'กองกำลังผาเมือง'แถลงคดีวิสามัญ 'ชัยภูมิ ป่าแส'

'กองกำลังผาเมือง'แถลงคดีวิสามัญ 'ชัยภูมิ ป่าแส'

"กองกำลังผาเมือง" แถลงคดีวิสามัญฆาตกรรม "ชัยภูมิ ป่าแส" ระบุทหารมือยิงมีความประพฤติดีมาจากครอบครัวยากจน เผยกล้องวงจรปิดอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ที่กองกำลังผาเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จัดแถลงข่าวกรณี ทหารวิสามัญ นายชัยภูมิ ป่าแส โดยมี พล.ต.จิรเดช กมลเพ็ชร ผบ.กกล.ผาเมือง, พ.ต.อ.ธีรพล อินทรลิบ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่, พ.ต.อ.มงคล สัมภวะผล รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่,นายธรรมฤทธิ์ สีตะปะคล รองอัยการจังหวัดเชียงใหม่, นพ.พงษ์ศักดิ์ โสภณ รองผู้อำนวยการ ฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลนครพิงค์ และ นายเพิ่มเกียรติ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ปลัดอำเภอเชียงดาว ร่วมในการแถลงข่าว

พล.ต.จิรเดช กมลเพ็ชร ผบ.กกล.ผาเมือง กล่าวว่า จากรณีเจ้าหน้าที่ทหารวิสามัญ นายชัยภูมิ ป่าแส บริเวณจุดตรวจจุดสกัดกั้นบ้านรินหลวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา สำหรับเจ้าหน้าที่ทหารที่เป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิง นายชัยภูมิ ป่าแส คือ พลทหารสุรศักดิ์ รัตนวรรณ อายุ 22 ปี ตำแหน่งพลปืนเล็กประจำจุดตรวจ บ้านรินหลวง สังกัดกองพันทหารม้าที่ 24 กรมทหารม้าที่ 5 รักษาพระองค์ ค่ายอดิศร อ.เมือง จ.สระบุรี ภูมิลำเนาเดิมอยู่ ต.ปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ครอบครัวค่อนข้างยากจนต้องการแบ่งเบาภาระครอบครัว จึงได้สมัครเข้ามาเป็นทหารเพื่อมาปฏิบัติหน้าที่ที่จังหวัดเชียงใหม่ มีความประพฤติดี ในส่วนของกองทัพ ได้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีแม่ทัพภาค 3 เป็นประธานกรรมการ ซึ่งได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบไปแล้ว สำหรับในเรื่องกล้องวงจรปิดที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกต และเรียกร้องให้เปิดเผยกล้องวงจรปิดออกมานั้น ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบดำเนินการ ส่วนเจ้าหน้าที่ทหาร ที่เป็นผู้ยิง ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่อ.เชียงดาว ซึ่งต้องปฏิบัติหน้าที่หมุนเวียนกับชุดปฏิบัติการอื่น

พ.ต.อ.ธีรพล อินทรลิบ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวว่า กรณีเรื่องดังกล่าวมีผู้เสียชีวิตโดยการกระทำของเจ้าพนักงานซึ่งอ้างว่าปฏิบัติหน้าที่ ตามระเบียบการสอบสวนต้องมีรองผู้บังคับการลงทำหน้าที่สอบสวนด้วยตัวเอง จึงได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.มงคล สัมภวะผล รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เป็นหัวหน้าทีมในการสอบสวนคดีนี้ พร้อมกันนี้ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.อ.จักร์ทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้เข้ามาควบคุมดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้ทำการสืบสวนสอบสวนด้วยความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ขณะนี้การดำเนินการสอบสวนแบ่งเป็น 3 เรื่อง ด้วยกันคือ 1. กรณีที่มีการครอบครองยาเสพติดต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน 2. เกิดการเสียชีวิต จากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหาร และ 3. การสอบสวนการชันสูตรพลิกศพ

ในส่วนของรูปคดีเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการยึดยาบ้านได้ 2,800 เม็ด ซุกอยู่ในกรองอากาศของรถยนต์ที่ นายพงศนัย แสงต๊ะหล้าเป็นผู้ขับ และมีนายชัยภูมิ ป่าแส เจ้าของรถนั่งมาด้วย ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการขยายผล เกี่ยวพันกับเครือข่ายไหน จึงยังไม่สามารถที่จะให้ข้อมูลได้ในชณะนี้

นพ.พงษ์ศักดิ์ โสภณ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลนครพิงค์ กล่าวว่า หลังจากทำการชันสูตรพลิกศพที่โรงพยาบาลนครพิงค์ เบื้องต้นระบุว่า มีบาดแผลกระสุนปืนบริเวณแขนซ้าย และวิถีกระสุนแฉลบเข้าไปบริเวณสีข้างด้านซ้าย ไปทำให้เกิดการบาดเจ็บของปอดและหลอดเลือดหัวใจ ทำให้เกิดการเสียชีวิต สำหรับการรายงานผลชันสูตรอย่างละเอียดว่ามีการฟกช้ำจากการทำร้ายร่างกายหรือไม่นั้นต้องรออีกสักระยะหนึ่งผลกำลังอยู่ระหว่างการวิเคราะห์ดำเนินการ คาดว่าไม่เกิน 3-4 วันอาจจะได้ผลการรายงานอย่างละเอียด

นายธรรมฤทธิ์ สีตะปะคล รองอัยการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ส่วนของอัยการปกติอัยการจะไม่ได้เข้าร่วมสอบสวน แต่เนื่องจากเป็นคดีมีการตายเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่อ้างว่าปฏิบัติหน้าที่ ตามกฎหมายจึงต้องให้อัยการเข้าร่วมในการสืบสวนคดีควบคู่ไปกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในส่วนสำนวนการสอบสวนนั้นอัยการเข้าร่วมทำการสอบสวนเฉพาะในกรณี การเสียชีวิต ของนายชัยภูมิ ป่าแส เท่านั้น ส่วนสำนวนอื่นๆ ไม่ได้รับมอบหมายให้เข้าร่วมสอบสวน ทางอัยการได้ดูสำนวนการสอบสวนไปบางส่วนแล้ว พร้อมทั้งร่วมทำการสอบสวนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ส่วนรายละเอียดยังไม่สามารถบอกได้ในขณะนี้

พ.ต.อ.มงคล สัมภวะผล รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ทำหน้าที่หัวหน้าที่สอบสวน คดีนายชัยภูมิ ป่าแส กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จาก สภ.นาหวาย ได้ดำเนินการตามกฎหมาย ด้วยการลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที หลังจากได้รับแจ้งจากทางทหาร การตรวจสอบที่เกิดเหตุได้แจ้ง แพทย์ อัยการ ปลัดอำเภอ เพื่อร่วมตรวจสอบชันสูตรพลิกศพ อย่างถูกต้องตามกฎหมาย หลังจากนั้นได้รายงานเหตุเข้ามาที่ผู้บังคับบัญชา กองบังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่จึงได้ออกคำสั่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนสืบสวน เพื่อเข้าไปสอบสวนคดี

ในเบื้องต้น ได้ทำการสอบสวนมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากเป็นคดีที่ผู้เสียชีวิตเกิดจากการกระทำของเจ้าพนักงานซึ่งอ้างว่าปฏิบัติงานตามหน้าที่หรือ ที่เรียกว่า คดีวิสามัญฆาตกรรม กฎหมายกำหนดว่าจะต้องทำสำนวนไต่สวนเพื่อให้ทราบว่าผู้ตายเป็นใคร ตายที่ไหน ตายเมื่อไหร่ เหตุการณ์พฤติกรรมการตาย และใครเป็นผู้ทำให้ตาย สำนวนนี้จะมีระยะเวลาในการดำเนินการ ภายใน 30 วัน แต่หากรวยรวมไม่เสร็จสามารถขยายได้ไม่เกิน 90 วัน หลังจากนั้นจะต้องส่งสำนวนให้ศาล เพื่อจะได้มีคำสั่งต่อไป หลังจากนั้นจะนำสำนวนมาผูกกับสำนวนที่ผู้ตายถูกกล่าวหาว่า กระทำความผิด โดยมียาเสพติด มีวัตถุระเบิด ในครอบครอง ต่อสู้ขัดขวาง และพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน และต้องนำไปผูกกับคดีเจ้าหนักงานทำให้ถึงแก่ความตายโดยอ้างว่าปฏิบัติงานตามหน้าที่ ตามกฎหมายการสอบสวนต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานอัยการ ทำสำนวนร่วมกัน ขอยืนยันว่าคดีนี้จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ปัจจุบันมีการเผยแพร่ข้อมูลในโซเซียลเป็นจำนวนมาก ข้อมูลบางอย่างตรงกับความเป็นจริง ข้อมูลบางอย่างเป็นข้อมูลที่ผิดเพี้ยนไป หากใครผู้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีดังกล่าวนี้ ขอให้นำมามอบกับพนักงานสอบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อประกอบการทำสำนวน ในภาพรวมข้อมูลต่างๆ ที่โจมตีเจ้าหน้าอาจจะไม่กล้าที่ปฏิบัติหน้าเพราะขาดขวัญกำลัง จึงอย่าเพิ่งเชื่อหรือตัดสินจากข้อมูลต่างๆในโซเซียล จนกว่าพนักงานสอบสวนจะทำการสอบสวนให้เสร็จสิ้น ทุกอย่างมีขั้นตอนในการทำงาน มีทั้งพยานบุคคล พยานแวดล้อม เชื่อว่าความจริงจะต้องเกิดขึ้นในเร็ววันนี้