โบรกคาด 'กลุ่มอสังหา' กระทบสั้น

โบรกคาด 'กลุ่มอสังหา' กระทบสั้น

โบรกคาดกลุ่มอสังหา "กระทบระยะสั้น" ขณะที่ราคาหุ้นร่วงสวนตลาด ประเมินผู้ประกอบการรายเล็กที่มีที่ดินขนาดใหญ่รับผลกระทบมากสุด

โบรกระบุหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์รับผลกระทบระยะสั้น กรณีครม. อนุมัติร่างภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ประเมินผู้ประกอบการรายเล็กที่มีที่ดินขนาดใหญ่รับผลกระทบมากสุด แต่ในระยะยาวเป็นผลดีต่อราคาที่ดินโดยรวม ขณะที่ราคาหุ้นอสังหาฯขยับลงเล็กน้อย 

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์วานนี้ (23 มี.ค.) แกว่งตัวในกรอบแคบ อย่างไรก็ตาม หุ้นอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) ปิดที่ 4.92 บาท ลดลง 0.81% มูลค่าการซื้อขาย 80.89 ล้านบาท และหุ้นควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) ปิดที่ 2.56 บาท ลดลง 0.78% มูลค่าการซื้อขาย 90.53 ล้านบาท

นักวิเคราะห์ บล.ทิสโก้ ระบุวา กรณีที่ ครม. ได้อนุมัติร่างภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยมีประเด็นสำคัญคือ ที่ดินว่างเปล่าคิดภาษีที่ 2% และเพิ่มขึ้น 0.5% ทุก 3 ปี จนสูงสุดที่ 5% ซึ่งกระตุ้นให้เจ้าของที่ดินนำที่ดินไปใช้ประโยชน์ โดยร่างกฎหมายก่อนหน้าคิดภาษี 1% สำหรับที่ดินเปล่า หรือได้ใช้ประโยชน์ 1-3 ปี, 2% สำหรับ 4-6 ปี และ 3% สำหรับ 7 ปีขึ้นไป

กฎหมายนี้จะส่งผลกระทบต่อบริษัทขนาดเล็กที่มีการถือที่ดินขนาดใหญ่มาเกิน 4 ปี และส่งผลกระทบต่อนักลงทุนที่มีบ้านเช่าหลายหน่วย เนื่องจากโดนภาษีบ้านหลังที่ 2 แต่มองว่าฐานภาษีที่ 2% จะไม่กระทบต่อผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ถือที่ดินไม่เกิน 3 ปี และผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีที่ดินติดรถไฟฟ้าจะได้รับผลกระทบน้อยจากราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้นมากกว่าอัตราภาษี

นักวิเคราะห์กล่าวเพิ่มว่า แม้ว่ากลุ่มอุตสาหกรรมจะเติบโตปานกลาง แต่หุ้น AP, PSH และ QH ยังเป็นหุ้นแนะนำในช่วง 12 เดือนข้างหน้า จากผลประกอบการที่เติบโตในปี 2560, ราคาหุ้นที่ไม่แพง และเงินปันผลที่น่าสนใจ และเรายังคงแนะนำให้ถือ LH, SPALI, LPN และ SIRI เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการที่เติบโตต่ำ

ด้านนักวิเคราะห์ บล.ทรีนีตี้ระบุว่า ประเด็นร่างพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่อาจส่งผลลบเชิง Sentiment ต่อราคาหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ได้บ้างในระยะสั้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มี Land bank ที่รอการพัฒนาอยู่มาก แต่สำหรับระยะยาวมองว่าจะเป็นผลดี เนื่องจากคาดว่าจะมีการนำที่ดินที่ไม่ได้ประกอบกิจการมาขายในตลาดเพิ่มมากขึ้น และช่วยชะลอการเพิ่มขึ้นของราคาที่ดินนัก

โดยฝ่ายวิจัย ยังคงเลือก AP และ ANAN เป็น Top Pick ของกลุ่ม เนื่องจากมีการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่งจากโครงการร่วมทุน

ทั้งนี้ พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับนี้จะต้องรอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาก่อน ซึ่งคาดว่าจะสามารถบังคับใช้ได้ในปี 2562