ชี้คืบหน้า! การปฏิรูปแก้ความเหลื่อมล้ำเศรษฐกิจและสังคม

ชี้คืบหน้า! การปฏิรูปแก้ความเหลื่อมล้ำเศรษฐกิจและสังคม

"อลงกรณ์" ชี้ปฏิรูปแก้ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม มีความคืบหน้า หลัง สนช. และครม.เห็นชอบกฎหมายสำคัญ 2 ฉบับ

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ คนที่หนึ่ง (สปท.) ในฐานะคณะกรรมการเตรียมการปฏิรูป และคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองของคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดิน ตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความปรองดอง (ป.ย.ป.) กล่าวถึงความคืบหน้าการปฏิรูป ว่า การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างและเป็น 1 ใน 6 ของเป้าหมายการปฏิรูปประเทศครั้งนี้มีความคืบหน้า ภายใต้ป.ย.ป.โมเดล

ได้แก่ กรณีที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เห็นชอบเป็นเอกฉันท์ร่างพ.ร.บ.แข่งขันทางการค้าฉบับใหม่เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยกฎหมายฉบับนี้ออกมาก็เพื่อสร้างระบบการค้าที่เสรีเป็นธรรมและป้องกันการผูกขาดตัดตอนทางเศรษฐกิจ และกรณีที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเมื่อ 21 มี.ค.ที่เป็นการปฏิรูประบบภาษีและการคลังภายใต้ 27 วาระเร่งด่วนของป.ย.ป. เพื่อกระจายการถือครองที่ดินและสร้างฐานรายได้ของการปกครองท้องถิ่นให้เข้มแข็ง เนื่องจากกลุ่มประชากรชั้นบนร้อยละ 30 ถือครองที่ดินเกินร้อยละ 90 ขณะที่ประชากรที่เหลือร้อยละ70 มีที่ดินรวมกันเพียงร้อยละ 9 เท่านั้นโดยเฉพาะเกษตรกรส่วนใหญ่ไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง

นายอลงกรณ์ กล่าวว่า นอกจากนี้สปท.ยังได้ผ่านการพิจารณา 3 วาระปฏิรูปเร่งด่วนในด้านการปฏิรูปเครื่องมือพัฒนาฐานรากเพื่อส่งต่อป.ย.ป.ขับเคลื่อนให้เสร็จภายในปีนี้ได้แก่ ธนาคารที่ดิน สถาบันการเงินชุมชนและวิสาหกิจเพื่อสังคมพร้อมพ.ร.บ.3 ฉบับ และในวันจันทร์ที่ 27 มี.ค.ที่สปท.จะมีการประชุม โดยมีวาระพิจารณารายงานการปฏิรูปพลังงาน และวาระเร่งด่วนด้านการปฏิรูปเศรษฐกิจอนาคต ได้แก่ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และวาระการปฏิรูปการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพื่อวางรากฐานโมเดลเศรษฐกิจใหม่ให้กับประเทศสู่การยกระดับอัพเกรดเป็นประเทศรายได้สูงหลังจากติดกับประเทศรายได้ปานกลางมา 20 ปี ซึ่งการขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศเพื่อคนไทยทุกคนทั้งในวันนี้และวันหน้าต้องทำอย่างต่อเนื่องตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

“ยิ่งคลื่นลมสงบมากเท่าใดการปฏิรูปก็ไปได้เร็วขึ้นเท่านั้น จึงเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของทุกคน โดยเฉพาะฝ่ายการเมืองที่จะทำให้คลื่นลมสงบมากน้อยแค่ไหน ส่วนป.ย.ป.มีหน้าที่ขับเคลื่อนปฏิรูปต่อไปไม่ว่าจะมีคลื่นสูงลมแรงแค่ไหนก็ต้องนำประเทศเดินไปข้างหน้า จะไม่ยอมให้ประเทศถอยหลังหรือกลับไปสู่ปัญหาเก่าๆ” นายอลงกรณ์ กล่าว