ส่องเทรนด์มาร์เก็ตติ้ง“พีเพิลแบรนด์”มาแรง

ส่องเทรนด์มาร์เก็ตติ้ง“พีเพิลแบรนด์”มาแรง

การบริหารแบรนด์และการทำการตลาด หรือมาร์เก็ตติ้ง ยังคงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญในการพาแบรนด์ไปสู่เป้าหมาย

ทั้งเป้าหมายเชิงธุรกิจ ยอดขายสินค้า สร้างการรับรู้และสร้างภาพจำให้กับตัวแบรนด์สินค้าของแต่ละองค์กร

ศิริกุล เลากัยกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แบรนด์บีอิ้ง จำกัด ที่ปรึกษาด้านการสร้างแบรนด์ กล่าวว่า ทิศทางการสร้างแบรนด์โดยรวมของปีนี้ว่าจะเข้าสู่การสร้างแบรนด์ภายใต้คอนเซ็ปต์ พีเพิล แบรนด์ (People Brand) มากขึ้น ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์การทำแบรนด์ที่คำนึงถึงคนทุกกลุ่ม (All Stakeholders) ทั้งผู้ที่เป็นลูกค้าและไม่ใช่ลูกค้า ตลอดจนคำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมโดยรวมมากขึ้น เพื่อให้เกิดการสร้างแบรนด์อย่างยั่งยืน เพราะถ้าหากแบรนด์ใดคำนึงถึงแต่ผลประโยชน์ทางธุรกิจอย่างเดียว หรือเห็นแก่ตัว แบรนด์นั้นก็จะเข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคไม่ได้ และอยู่ในตลาดได้ไม่นาน

ทั้งนี้ แนวทางการทำให้เกิดพีเพิล แบรนด์ อีกนัยหนึ่งคือการคำนึงถึงหลัก “3P” ประกอบด้วย Profitกำไร Peolpleผู้คน และPlanetโลก รวมถึงสิ่งแวดล้อม ที่แบรนด์ต้องตระหนักและใส่ใจกับสิ่งรอบข้าง เนื่องจากโลกในปัจจุบันเชื่อมโยงกันมากขึ้น แบรนด์จึงต้องขับเคลื่อนด้วยมุมมองที่กว้างมากขึ้น แตกต่างจากการทำแบรนด์แบบเดิมๆ ที่ให้ความสำคัญกับคอนเซ็ปต์ คอนซูเมอร์แบรนด์ โปรดักท์แบรนด์ หรือคอร์ปอเรทแบรนด์ เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนั้นการบริหารแบรนด์ที่ดีจะต้องผสมผสานคอนเซ็ปต์ต่างๆ ปรับเปลี่ยนสู่แนวทางทำแบรนด์อย่างยั่งยืน หรือสอดคล้องกับแนวคิด Sustainability

อย่างไรก็ดี แนวทางการทำแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จ หรือบรรลุเป้าหมาย แบรนด์จะต้องมี “จุดยืน” และวางจุดหมายทาง หรือจุดประสงค์ให้ชัดเจน จากนั้นค่อยหากลยุทธ์ต่างๆพาแบรนด์ไปสู่เป้าหมาย

กฤตินี ณัฏฐวุฒิสิทธิ์ อาจารย์ประจำสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า สินค้าที่จะมีโอกาสทำตลาดในปีนี้ ได้แก่ กลุ่มสินค้าเกี่ยวกับธรรมชาติยังเป็นเทรนด์ที่ผู้บริโภคให้ความสนใจอยู่มาก เพราะผู้บริโภคเริ่มมองหาการเข้าถึงธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งแบรนด์สินค้าก็ต้องพยามนำเสนอสินค้ากลุ่มนี้ให้แตกต่างไปจากการบอกสรรพคุณทั่วไป หรือทำให้แตกต่างจากการชูจุดขายสินค้าออร์แกนิคแบบผิวเผิน โดยที่แบรนด์อาจจะเลือกวิธีการนำเสนอให้ผู้บริโภคได้สัมผัสวิถีธรรมชาติมากขึ้น

ชลิต ลิมปนะเวช อุปนายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปีนี้ถือเป็นอีกปีที่ท้าทายสำหรับธุรกิจต่างๆ รวมถึงนักการตลาดที่จะต้องหากลยุทธ์มาช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับแบรนด์สินค้า เพราะคาดว่าสภาพเศรษฐกิจในปีนี้อาจยังไม่ดีขึ้นกว่าปีก่อนมากนัก นักการตลาดจึงต้องปรับตัว ดึงเครื่องมือต่างๆที่จะช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำตลาดเข้ามาใช้ โดยเฉพาะเครื่องมือดิจิทัลมีเดีย ที่อาจใช้ต้นทุนต่ำและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด

ทั้งนี้ ยังมองว่าสูตรการตลาดSMACก็ยังคงตอบโจทย์และสามารถประยุกต์ใช้กับการทำตลาดในยุคนี้ได้อยู่ ประกอบด้วย S –Social Media ที่ช่วยเผยแพร่ข้อมูล คอนเทนท์ต่างๆได้รวดเร็ว และเข้าถึงกลุ่มคนได้มากM –Mobilityที่ใช้เครื่องมือเทคโนโลยีต่างๆ เสริมประสิทธิภาพการทำงานให้คล่องตัวมากขึ้นA- Analyticalที่ต้องนำข้อมูลต่างๆมาวิเคราะห์ตลาด คู่แข่ง เทรนด์ ตลอดจนพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อนำไปสู่การวางแนวทางการทำตลาดอย่างแม่นยำหรือมีประสทิธิภาพมากขึ้น และองค์ประกอบสุดท้าย คือ C- Cloud เครื่องมือเซิร์ฟเวอร์สำหรับจัดเก็บข้อมูล ได้ในจำนวนมาก และสามารถหยิบข้อมูลมาใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา

“ในปีนี้มองว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซยังคงมาแรง โดยเป็นแหล่งรวมทุกสินค้าและบริการไว้บนโลกออนไลน์ ผู้ประกอบการหันปรับเข้าหาแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น และอีกธุรกิจที่จะได้รับอานิสงส์ขยายตัวตาม คือ ธุรกิจโลจิสติกส์ ให้บริการจัดส่งสินค้า”