'สรรพสามิต' คาดภาษีเหล้า-บุหรี่ใหม่มีผล16 ก.ย.นี้

'สรรพสามิต' คาดภาษีเหล้า-บุหรี่ใหม่มีผล16 ก.ย.นี้

"อธิบดีสรรพสามิต" ยืนยันภาษีเหล้า - บุหรี่ใหม่ไม่กระทบผู้บริโภค ชี้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมได้มาตรฐานสากล คาดพร้อมบังคับใช้ 16 ก.ย.นี้

นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิตปฏิรูปโครงสร้างภาษีสรรพสามิต โดยมีการจัดเก็บภาษีแบบใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งกฎหมายดังกล่าวประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาแล้วเมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้น 180 วัน หรือประมาณวันที่ 16 กันยายน 2560 โดยยืนยันว่าการปฏิรูปภาษีใหม่นั้น จะมีการกำหนดอัตราภาษีจริงไว้ในกฎหมายลูก เนื่องจากเพดานกำหนดไว้มีอัตราสูงและการจัดเก็บภาษีจะไม่ให้กระทบกับผู้บริโภคแน่นอน

สำหรับกฎหมายดังกล่าวเป็นการรวมกฎหมาย 7 ฉบับ ประกอบด้วย กฎหมายว่าด้วยภาษีสรรพสามิต กฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต กฎหมายว่าด้วยสุรา กฎหมายว่าด้วยยาสูบ กฎหมายว่าด้วยไพ่ กฎหมายว่าด้วยการจัดสรรเงินภาษีสรรพสามิต และกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรเงินภาษีสุรา ซึ่งเป็นกฎหมายที่บังคับใช้มาเป็นเวลานาน และมองว่าไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน

ทั้งนี้ ยืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของระบบกฎหมายภาษีสรรพสามิตและแนวทางการจัดเก็บภาษีแบบใหม่ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส เป็นสากล และลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ ส่งผลให้กฎหมายสรรพสามิตสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในการบริหารการจัดเก็บภาษีได้ทั้งระบบ และทำให้การจัดเก็บภาษีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และหลังจากนี้กรมฯ จะต้องออกกฎหมายรองประมาณ 80 ฉบับ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายแม่บท โดยเฉพาะอัตราการจัดเก็บภาษีสินค้าและบริการต่าง ๆ เนื่องจากกฎหมายที่ออกมาเป็นการปรับขยายเพดานอัตราภาษีสรรพสามิต ซึ่งเพดานใหม่จะใช้ถึงปี 2580

สำหรับอัตราภาษีที่จะจัดเก็บจริงนั้น จะถูกกำหนดไว้ในกฎหมายลำดับรองอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาโดยอัตราภาษีที่จะจัดเก็บจริงนั้นจะลดลงจากเพดานลงมา เนื่องจากเพดานในกฎหมายนั้นกำหนดไว้สูง เพราะมองถึงอนาคตอีก 20 ปี สำหรับการกำหนดอัตราจัดเก็บภาษีจริง ในหลักการจะอ้างอิงจากภาระภาษีที่จัดเก็บอยู่ในปัจจุบัน เพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้บริโภคและผู้ประกอบการ

ส่วนสาระสำคัญของร่างนั้น ได้เพิ่มเติมบทนิยาม เช่น คำว่า ราคาขายปลีกแนะนำ ผลิต สุรา ยาสูบ และไพ่ ปรับปรุงวิธีการจัดเก็บภาษีจากจัดเก็บในอัตราตามมูลค่า หรือตามปริมาณแล้วแต่อย่างใดจะคิดเป็นเงินสูงกว่าเป็นการจัดเก็บทั้งตามมูลค่าและตามปริมาณ เปลี่ยนฐานในการคำนวณภาษีตามมูลค่า จากเดิม สินค้าที่ผลิตในราชอาณาจักรใช้ราคาขาย ณ โรงอุตสาหกรรม และสินค้านำเข้าใช้ราคา ซี.ไอ.เอฟ. หรือกรณีสินค้าสุราใช้ราคาขายส่งช่วงสุดท้ายเป็นราคาขายปลีกแนะนำ ปรับปรุงกำหนดระยะเวลาการประเมินภาษีจากเดิม 2 ปี เป็นกำหนดเวลา 2 ปี ขยายได้อีก 3 ปี เป็น 5 ปี

นอกจากนี้ ยังปรับปรุงขั้นตอนการโต้แย้งการประเมินภาษี ปรับปรุงการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขการนำเข้าสินค้าสุรา ยาสูบ และไพ่ เป็นต้น รวมถึงปรับปรุงบทกำหนดโทษให้เหมาะสมกับปัจจุบัน และปรับปรุงเพดานอัตราค่าธรรมเนียมต่าง ๆ และเพดานอัตราภาษีให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม กรมสรรพสามิตจะเดินหน้าชี้แจงภาคเอกชน สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) รวมถึงหอการค้าต่างประเทศในไทย และจะจัดพิมพ์ พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิต ทั้งภาษีไทยและอังกฤษ เพื่อแจกจ่ายให้แก่เอกชนและผู้ที่สนใน เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายฉบับใหม่ต่อไป