'คสช.'ปัดจับอาวุธสงครามหวังสร้างเงื่อนไขอยู่ต่อ

พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่ทหารและตำรวจเข้าตรวจยึดอาวุธรวม 9 จุด ใน 7 จังหวัดเครือข่ายของนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา โดยค้นพบอาวุธจำนวนมาก และควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 9 ราย ว่า คดีดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ส่วนรูปคดีที่เกี่ยวพันกับอาวุธสงครามที่ถูกแย่งชิงไปช่วงเหตุการณ์ชุมนุมปี 2553 ก็ได้ประสานงาน และโอนดีให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นผู้ดำเนินการแล้ว ส่วนจะมีการซัดทอดว่ามีความเชื่อมโยงกันอย่างไร คิดว่าทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนขยายผลกันต่อไป ซึ่งจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา และเป็นธรรม ทั้งนี้ย้ำว่าในส่วนของรูปคดีทางคสช.จะไม่เข้าไปให้ความเห็น ชี้นำ ดำเนินการใดๆ คสช. มองว่าต้องบังคับกฎหมายตามกระบวนการยุติธรรมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ซึ่งเราเพียงแค่ติดตามเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรกำชับเป็นที่พิเศษ

"ส่วนประเด็นคนสนิทนายโกตี๋กล่าวอ้างมีอดีตรัฐมนตรีคนหนึ่งเกี่ยวข้องนั้น ตอนนี้ยังไม่ได้พูดว่าใครเป็นใคร ทุกอย่างต้องว่าไปตามเอกสาร หลักฐาน สิ่งที่ปรากฏ ทั้งตัวบุคคล อาวุธสงครามที่ตรวจยึดได้ก็ว่าไปตามนั้น ส่วนผลการสืบสวนจะมีความเกี่ยวพัน เชื่อมโยงกันอย่างไรก็ต้องว่ากันไปตามหลักฐาน ข้อเท็จจริง ที่สืบค้นได้ ซึ่งเราไม่ได้กล่าวลอยไปลอยมาอย่างใด" พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าว

พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าวต่อว่า ขอยืนยันว่า คสช.ทำงานด้วยข้อมูล ข้อเท็จจริงตามหลักกฎหมาย และบังคับใช้กฎหมายให้เป็นธรรม ตรงนี้คือข้อเท็จจริง เพื่อสร้างความพอใจ และอบอุ่นให้กับพี่น้องประชาชน โดยการดำเนินการของเจ้าหน้าที่รัฐการกวาดล้างอาวุธสงครามในครั้งนี้เป็นการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องด้านการข่าว ในเมื่อมีความชัดเจนแล้วก็ดำเนินการจับกุมทันที พร้อมทั้งขอยืนยันว่าการจับอาวุธสงครามในครั้งนี้ไม่ได้สร้างเงื่อนไขให้คสช.อยู่ต่อแต่อย่างใด และก็ไม่กระทบกระบวนการปรองดองทั้งสิ้น