เด็กเก่งสอบโอเน็ตคณิตเต็ม100 ติดแพทย์4สถาบัน

ที่โรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี อ.เมือง จ.พิษณุโลก ดร.พยัพ อนันนิล ผู้อำนวยการโรงเรียน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 39 ด้วยได้ทำพิธีมอบเสื้อสามารถ โล่ประกาศเกียรติคุณ ให้กับ น.ส.พิมพ์รัก บารมี นักเรียนกชั้น ม. 6 รร.เฉลิมขวัญสตรี ที่สามารถทำผลการทดสอบวิชาคณิตศาสตร์ ในการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ ขั้นพื้นฐาน O-NET ได้คะแนนเต็ม 100 คะแนน โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษา ฝ่ายวิชาการ และนายบุญเหลือ บารมี นายอำเภอบางกระทุ่ม นางนาตยา บารมี บิดาและมารดา ของนส.พิมพ์รัก บารมีมาร่วมแสดงความยินดี

น.ส.พิมพ์รัก บารมี นอกเหนือจากทำคะแนนทดสอบวิชาคณิตศาสตร์ได้เต็ม 100 คะแนนแล้ว ยังมีผลการเรียนวิชาต่างๆ ในชั้นดีเลิศ และจากการสอบในระดับอุดมศึกษา ที่เจ้าตัวเลือกคณะแพทย์เป็นอันดับหนึ่งนั้น ก็สามารถทำคะแนนและติดคณะแพทย์ถึง 4 สถาบัน ได้แก่ แพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น แพทย์มหาวิทยาลัยนเรศวร แพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และแพทย์ศิริราช และได้ตัดสินใจเลือกเรียนต่อในคณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยเป็นสถาบันทางการแพทย์เก่าแก่ที่มีชื่อเสียง

น.ส.พิมพ์รัก เผยต่อว่า เริ่มมีความคิดอยากเรียนแพทย์เมื่อขึ้นชั้นม. 4 เพราะเป็นอาชีพที่ดี มั่นคง ได้ช่วยเหลือคน ขณะที่เคล็ดลับในการสอบให้ได้ผลคะแนนดี ต้องตั้งใจเรียนในห้อง และขยันอ่านหนังสือทบทวนให้เยอะ หมั่นฝึกทำโจทย์จริงและจับเวลา เพราะการสอบนั้น เวลาเป็นเรื่องสำคัญมาก มีหลายคนที่เรียนเก่ง แต่ไม่ฝึกทดสอบจับเวลา ก็อาจจะทำคะแนนออกมาไม่ดี ยิ่งฝึกทำโจทย์เยอะ ก็จะได้ประสบการณ์มากขึ้นด้วย ช่วยลดเวลาในการคิดลงได้ เมื่อฝึกจับเวลาและทำโจทย์บ่อย ๆ ก็จะเห็นแนววิธีในการคิดที่รวดเร็วได้ และต้องใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ช่วงไหนที่ว่างในชั้นเรียนก็นำโจทย์ขึ้นมาทำ อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปเฉย ๆ เพราะในขณะที่เรานั่งหายใจอยู่เฉย ๆ เด็กคนอื่นบางคนกลับขยัน เพื่อนที่อยู่ต่างโรงเรียน เช่น โรงเรียนเตรียมอุดม เขาขยันกันมาก ขยันตลอดเวลา อ่านตลอดและอ่านทั้งห้อง ทำให้พัฒนาผลการเรียนไปด้วยกันเยอะ

นางสาวพิมรักษ์ บารมี กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนและครอบครัว ดีใจมาก ในการเตรียมตัวก่อนสอบ ประมาณ 1 ? 2 สัปดาห์ จะเน้นทำโจทย์ตลอด จับเวลาและเน้นการทำโจทย์เก่า ๆ ของโอเน็ต จะได้รู้ว่าโอเน็ตออกประมาณแนวไหน ถ้าเรื่องไหนเรายังไม่เน้นก็จะอ่านเนื้อหาเพิ่มเติม ในการแบ่งเวลาหลังจากทำการบ้านเสร็จตอนเย็น 5 - 6 โมงเย็น เสร็จก็จะออกไปเดินเล่นรอบบ้าน แล้วกลับ ทานข้าว อาบน้ำและมาอ่านหนังสือเริ่มประมาณ 3 ทุ่ม ก็จะอ่านตามตารางที่วางไว้ เช่น วิชาคณิตศาสตร์ และวิชาฟิสิกส์ เน้นการทำโจทย์จับเวลาเป็นหลัก แต่ถ้าเป็นวิชาที่เน้นความจำ เช่น ชีวะ ภาษาอังกฤษ ก็จะอ่านเนื้อหาก่อน และเริ่มจับเวลาเช่นกัน ในแต่ละวันจะอ่านถึงเที่ยงคืนหรือตี 1

ด้าน นายบุญเหลือ บารมี ผู้ปกครองของน้องพิม และมีตำแหน่งเป็นนายอำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ดีใจมาก เพราะถือเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ ถึงต้องใช้ระระเวลาอีกหลายปี นำเรียนว่ามีอยู่ 3 ภาคส่วน ส่วนแรกคือครอบครัว ต้องช่วยเหลือ สนับสนุนและเป็นกำลังใจ ส่วนที่สองในตัวของน้องเอง ที่มีความรับผิดชอบ มุ่งมั่น และมีความขยันเป็นทุนเดิม และส่วนที่สามทางสถาบันการศึกษา ที่เป็นต้นแบบ เป็นเบ้าหลอม ที่ได้ให้ความรู้และคุณธรรม ที่ทำให้มีส่วนให้น้องประสบความสำเร็จ