‘ปลูกรัก’เติมสมุนไพรสู่สากล

‘ปลูกรัก’เติมสมุนไพรสู่สากล

น้ำมันหอมระเหยสูตรผสมสมุนไพร 22 ชนิดเพื่อฟื้นฟูสุขภาพหญิงหลังการคลอดทดแทนการอยู่ไฟ ผลผลิตจากการผนวกความเชี่ยวชาญด้านพืชสมุนไพรเข้ากับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ตอบโจทย์สังคมเมือง

น้ำมันหอมระเหยสูตรผสมสมุนไพร 22 ชนิดเพื่อฟื้นฟูสุขภาพหญิงหลังการคลอดทดแทนการอยู่ไฟ ผลผลิตจากการผนวกความเชี่ยวชาญด้านพืชสมุนไพรเข้ากับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ตอบโจทย์สังคมเมือง

“รวิภัค เลิศปภากุลทร” มองเห็นศักยภาพพืชสมุนไพรในผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ขณะเดียวกันก็มองเห็นปัญหาราคาที่นำไปสู่การบุกรุกพื้นที่ป่า จึงเป็นที่มาของแนวคิดการสร้างป่าสร้างรายได้ผ่าน “ปลูกรัก” (Plant Love) การปลูกป่าสมุนไพรแบบยั่งยืนที่วางแผนการปลูกอย่างเป็นระบบและมีแผนการบริหารจัดการ สร้างรายได้ให้เกษตรกร เป็นการใช้พื้นที่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

ตอบโจทย์คนเมือง

“เราเริ่มต้นด้วยการทำผงชงดื่มบำรุงน้ำนมแม่ที่ใช้หัวปลี ขิงและใบกะเพรา เพื่อเพิ่มมูลค่าสมุนไพร ซึ่งผลตอบรับดี เราจึงเริ่มสร้างเป็นวิสาหกิจชุมชน ปลูกพืชสมุนไพรให้ออกมาในลักษณะเกษตรอินทรีย์และให้เป็นเกษตรยั่งยืน” รวิภัค ผู้ก่อตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด ภาลักษณ์เจริญ เจ้าของแบรนด์ปลูกรักกล่าว

เมื่อวัตถุดิบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เธอจึงเริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยดูความต้องการและการดำเนินชีวิตของคนเมืองมาเป็นโจทย์ ยกตัวอย่าง การดูแลสุขภาพหลังคลอดบุตรด้วยการอยู่ไฟ ซึ่งมีการใช้พืชสมุนไพรต่างๆ และความร้อนช่วยฟื้นฟูสุขภาพและเสริมสร้างปริมาณน้ำนม แต่ผู้หญิงในสังคมเมืองที่รีบเร่ง ถือว่ายากมากที่จะได้ “การอยู่ไฟ” จึงนำแนวคิดนี้มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้ความรู้สึกเหมือนการอยู่ไฟในวิธีที่สะดวกขึ้น

สมุนไพรอบอาบจากสมุนไพร 22 ชนิดผสมผสานกัน ถูกพัฒนาขึ้นตามสูตรโบราณให้เป็นสารสกัดที่ตอบโจทย์ความต้องการของสตรหลังการคลอด รวิภัคจึงเข้าไปขอรับทุนไอแทป สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ที่มีผู้เชี่ยวชาญช่วยพัฒนาเทคนิคการสกัดสารสำคัญจากสมุนไพร 22 ชนิดแล้วหยดใส่น้ำอุ่นทำให้การใช้งานง่ายขึ้น จากเดิมที่ต้มในหม้อดิน

“เราไม่รู้ว่าหากทำด้วยตนเอง คุณสมบัติสำคัญของสมุนไพรทั้ง 22 ชนิดจะยังคงอยู่และดีเทียบเท่ากับสูตรโบราณก่อนที่จะประยุกต์อย่างที่เราทำหรือไม่ บางตัวละลายในน้ำ บางตัวละลายในน้ำมัน จึงต้องหากระบวนการสกัดที่เหมาะสมกับสมุนไพรแต่ละชนิด ในขณะเดียวกันก็ต้องมีกลิ่นที่เหมาะสม” เจ้าของแบรนด์กล่าว พร้อมเผยว่า การวิจัยและพัฒนาเสร็จสิ้น และพร้อมต่อยอดเชิงพาณิชย์ในปีที่ผ่านมา

รุกตลาดสปาในจีน

สมุนไพรอบอาบปลูกรัก รวิภัค กล่าวว่า กลุ่มเป้าหมายเป็นลูกค้ากลุ่มเดียวกับผงชงเพิ่มน้ำนมที่เป็นผลิตภัณฑ์แรก ซึ่งสัดส่วนลูกค้า 70% เป็นสตรีในสังคมเมือง ขณะเดียวกันก็ได้ลูกค้ากลุ่มสปาที่ต้องการผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ใช้งานสะดวก 30%

“ปัจจุบันยังไม่มีผลิตภัณฑ์นี้ในตลาด และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคให้ใช้ง่าย ใช้สะดวก และใช้ได้หลากหลาย ทำให้เป็นโอกาสที่ดีทางการตลาด และเพื่อให้เป็นที่ยอมรับในระดับโลก จึงส่งประกวดและได้รับรางวัล iCAN 2016 แคนาดาและ WiC2016 เกาหลีใต้”

เป้ารายได้ปี 2560 รวิภัคตั้งไว้ที่ 10 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับกลุ่มสปาของจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่มากและให้ความสนใจสมุนไพรไทยที่มีภาพลักษณ์ที่ดี เป็นที่ยอมรับของคนจีน นอกจากนี้ก็มีลูกค้ารายย่อยจากสหรัฐอเมริกาและยุโรป ซึ่งอนาคตจะขยายผ่านดิสทริบิวเตอร์

“ความสำเร็จในช่วงแรกนี้เป็นก้าวแรกของปลูกรัก ซึ่งเราตั้งใจจะสร้างธุรกิจที่คืนกลับให้สังคม นอกจากการส่งเสริมให้ชาวบ้านทำวิสาหกิจชุมชนที่แม่ระมาด จ.ตาก แล้วยังขยายเป็นเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน ให้วิสาหกิจชุมชนที่มีอยู่แล้วร่วมปลูกสมุนไพรด้วย ตอนนี้มีพื้นที่ปลูกราว 100 ไร่”

แนวคิดดังกล่าวทำให้ “ปลูกรัก” ได้รับรางวัลชมเชย ประเภทที่ช่วยยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิต (Life Enhancement) กลุ่มผู้ประกอบการและบริษัทเอกชน ในการประกวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเกษตรที่ไม่ใช่อาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (ไทยแลนด์ กรีนดีไซน์ อวอร์ด 2017)