'4บจ.' ถูกซื้อกิจการไตรมาสแรก

'4บจ.' ถูกซื้อกิจการไตรมาสแรก

4บจ.ถูกซื้อกิจการ “ไทคอน” แชมป์เงินลงทุน

ช่วง 3 เดือนแรกของปี 2560 บรรยากาศในตลาดหุ้นไทยผันผวน ดัชนีปรับตัวขึ้นได้เล็กน้อย ซึ่งธุรกรรมการซื้อกิจการยังคงคึกคักต่อเนื่องจากปีก่อน ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พบว่า บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยถูกซื้อกิจการ โดยผู้ที่เข้ามาซื้อกิจการมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งเป็นบริษัทต่างประเทศ ในประเทศ หรือ แม้กระทั่งกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่

จากข้อมูลที่ยื่นทำคำเสนอซื้อ เพื่อรับซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ ที่รายงานกับก.ล.ต.ปัจจุบันพบว่าช่วง เดือนแรกของปีนี้มีบจ.ที่ถูกซื้อกิจการ 4 แห่ง และมีมูลค่าเงินลงทุนมากกว่า 2 หมื่นล้านบาท และบริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่นจำกัด (มหาชน) TICON เป็นบริษัทที่มีมูลค่าเงินลงทุนสูงสุด

สำหรับบริษัทที่ถูกซื้อกิจการประกอบด้วย บริษัทเงินทุน กรุงเทพธนาทร จำกัด (มหาชน) BFIT ถูกบริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 จำกัด (มหาชน) SAWAD ทำรายการซื้อหุ้นและทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของ BFIT จำนวน 127.3 ล้านหุ้น คิดเป็น 63.65% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของกิจการ ในราคาหุ้นละ 11.42 บาท เป็นมูลค่าเงินลงทุน 1,453.86 ล้านบาท โดยจะยื่นคำเสนอซื้ออย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.2560 หลังจากบริษัทได้ถือหุ้นแล้ว 36.35%

ขณะที่บริษัท วีนิไทย จำกัด (มหาชน) VNT ได้รับสำเนาคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท จาก บริษัท Asahi Glass Col., Ltd. ในฐานะผู้ทำคำเสนอซื้อ หลังจาก Asahi Glass ได้เข้าถือหุ้นแล้ว 58.77% โดยซื้อจาก Solvay Vinyls Holding AG ทั้งนี้กำหนดราคาเสนอซื้อที่หุ้นละ 15 บาท คิดเป็นเงินทุน 7,330 ล้านบาท กำหนดระยะเวลารับซื้อตั้งแต่ 3 มี.ค.-7 เม.ย.2560 มี บล.ฟินันซ่า เป็นตัวแทนในการรับซื้อหลักทรัพย์

ทั้งนี้ Asahi Glass มีความประสงค์จะเพิกถอนหลักทรัพย์ VNT ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในช่วงเวลา 12 เดือน นับจากสิ้นสุดระยะเวลารับซื้อ

บริษัท ซีซีเอ็น-เทค จำกัด (มหาชน) CCN แจ้งเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ หลังมีผู้ตอบรับคำเสนอซื้อหุ้น โดยแสงเจตจาขายหุ้นรวม 115 ล้านหุ้น คิดเป็น 50% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมด ส่งผลให้ นายวรพจน์ อำนวยพล เข้าถือหุ้น 96.6 ล้านหุ้น คิดเป็น 42% ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด และ นายศุภจักร ไตรรัตโนภาส ถือหุ้น 18.4 ล้านหุ้น คิดเป็น 8%

นอกจากนี้ กรรมการของบริษัทบางรายจะลาออกจากคณะกรรมการของบริษัท และจะถูกแทนที่โดยกรรมการที่เสนอชื่อโดยผู้ทำคำเสนอซื้อ และหลังจากนั้นการดำเนินธุรกิจของบริษัทจะเป็นไปตามแผนงานและยุทธศาสตร์ที่ถูกกำหนดโดยคณะกรรมการชุดใหม่

บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) TICON แจ้งมติอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทจาก 1.10 พันล้านบาท เป็น 1.83 พันล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญจำนวน 735 ล้านหุ้นเสนอขายให้แก่ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด (FPHT) ในราคาหุ้นละ 18 บาท มูลค่ารวม 13,230 ล้านบาท รวมถึงอนุมัติผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท (Whitewash) ให้แก่ FPHT ทั้งนี้คาดว่า การร่วมมือกับ FPHT ในครั้งนี้จะช่วยเอื้อประโยชน์และสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯทั้งในประเทศและต่างประเทศได้เป็นอย่างดี