'คลัง'ลุยลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ยันรัฐบาลไม่ถังแตก

'คลัง'ลุยลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ยันรัฐบาลไม่ถังแตก

"รมว.คลัง" เดินหน้าแผนปฏิรูปเศรษฐกิจ 5 ด้าน เน้นด้านคมนาคม พร้อมลุยลงทุนโครงสร้างพื้นฐานหวังเป็นศูนย์กลาง CLMV ยันรัฐบาลไม่ถังแตก

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยในโอกาสเปิดงาน SET in the city 2017 ว่า ในวันนี้ ประเทศไทยอยู่ระหว่างการปฏิรูปประเทศ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเร่งดำเนินการ เนื่องจาก พบว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยมีรัฐบาลที่อยู่ตลอดครบอายุ 4 ปี ค่อนข้างน้อย ส่งผลให้มาตรการในแต่ละรัฐบาลที่ดำเนินการทำนั้น เป็นมาตรการระยะสั้น ซึ่งในบางมาตรการนั้นสร้างปัญหาระยะยาวในอนาคต ดังนั้น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหลายฝ่ายจึงเห็นสอดคล้องและกำหนดให้การปฏิรูปบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ที่จะต้องมีคณะกรรมการปฏิรูปอีก 5-6 ด้าน ทั้งการปฏิรูปการเมือง ปฏิรูปกฎหมาย ด้านยุติธรรม การปฏิรูประบบราชการ เป็นต้น

ขณะที่กระทรวงการคลัง ที่ดูแลในเรื่องของเศรษฐกิจนั้น ขณะนี้คลังได้เตรียมปฏิรูปเศรษฐกิจ 5 ด้าน ประกอบด้วย ปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานประเทศ ปฏิรูปภาคอุตสาหกรรม ปฏิรูปภาษี ปฏิรูปความเหลื่อมล้ำ ปฏิรูปด้านความมั่นคงทางการคลัง

ทั้งนี้ ในส่วนของการปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะด้านคมนาคม ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของประเทศไทยให้เพิ่มความสามารถในการแข่งขันได้ เนื่องจากในปัจจุบัน พบว่า ในเรื่องของระบบการขนส่งของไทยนั้นยังล้าหลัง เช่น ในเรื่องของรถไฟรางคู่ ที่ประเทศไทยใช้มาตั้งแต่รัชกาลที่ 5 มีความเร็วอยู่ที่ 50-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ดังนั้นรัฐบาลจึงเร่งดำเนินการ เพื่อพัฒนาในเรื่องของการรถไฟให้มีศักยภาพมากขึ้น ซึ่งมองว่า หากทำได้ เช่น การเพิ่มความเร็วในการเดินทางเป็น 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ จะช่วยลดต้นทุนการขนส่งได้มหาศาล ส่งผลให้รัฐบาลพยายามลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจำนวนกมาก นอกจากนี้ยังหวังให้ไทยเป็นศูนย์กลางของ CLMV ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม

ขณะที่ในด้านของการบิน ที่พยายามจะสร้างให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการบิน เนื่องจากในปัจจุบัน พบว่า ไทยมีสายการบินผ่านมากติดอันดับ 2-3 ของโลก ดังนั้นจึงพยายามพัฒนาท่าอากาศยาน โดยเฉพาะท่าอากาศยานอู่ตะเภา ที่นอกจากจะทำให้มีการพัฒนาในเรื่องของท่าอากาศยานแล้ว ล่าสุดการบินไทย ยังได้ร่วมกับแอร์บัส เพื่อศึกษาการพัฒนาศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานแห่งภาคพื้นแปซิฟิกด้วย รวมไปถึงการเดินหน้าโครงการระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก หรือ อีอีซี ซึ่งมองว่าหากสามารถพัฒนาได้ และทำได้สำเร็จ จะทำให้ประเทศไทยมีความแข็งแกร่ง

"วันนี้ในช่วงที่ยุโรป สหรัฐ มีความไม่แน่นอนเยอะ เราต้องพึ่งพาตนเอง และการพึ่งพาตนเอง คือ การลงทุนของภาครัฐที่จะต้องเกิดขึ้น ตอนนี้เราพยายามพัฒนาในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานหลายด้าน ถือเป็นการช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตได้ โดยยืนยันว่า การลงทุนของภาครัฐเราไม่ได้ใช้จ่ายไปฟรีๆแต่จะมีผลตอบแทนเกิดขึ้นในอนาคต ที่กลับเข้ามา" นายอภิศักดิ์ กล่าว

สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การปฏิรูปวินัยและความมั่นคงทางการคลัง ซึ่งหากมีการใช้เงินไปเรื่อยๆ จะส่งผลให้ความมั่นคงทางการคลังมีปัญหา ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงได้ออกกฎหมายวินัยการเงินการคลัง กฎหมายงบประมาณ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งมั่นใจว่า อนาคตประเทศไทยจะมีความมั่นคง และยืนยันว่า จะไม่ถังแตกอย่างแน่นอน

"สิ่งที่เราหวังว่า คือ การรีฟอร์มเศรษฐกิจ เราหวังว่า เมื่อทำเสร็จ แม้ว่าขณะนี้อาจจะยังไม่เห็น แต่มันเป็นการสร้างรากฐาน เราเชื่อว่าในอนาคตดีแน่นอน และนี่คือการสร้างประเทศไทยยุคใหม่ และทำให้เราเจริญเติบโตได้อีก 10-20 ปีข้างหน้า ภาคการเงินการคลัง ใครไม่ปรับตัว ไม่สามารถใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ จะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และไม่สามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ และสิ่งที่รัฐบาลพยายามส่งเสริม คนที่มีก็ต้องพยายามส่งเสริมคนที่ไม่มีขึ้นไป ทั้งโครงการพี่ช่วยน้อง" นายอภิศักดิ์ กล่าว