ศาลสั่งคุก5ปี แก๊งค้ามนุษย์รายใหญ่ชาวอิหร่าน

ศาลสั่งคุก5ปี แก๊งค้ามนุษย์รายใหญ่ชาวอิหร่าน

"ดีเอสไอ" เผยศาลลงโทษจำคุก 5 ปี แก๊งค้ามนุษย์-ปลอมพาสปอร์ตชาวอิหร่าน พรางตัวเป็นนักธุรกิจในไทยนาน10ปี พบขบวนการใหญ่ตะวันออกกลาง

พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ศาลอาญา มีคำพิพากษาตัดสินคดีนายปาค เนจัด ซีเยส รามิน (Sayed Ramin Paknejad) หรือ นายอาเรียด รามิน (Alias Ramin) ชาวอิหร่าน ผู้ต้องหาปลอมหนังสือเดินทางให้กับผู้ที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศที่ 3 และเป็นขบวนการลักลอบส่งคนเข้าประเทศที่ 3 และค้ามนุษย์รายใหญ่ในตะวันออกกลาง

โดยพรางตัวเป็นนักธุรกิจอยู่ในไทยมากว่า 10 ปี ซึ่งดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาเคยถูกจับกุมได้ที่สภ.พัทยาแต่ศาลจังหวัดพัทยาให้ประกันตัว หลังจากนั้นผู้ต้องหาจึงหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย และดีเอสไอได้ประสานกับทางการมาเลเซียเพื่อขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน โดยใช้เวลาประมาณ 3 ปี. เนื่องจากผู้ต้องหาได้ยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดีที่ศาลมาเลเซียเพื่อขอให้ศาลไม่ส่งตัวกลับมาดำเนินคดีที่ไทย ต่อมาวันที่ 26 เม.ย.59 ศาลสหพันธรัฐมาเลเซียมีคำสั่งถึงที่สุด ให้ส่งตัวผู้ต้องหากลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทยเมื่อวันที่ 21 ก.ค. 59 ซึ่งกระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนต้องใช้วิธีปฏิบัติต่อผู้ร้ายข้ามแดนตามมาตรฐานสากล โดยใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยในระดับสูงสุด ขณะเดียวกันต้องปฏิบัติตามระเบียบของสายการบินพาณิชย์คือ คุมตัวผู้ต้องหาโดยปราศจากเครื่องพันธนาการ เพื่อไม่ให้กระทบต่อสวัสดิภาพของผู้โดยสารรายอื่น

พ.ต.อ.ทรงศักดิ์กล่าวด้วยว่า ล่าสุดศาลอาญาได้พิจารณาคดีและมีคำพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพรบ.ยาเสพติด มาตรา 15(1) มาตรา67 ป.อาญามาตรา246 วรรคแรก การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรม ฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครอง จำคุก 1 ปี ฐานปลอมแปลงเอกสาร 9 ฉบับ เป็นความผิด 9 กรรมต่างกัน จำคุกกระทงละ 1 ปี รวมโทษ 9 ปี

เมื่อรวมโทษทุกกระทงความผิดแล้วจำคุก 10 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตาทกฎหมายมาตรา 78 กึ่งหนึ่ง เหลือโทษจำคุก 5 ปี และริบของกลางตามบัญชีของกลางเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.55