นารายณ์ฯชูกลยุทธ์“ทำเล-คุ้มค่า-ดีไซน์”เจาะคนรุ่นใหม่

นารายณ์ฯชูกลยุทธ์“ทำเล-คุ้มค่า-ดีไซน์”เจาะคนรุ่นใหม่

นารายณ์ พร็อพเพอตี้ รับมืออสังหาฯ ทรงตัว วางกลยุทธ์ “ทำเล-คุ้มค่า-ดีไซน์” เจาะคนรุ่นใหม่ เปิดตัวตึกใหม่ “เดอะ พาร์คแลนด์” จรัญฯ-ปิ่นเกล้า

นายเจนต์ชัย ลิ้มวัฒนะกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท นารายณ์พร็อพเพอตี้ จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ว่า ตลาดยังคงทรงตัวตามปัจจัยเสี่ยงทั้งภายในและภายนอก โดยแนวโน้มดอกเบี้ยอยู่ในขาขึ้น ขณะที่โลกโกลบอลไลเซชั่นมีการเชื่อมต่อของภาวะการณ์ต่างๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และรายเล็ก  ต้องดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง

“ผู้ประกอบการต้องคำนึงถึงคุณภาพของพอร์ต ปรับสัดส่วนให้บาลานซ์ทั้งด้านดีมานด์ ซัพพลาย ตลาดเวลานี้ค่อนข้างซึม ขณะที่ฐานตลาดใหญ่ การเติบโตจากฐานใหญ่จึงค่อนข้างยาก”

สำหรับ นารายณ์พร็อพเพอตี้ มุ่งพัฒนาโครงการเกาะแนวรถไฟฟ้า เน้นรองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่เป็นจุดขายที่แตกต่างชัดเจนจากคู่แข่ง เจาะกลุ่มลูกค้าชนชั้นกลางที่เชื่อว่ายังมีความต้องการที่อยู่อาศัยในราคาคุ้มค่า เอื้อต่อการเดินทางสะดวก

โดยปีนี้ มีแผนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยต่อเนื่องทั้งแนวราบและแนวสูง เบื้องต้น 3 โครงการ รวมมูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย  โครงการเดอะ พาร์คแลนด์ จรัญฯ-ปิ่นเกล้า ซึ่งเตรียมเปิดตัวอาคารใหม่อย่างเป็นทางการ วันที่ 26 มี.ค. นี้ ราคาเริ่มต้น 1.94 ล้านบาท เจาะกลุ่มเป้าหมายวัยทำงาน นักศึกษา บุคลากรทางการแพทย์ นอกจากนี้จะแผนเปิดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่แนวรถไฟฟ้าช่วงปลายปี และโครงการบ้านเดียว 

ทั้งนี้  โครงการ เดอะ พาร์คแลนด์ จรัญฯ-ปิ่นเกล้า บนที่ดิน 11 ไร่เป็นอาคารสูง 22 ชั้น จำนวน 1 อาคาร 3 ทาวเวอร์ รวม 1,784 ยูนิต ขนาด 24-75 ตร.ม. ออกแบบภายใต้แนวคิด “Living in the Art of Precious Living” ด้านหน้าเป็นสถานีรถไฟฟ้าสถานีบางยี่ขันสายสีน้ำเงิน คาดเปิดบริการปี 2563 โดยหลังจากเปิดตัวอาคารแรก กลางเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว ตลาดตอบรับเกินคาดหมายมียอดจองกว่า 80% ทำให้บริษัทปรับแผนการตลาดด้วยการเปิดขายตึกใหม่เร็วกว่ากำหนดเดิม รองรับดีมานด์ในตลาด

นอกจากจุดเด่นด้านทำเล การตัดสินใจซื้อที่สำคัญ มาจากดีไซน์ และฟังก์ชั่นห้องพักที่ถูกออกแบบสอดคล้องไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่มากขึ้น   ยกตัวอย่าง ห้องขนาด 34.5 ตร.ม. มีโจทย์ว่าจะทำอย่างไรเพื่อสร้างความแตกต่างจากห้องรูปแบบเดิมๆ เราจึงออกแบบให้มีห้องอเนกประสงค์ที่ผู้อาศัยสามารถดัดแปลงเป็นห้องทำงาน ห้องนอนที่สอง หรือห้องพักผ่อนระหว่างวัน จึงเป็นที่สนใจของลูกค้า รวมทั้งสัดส่วนที่จอดรถสูงถึง 51% เป็นการสร้างความคุ้มค่าให้ลูกค้าเกินคาดหมาย

ปีนี้คาดจะมียอดขาย 3,500 ล้านบาท หากตลาดปรับตัวดีขึ้นอาจทำยอดขายได้ถึง 4,000 ล้านบาท