ทดสอบ 1,580-1,585

ทดสอบ 1,580-1,585

สรุปสภาวะตลาดสหรัฐ ฯ และยุโรป ( 16 มี.ค. 2560 – 23 มี.ค. 2560)

สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐฯปรับตัวลง DJIA -1.38%, FTSE100 -0.60%, DAX -0.88% เนื่องจากเกิดความเสี่ยงในการดำเนินนโยบายล่าช้าของทรัมป์ มีเพียง CAC ฝรั่งเศส +0.18%

สรุปสภาวะตลาดหุ้นจีน ( 16 มี.ค. 2560 – 23 มี.ค. 2560)

ตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้น +0.11% เนื่องจากความกังวลด้านอัตราแลกเปลี่ยนหลัง ทางการจีนแทรกแซงค่าเงินหยวนในตลาด OFFSHORE ที่ฮ่องกงอย่างต่อเนื่อง

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา ( 16 มี.ค. 2560 – 23 มี.ค. 2560)

SET INDEX ปรับตัวขึ้นนำโดยกลุ่มหุ้นกลุ่ม BIG CAP อาทิเช่น CPALL AOT PTT ตามทิศทางบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียเป็นบวกต่อเนื่องหลังการประชุม ปิด ณ ที่ระดับ 1,566.66 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 25.86 จุด +1.68%

สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (24 - 30 มี.ค.)

เราคงมุมมองต่อการลงทุนตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าเป็น “กลางถึงบวก” ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 แม้ว่ามูลค่าการซื้อขายจะเบาบางต่อเนื่องอีกสัปดาห์ เฉลี่ย 3.5-4.0 หมื่นล้านบาท/วัน เพราะนักลงทุนต้องสำรองเงินสำหรับการจองซื้อหุ้น IPO ราว 4 หลักทรัพย์ในช่วง 1-3 สัปดาห์นี้ วงเงินระดมทุนไม่ต่ำกว่า 2.0 หมื่นล้านบาท เพียงแต่ downside risk ของ SET INDEX จำกัดในช่วงนี้เช่นกัน ด้วยปัจจัยเงินปันผลของ PTT มากถึง 10.00 บาท/หุ้นขึ้น XD วันที่ 29 มี.ค. และการทำ Window Dressing ในสัปดาห์สุดท้ายของ 1Q60 เราประเมิน SET INDEX จะแกว่งแบบ sideways-to-sideways-up เพื่อทดสอบด่าน 1,580-1,585 จุดในสัปดาห์หน้า

ประเด็นสำคัญสัปดาห์หน้าคือ ผลการประชุมโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกวันที่ 26 มี.ค.นี้ เพื่อพิจารณาถึงผลการลดกำลังการผลิตใน 1Q60 เมื่อเทียบกับเป้าหมายที่ตกลงไว้ และมุมมองต่อความร่วมมือในการลดกำลังการผลิตในช่วง 2H60 จะเป็นไปได้หรือไม่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับท่าทีของรัสเซีย ซึ่งเป็นแกนนำนอกกลุ่มโอเปก หากผลการประชุมนัดนี้ส่งสัญญาณลดกำลังการผลิตต่อใน 2H60 ย่อมทำให้ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ดีดตัวกลับไปทดสอบด่าน US$53-55/barrel ได้อย่างรวดเร็ว

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ ให้ถือพอร์ตระยะกลางถึงยาวที่เน้นสะสมหุ้นหลัก (Big Cap) ที่ให้ทยอยสะสมมาตลอด 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อรอขายทำกำไรรอบฟื้นตัวบริเวณ 1,590-1,600 จุด พร้อมเข้าทยอยสะสมหุ้นขนาดกลางและ Big Cap ที่ผลการดำเนินงานใน 1Q60 จะเติบโตเด่น yoy และ/หรือ qoq เป็นเป้าหมายรอบนี้

ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์หน้า

1. ติดตามการให้ความเห็นของประธานเฟดสาขาต่างๆ ตลอดสัปดาห์ เพื่อประเมินช่วงเวลาของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยรอบถัดไป

2. ติดตามการพิจารณาการแก้ไขกฎหมาย Obamacare ของสภาสหรัฐ ซึ่งจะเริ่มโหวตจากสภาล่างในวันที่ 23 มี.ค.

3. ติดตามการประชุมครม. เพื่อพิจารณาถึงสัญญาโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย

4. ติดตามการประชุม กนง. วันที29 มี.ค. คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย RP1 วันที่ 1.50%

5. ติดตามการปรับเป้าหมาย GDP ปี 2560 ของ ธปท. ช่วงปลายเดือนมี.ค.

6. ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิต – บริการของอียู / ยอดค้าปลีก อังกฤษ / ดัชนี PMI ภาคการผลิต จีน / อัตราการว่างงาน – อัตราเงินเฟ้อ ญี่ปุ่น