ลุยยึดสวนปาล์มนายทุนใหญ่ รุกป่าภูพาน 98 ไร่

ลุยยึดสวนปาล์มนายทุนใหญ่ รุกป่าภูพาน 98 ไร่

จนท.สนธิกำลังนำจีพีเอสตรวจสอบ พร้อมบุกยึดคืนสวนปาล์มน้ำมัน รุกป่าสงวนแห่งชาติกลางป่าภูพาน พบนายทุนรายใหญ่ตัดโค่นต้นไม้ปลูกปาล์มกว่า 5 พันต้น รวมเนื้อที่ 98 ไร่

พ.อ.มานพ ไขขุนทด รองผอ.กอ.รมน.กาฬสินธุ์ นายนิยม กิตติวงศ์ตระกูล ผอ.ส่วนทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ นายสัมพันธ์ ยอยโพธิ์สัย ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่งคงอำเภอคำม่วง นายนพคุณ สมัตถะ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่กส.3 (ภูพาน) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กอ.รมน.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 (ขอนแก่น) โดยหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กส.3(ภูพาน) ตำรวจสภ.คำม่วง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกันนำแผนที่และเครื่องจีพีเอสเข้าตรวจสอบและตรวจยึดสวนปาล์มน้ำมันของนายทุน บริเวณทิศเหนือบ้านดงสวน ม.7 ต.นาทัน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าภูพาน

จากการตรวจสอบ พบว่า มีต้นไม้ถูกตัดโค่นเหลือแต่ตอ มีการกานรอบลำต้นให้ต้นไม้ยืนต้นตายให้สะดวกในการปลูกต้นปาล์มน้ำมัน แยก 2 แปลง โดยแปลงแรกมีเนื้อที่ 76 ไร่ แปลงที่สองเนื้อที่ 22 ไร่ รวม 98ไร่ ปลูกต้นปาล์มน้ำมันกว่า 5,000 ต้น อายุประมาณ 3 ปี นอกจากนี้ยังปลูกสร้างที่พักอาศัยอย่างมั่นคงถาวร มีห้องน้ำ มีการจัดการระบบน้ำที่สูบจากห้วยลำพันชาด เตรียมเอาไว้ดูแลต้นปาล์ม ทั้งยังมีการทำถนนและสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กไว้สำหรับลำเลียงผลผลิตส่งขายอีกด้วย ส่วนเจ้าของสวนปาล์มคาดว่ามีประมาณ 1-2 คน ที่อาศัยอยู่ที่พัก ไหวตัวทันหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่มาถึง แต่คาดว่าน่าจะเป็นชาวบ้านที่นายทุนจ้างมาเพื่อเฝ้าสวน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบสวนยางพารา ซึ่งปลูกอยู่รอบสวนปาล์มน้ำมันและบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าภูพานอีกกว่า 200 ไร่

พ.อ.มานพ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบมีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าภูพาน ปลูกปาล์มน้ำมัน ซึ่งเป็นของนายทุนรายใหญ่แน่นอน เพราะสวนปาล์มแห่งนี้ คาดต้องใช้เงินลงทุนกว่า 1 ล้านบาท อีกทั้งมีการสร้างที่พักถาวร สร้างสะพาน และจัดระบบน้ำไว้อย่างดี นอกจากนี้ประสานตำรวจพื้นที่ สภ.คำม่วง เพื่อติดตามตัวนายทุนรายใหญ่ เจ้าของสวนปาล์มที่บุกรุกป่ามาดำเนินคดีให้ได้ ส่วนพื้นที่บริเวณโดยรอบที่ตรวจพบมีการปลูกยางพาราอีกกว่า 200 ไร่นั้น เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบว่าเป็นนายทุนคนเดียวกันหรือไม่และจะทำการตรวจสอบ เพื่อยึดคืนผืนป่าตามนโยบายของรัฐบาลและ คสช.ต่อไป

ด้านนายนิยม กล่าวว่า ทางสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ บูรณาการกับทุกฝ่ายตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แลรัฐบาล ตามโครงการพลิกฟื้นผืนป่าสู่ที่การพัฒนาที่ยิ่งยืนในมาตรการบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะนายทุนที่บุกรุกป่าอย่างเด็ดขาด แต่จะไม่ให้มีผลกระทบต่อผู้ยากไร้ พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชน  ซึ่งเมื่อผลคดีถึงที่สุดแล้ว จะดำเนินการและฟื้นฟูสภาพป่าที่ตรวจยึดให้กลับมาอย่างยั่งยืน ส่วนพื้นที่มีการบุกรุกของกลุ่มนายทุนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติภูพาน บริเวณอื่นและพื้นที่อื่นๆ จะมีการดำเนินการตรวจสอบพร้อมทั้งปฏิบัติการตรวจยึดคืนจากนายทุน และดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด