สองผู้บริหารจาก Nest วิล รอส หุ้นส่วนและ หัวหน้าฝ่ายนวัตกรรม Nest และ จอห์น เครน กรรมการอำนวยการ Nest ประจำประเทศไทย ร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ และมองโอกาสการพัฒนาสตาร์ทอัพเอาไว้อย่างน่าสนใจ

วิล สั่งสมประสบการณ์จากการทำงานกับธนาคารเพื่อการลงทุน ทำให้เขาชื่นชอบและค้นพบว่า เป็นอาชีพที่ท้าทายที่สามารถสร้างความสมดุลระหว่างธุรกรรมการเงินกับการสร้างเปลี่ยนแปลงให้กับธุรกิจได้

โดยก่อนที่จะเข้าร่วมงานกับ Nest วิล เคยทำงานตำแหน่งอาวุโสของ HSBC ดูแลตลาดทุน บริหารการเงินกลุ่มอิสลาม และเป็นหัวหน้าพัฒนาธุรกรรมใหม่ๆ ที่จะผลักดันธนาคารในธุรกิจด้าน Cross-sell กับการลงทุน มีส่วนผลักดันHSBC ให้ก้าวขึ้นสู่อันดับสูงสุดการสร้างมูลค่าของกลุ่มธนาคารในเอเชีย นอกจากนี้ เขายังเคยร่วมงานกับ ABN AMRO, Merrill Lynch

ขณะที่ จอห์น เครน กรรมการอำนวยการ เนสท์ ประเทศไทย มีประสบการณ์ด้านการทำงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกาในฐานะหัวหน้าฝ่ายการเงิน บริษัท เจ็ท ซัพพอร์ท เซอร์วิส ผู้ให้บริการอิสระด้านการบำรุงรักษาเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวและธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ในปี 2539 เขาได้มีส่วนในการจัดตั้งเจพี มอร์แกนสาขากรุงเทพ และรับผิดชอบดูแลด้านวาณิชธนกิจเป็นเวลาถึง 8 ปี โดยสั่งสมประสบการณ์ที่หลากหลายทั้งด้านการจัดหาเงินทุน การเข้าซื้อและควบรวมกิจการให้กับลูกค้าองค์กรธุรกิจชั้นนำ รวมถึงประเทศไทย

จากประสบการณ์และมุมมองของผู้บริหาร รวมถึงเครือข่ายธุรกิจที่หลากหลายนี้ วิล เชื่อมั่นว่า ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงขององค์กรธุรกิจแบบดั้งเดิมสู่ Digital Transformation ที่องค์กรธุรกิจต่างต้องพัฒนา คิดค้น สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ให้เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลานี้จะมี Nest ทำหน้าที่เป็นตัวประสาน หาเวทีให้บริษัทเหล่านี้ได้ทำงานร่วมกับ องค์กร สถาบันที่มีศักยภาพสูงในธุรกิจสตาร์ทอัพจากทั่วโลก

โดยจุดเด่นของ NEST Accelerator Program อยู่ที่ การเป็นตัวกลางในการเริ่มต้นเส้นทางการผสานรวมกับองค์กรขนาดใหญ่ เปิดตัวกับเครือข่ายระดับนานาชาติ และ เพื่อช่วยให้บริษัท สตาร์ทอัพ เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้

“เรามีประสบการณ์ด้านสตาร์ทอัพ ทั้งระดับท้องถิ่นและต่างประเทศซึ่งถือ เป็นจุดที่สร้างความได้เปรียบ เป็นฐานที่สำคัญในการพาสตาร์ทอัพไป เจาะตลาดทั้งในประเทศไทย และระดับนานาชาติ

โดยเราต้องการสนับสนุนในเกิดการพัฒนาระบบนิเวศใหม่ ๆ ที่สามารถเชื่อมต่อกับชุมชนทั่วโลก”

Nest ก่อตั้งเมื่อปี 2553 มีสำนักงานใหญ่ในฮ่องกง ดำเนินงานภายใต้โครงสร้างทางธุรกิจ 3 ด้านหลัก

Nest Innovation การบริหารจัดการโปรแกรมนวัตกรรมเพื่อการเปลี่ยนแปลง ประกอบด้วย โครงการบ่มเพาะทางธุรกิจ การสร้างนวัตกรรมที่ท้าทายธุรกิจ และสร้างเวทีผู้นำสำหรับผู้ประกอบการ นักลงทุนและ องค์กร

Nest Ventures การร่วมลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพที่สามารถพัฒนานวัตกรรมที่โดดเด่นและสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับธุรกิจ

และอีกกลไกที่สำคัญก็คือ Metta Club สังคมผู้ประกอบการ ที่เวทีของการพบปะ แลกเปลี่ยน และต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ

กลยุทธ์ที่ Nest ให้ความสำคัญมาโดยตลอดคือ การขยายเครือข่ายธุรกิจ เน้นการมองหาโอกาสใหม่ในตลาดที่พัฒนาและตลาดเกิดใหม่ เพื่อเปิดตลาด และสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับบริษัทสตาร์ทอัพใหม่ๆ ได้เข้าถึงระบบนิเวศสำหรับธุรกิจ ในตลาดโลก

สำหรับผลงานที่ผ่านมาจากโปรแกรมการบ่มเพาะโดย Nest ตัวอย่างเช่น ในฮ่องกง ได้รับการยอมรับจากพันธมิตรรายใหญ่ระดับโลกและระดับภูมิภาค เช่น AIA DBS และ Infiniti Motor ที่ถูกนำไปใช้งานทางธุรกิจแล้ว

ส่วนในสิงคโปร์ ประสบความสำเร็จด้วยดีกับธนาคารโอซีบีซี (OCBC) บริษัท AIA และล่าสุด Nest เพิ่งมีความร่วมมือกับ Visa ที่กรุงไนโรบี สาธารณรัฐเคนยา

ในส่วนของบริษัทสตาร์ทอัพที่ผ่านโปรแกรมบ่มเพาะของ Nest อย่างเช่น Coins.ph การให้บริการการชำระเงินด้วยบิทคอยน์ในฟิลิปปินส์ , Kazoo Technology บริษัทออกแบบและพัฒนาเทคโนโลยีโซลูชั่นส์ IoTสำหรับอุปรกรณ์ทัชสกรีน สร้างสรรค์แอพพลิเคชั่นส์ทางธุรกิจและไลฟ์สไตล์ เป็นต้น

สองผู้บริหารจาก Nest เห็นตรงกันว่า โปรแกรมบ่มเพาะจะเป็นอีกตัวเร่งและเปิดประตูแห่งโอกาสให้สตาร์ทอัพก้าวถึงระดับภูมิภาคและระดับโลกได้

ขณะที่องค์กรธุรกิจจะเกิดกระบวนการเรียนรู้ในนวัตกรรมเทคโนโลยีจากบริษัทสตาร์ทอัพ เพื่อมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการที่ดีขึ้นสนองตอบความต้องการของลูกค้าทั้งปัจจุบันและในอนาคต

 

ล้อมกรอบ

เฟ้นหานวัตกรรมการเงิน

Nest ได้รับเลือกจากธนาคารกรุงเทพให้เป็นผู้พัฒนาและบ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพระดับโลก เพื่อช่วยผลักดันให้ธนาคารก้าวไปสู่การเป็นธนาคารพาณิชย์ที่ให้บริการด้วยนวัตกรรม ภายใต้โปรแกรม Bangkok Bank InnoHub

โครงการ Bangkok Bank InnoHub จะเปิดรับสมัครผู้ประกอบการสตาร์ทอัพกลุ่มฟินเทคที่มีผู้บริหารอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จากทุกประเทศทั่วโลก ระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม ถึงวันพุธที่ 10 พฤษภาคม 2560 เพื่อคัดเลือกจำนวน 8 ทีม เข้าร่วมโครงการฝึกอบรมที่ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ระยะเวลา 12 สัปดาห์ พร้อมกำหนดจัดงานวัน Demo Day ที่จะเป็นเวทีในการนำเสนอแผนธุรกิจต่อกลุ่มนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแถบประเทศอาเซียนในเดือนกันยายน 2560

โดยมุ่งเน้นเนื้อหาที่เป็นประโยชน์โดยตรงกับสตาร์ทอัพหน้าใหม่ที่อยู่ในกลุ่มการพัฒนาเทคโนโลยี Payment สำหรับการชำระเงิน, นวัตกรรม eKYC(Electronic Know Your Customer: e-KYC), การพัฒนาโซลูชั่นส์ Machine Learning และระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) เป็นต้น

“กระบวนการบ่มเพาะนี้ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อพาบริษัทสตาร์ทอัพ ให้ไปไกลกว่าแค่การนั่งฟังแบบห้องเรียนหรือห้องสัมมนา แต่เน้นที่การวางแผนจริง การนำแผนไปปรับใช้ในการสร้างศักยภาพธุรกิจให้เดินไปสู่เป้าหมายที่วางเอาไว้ “

เมื่อสิ้นสุดโครงการสตาร์ทอัพที่ได้การคัดเลือกให้เข้าร่วมจะมีโอกาสเสนองานต่อนักลงทุน พร้อมกับ เปิดโอกาสให้บริษัทสตาร์ทอัพเหล่านี้ สร้างเครือข่าย หาพันธมิตรทางธุรกิจ และการเข้าถึงแหล่งเงินทุนระดับ Seed หรือ Series A

สิ่งที่ Nest และธนาคารกรุงเทพ มองหาก็คือ สตาร์ทอัพกลุ่มฟินเทค ที่สร้างนวัตกรรมเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนรูปโฉมใหม่ทางการเงิน