ปชช.67.7% ชี้จับอาวุธสงคราม'โกตี๋' อาจมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง

ปชช.67.7% ชี้จับอาวุธสงคราม'โกตี๋' อาจมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง

โพลล์ชี้ประชาชน 76% มองจับอาวุธสงครามเครือข่ายโกตี๋ อาจเอี่ยวการเมือง-ส่วนตัว เผย67.7% เชื่ออาจมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง

สวนดุสิตโพล์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่องประชาชนคิดอย่างไร? กรณี จับอาวุธสงคราม “โกตี๋” โดยสำรวจความคิดเห็นประชาชน จำนวนทั้งสิ้น 1,276 คน ระหว่างวันที่ 20-25 มี.ค.2560 โดยสรุปได้ดังนี้

ประชาชนคิดอย่างไรกับกรณีจับอาวุธสงครามโก๊ะตี๋ โดยประชาชนร้อยละ 76.3 มองจับอาวุธโกตี๋อาจเกี่ยวข้องการเมือง-เรื่องส่วนตัว ส่วนประชาชนร้อยละ 73.35 ขอให้ดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดและเป็นไปอย่างถูกต้องยุติธรรม

ขณะที่ร้อยละ 67.71 ระบุว่า อาจมีเบื้องหน้าเบื้องหลังมากกว่านี้ ควรเร่งตรวจตรวจสอบที่มาชัดเจน ร้อยละ 60.27 มองว่าเป็นคดีสำคัญที่ประชาชนสนใจและติดตามข่าวกันมาก อยากรู้ข้อเท็จจริง และร้อยละ 55.25 ระบุ เป็นการตรวจค้นและยึดอาวุธครั้งใหญ่ น่าจะทำเป็นขบวนการ

เมื่อสอบถามว่า จากกระแสข่าวระบุว่าเป็นการสะสมอาวุธเพื่อลอบสังหารผู้นำประเทศ ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 45.69 ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่เพราะไม่รู้รายละเอียด อาจเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้ รองลงมา ร้อยละ 31.90 เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง เพราะต้องการสร้างความวุ่นวายให้กับการเมือง และร้อยละ 22.41 ไม่เชื่อ โดยระบุว่า เป็นเพียงการสร้างสถานการณ์ต้องการให้เป็นข่าวครึกโครม

ทั้งนี้บางกระแสข่าววระบุว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการจัดฉากของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประชาชนเชื่อหรือไม่ ปรากฏว่า ประชาชนร้อยละ 46.63 ไม่แน่ใจว่าควรเชื่อหรือไม่เพราะไม่รู้ที่มาที่ไป รองลงมา ร้อยละ 36.99 ไม่เชื่อ เพราะเชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ มีหลักฐานขัดเจน และร้อยละ 16.38 เชื่อเพราะสถานการณ์ความไม่สงบให้เกิดขึ้น

นอกจากนี้ ในกรณีจับอาวุธสงครามของโกตี๋ ประชาชนส่วนใหญ่ 37.62 คิดว่าจะกระทบกับการสร้างความปรองดอง รองลงมา ร้อยละ 33.15 ไม่กระทบ และร้อยละ 29.23 ไม่แน่ใจ และคดีดังกล่าวประชาชนร้่อยละ 74.53 ระบุว่า เป็นคดีที่สะท้อนให้เห็นว่าสังคมไทยมีความขัดแย้งแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันอย่างชัดเจน รองลงมา ขณะที่ร้อยละ 65.28 เห็นว่า ควรมีมาตรการที่เข้มงวดในการควบคุมอาวุธร้ายแรงอาวุธสงคราม, ร้อยละ 59.17 ระบุ ประชาชนไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน, ร้อยละ 58.31 น่าจะยังมีขบวนการและการซ่องสุมอาวุธอีกจำนวนมากและร้อยละ 53.84 ระบุเป็นการท้าทายอำนาจรัฐ กฎหมายหละหลวม มีช่องโหว่